คิด+ทำอย่าง “SAP” “เราให้ความสำคัญพนักงานเสมอ”

SAP หนึ่งในผู้นำด้านซอฟต์แวร์ระบบการจัดการที่ช่วยให้การดำเนินงานขององค์กรทุกขนาดมีประสิทธิภาพที่ใหญ่สุดของยุโรป และใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของโลก โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศเยอรมนี ทั้งยังเป็นองค์กรที่ประสบความสำเร็จมายาวนานนับตั้งแต่ปี 1972

โดยปัจจัยหลักที่ทำให้ SAP เติบโตมาถึงทุกวันนี้คือการให้ความสำคัญกับบุคลากร อันเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนธุรกิจ กระทั่งขยายธุรกิจมาที่ประเทศไทยในปี 1995 ภายใต้ชื่อบริษัท เอสเอพี (ประเทศไทย) จำกัด ที่ดำเนินธุรกิจโดยให้ความสำคัญกับบุคลากรเช่นเดียวกันกับบริษัทแม่ จนทำให้ SAP Thailand ได้รับรางวัลสุดยอดนายจ้างดีเด่นแห่งประเทศไทย ประจำปี 2017 จากเอออน ฮิววิท

“ลีเฮอร์ ออบิซูร์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอพี ประจำภูมิภาคอินโดจีน กล่าวว่า เรามีวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจที่ต้องการช่วยให้โลกใบนี้ดำเนินไปในทิศทางที่ดีขึ้น ทั้งยังช่วยพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน (To help the world run better and to im-prove people”s lives.)

“การจะทำให้วิสัยทัศน์ของเราเป็นจริงได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือการหาพนักงานที่มีความสามารถมาร่วมงาน เราจึงมุ่งมั่นพัฒนาองค์กรให้มีวัฒนธรรมที่ดึงดูดคนเก่ง และเป็นองค์กรที่พนักงานมีความสุขกับการมาทำงาน และรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจ โดยสิ่งเหล่านี้เป็นสาเหตุที่ทำให้เรารับรางวัลสุดยอดนายจ้างดีเด่นแห่งประเทศไทย ซึ่งนอกจากการผลักดันนโยบาย และพัฒนาองค์กรเพื่อเป็นหนึ่งสุดยอดนายจ้างดีเด่นของประเทศไทย เราหวังจะเป็นสุดยอดนายจ้างดีเด่นในทุกประเทศแถบภูมิภาคอินโดจีนที่เราดำเนินธุรกิจด้วย”

รางวัลสุดยอดนายจ้างดีเด่นมาจากการวัดคะแนนขององค์กรต่าง ๆ ผ่านองค์ประกอบ 4 ด้านที่สำคัญ ได้แก่ ระดับการมีส่วนร่วมของพนักงาน, ความมีประสิทธิภาพของผู้นำ, ความแข็งแกร่งของแบรนด์นายจ้าง และการเชื่อมโยงระหว่างวัฒนธรรมการทำงาน และประสิทธิภาพในการทำงาน

โดยผลวิจัยจาก Aon Best Employers ระบุว่า ผู้ชนะรางวัลสุดยอดนายจ้างดีเด่น (ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก) มีระดับการมีส่วนร่วมของพนักงานสูงกว่าตลาด 24% มีอัตราการลาออกต่ำกว่าตลาด 17% และมีอัตราการเติบโตของยอดขายสูงกว่าตลาด 25% ทั้งนี้ องค์กรต่าง ๆ ที่ชนะรางวัลดังกล่าว สามารถพิสูจน์ได้ว่าองค์กรของตนเองมีวัฒนธรรมของการมีส่วนร่วมระหว่างพนักงาน และผู้บริหารระดับสูงอยู่ในเกณฑ์ที่ดี จนส่งผลต่อประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจที่ดีขึ้น

“ท่ามกลางปัญหาการขาดแคลนบุคลากรในวงการไอทีของประเทศไทย เอสเอพีจึงใช้กลยุทธ์เฉพาะขององค์กรในการสรรหา พัฒนา และรักษาพนักงาน นอกจากนั้นการเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในการผลักดันวิสัยทัศน์ของบริษัทมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการช่วยให้องค์กรของเราเป็นองค์กรแห่งความสุข ทั้งยังมีความสำคัญต่อการเติบโต และการอยู่รอดของธุรกิจด้วย เพราะเมื่อพนักงานมีส่วนร่วมในองค์กรมากขึ้น ย่อมส่งผลให้มูลค่าธุรกิจเพิ่มขึ้น องค์กรโตขึ้น มีนวัตกรรมใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และสร้างพันธมิตรทางธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น”

ในการหาคนที่ใช่สำหรับ SAP Thailand “ลีเฮอร์ ออบิซูร์” มองว่าสิ่งสำคัญคือ การเลือกคนที่ทัศนคติ เมื่อคนมีทัศนคติที่ใช่แล้ว ความสามารถในตัวของพวกเขาจะถูกผลักดันออกมาได้ง่าย

“ทัศนคติที่เรามองมีด้วยกันอยู่ 5 ข้อคือ หนึ่ง คนที่เข้าใจว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร เพราะจะทำให้ตัวเขาอยากพัฒนาตัวเองเพื่อองค์กร และสามารถทำงานเป็นทีม สอง ยึดมั่นในสัจจะของตัวเองในการทำงานใด ๆ สาม กล้าพูดความจริง กล้าแสดงความคิดเห็น สี่ ขี้สงสัย สนใจสิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ เพราะเทคโนโลยีเปลี่ยนเร็วมาก หากไม่สนใจสิ่งใหม่ ๆ อยู่ตลอด จะเป็นจุดอ่อนในการทำงาน ห้า ไม่มีทัศนคติเชิงลบต่อความแตกต่าง ทั้งทางด้านเพศ เชื้อชาติ ศาสนา หรือความแตกต่างด้านอื่น ๆ”

ปัจจุบัน SAP Thailand มีพนักงาน 130 คน ซึ่งเป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วกว่าเท่าตัว เพราะเทคโนโลยีของเรากำลังเป็นที่ต้องการในเกือบทุกอุตสาหกรรมของประเทศไทย เนื่องด้วยทุกองค์กรต่างพยายามขับเคลื่อนตัวเองสู่การเป็นองค์กรดิจิทัล และนโยบาย Thailand 4.0 ของภาครัฐ ต่างเกี่ยวเนื่องกับการใช้เทคโนโลยีในการพัฒนาประเทศ

ด้วยจำนวนพนักงานที่เพิ่มขึ้น เรายิ่งให้ความสำคัญกับการลงทุนในการพัฒนาพนักงาน ซึ่งโปรแกรมที่โดดเด่นอันหนึ่งของเราคือ การให้พนักงานทุกคนไปศึกษางานที่ประเทศสิงคโปร์ เพื่อเรียนรู้เครื่องมือ และได้องค์ความรู้ใหม่ ๆ

ทั้งนี้ จุดแข็งในการพัฒนาศักยภาพคนของเราคือใช้ซอฟต์แวร์ที่บริษัทพัฒนาขึ้นเอง เพื่อช่วยจัดการดูแลเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพนักงานของเราอย่างครบวงจร (employee life cycle) นอกจากนั้น ยังมีการใช้ระบบโค้ชชิ่งเพื่อพัฒนาความเป็นผู้นำอีกด้วย

“ความท้าทายในการบริหารคนสำหรับเรามองว่า คนมีทางเลือกในการทำงานเสมอ ทุกคนแข่งขันกันตลอด เพื่อให้ได้สิ่งที่ดีในชีวิต ดังนั้น บริษัทจำเป็นต้องสร้างสภาพแวดล้อมในองค์กรที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนบ้าน เพื่อไม่ให้คนจากไป บวกกับการให้โอกาสในการเติบโตในหน้าที่การงานอย่างเท่าเทียมกัน และใส่ใจสุขภาพของพนักงานด้วย จึงเป็นที่มาของการจัดเกมที่ท้าทายพนักงานให้ออกกำลัง และจัดให้มีการสอนโยคะ”

“ลีเฮอร์ ออบิซูร์” กล่าวด้วยว่า เมื่อปีผ่านมาบริษัทตัดสินใจเปลี่ยนวิธีการประเมินผลการดำเนินงานของพนักงานแบบดั้งเดิมที่ทำปีละ 1-2 ครั้งมาเป็นการใช้ซอฟต์แวร์วัดผลการปฏิบัติงานรูปแบบใหม่ ชื่อว่า SAP Talk ที่ใช้เทคโนโลยี SAP SuccessFactors เพื่ออภิปราย และบอกความแตกต่างระหว่างพนักงานแต่ละคน โดยอ้างอิงจากการปฏิบัติงาน และฐานข้อมูล

“ทั้งยังเป็นโปรแกรมประเมิน และบริหารจัดการบุคลากรที่มีความต่อเนื่องระหว่างหัวหน้าและลูกน้อง สามารถพูดคุยสื่อสารกันได้บ่อยเท่าที่ต้องการ โดยเป็นการสนทนาแบบเรียลไทม์ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อฟีดแบ็ก นอกจากนี้ ยังสามารถประชุมกลุ่มผ่านซอฟต์แวร์ดังกล่าว และให้พนักงานเรียนรู้ทางออนไลน์ได้อีกด้วย”

“นอกจากการพัฒนาให้พนักงานมีศักยภาพในการทำงานที่ดี เราเชื่อว่าสิ่งสำคัญมากกว่านั้นคือ การพัฒนาให้เป็นคนดี มีประโยชน์ต่อสังคม เราจึงตั้งใจเปิดโอกาสให้พนักงานมีส่วนร่วมในความรับผิดชอบต่อสังคมผ่านโปรแกรมต่าง ๆ มาโดยตลอด เช่น SAP Social Sabbatical และ One Billion Lives (1BLives)”

จึงไม่น่าแปลกใจที่ความทุ่มเทที่ SAP Thailand มีให้กับพนักงาน จนทำให้บริษัทได้รับรางวัลสุดยอดนายจ้างดีเด่น ทั้งยังเป็นแบบอย่างให้กับองค์กรอื่น ๆ ที่ต้องการประสบความสำเร็จในธุรกิจระยะยาว ที่ควรจะต้องให้ความสำคัญกับการลงทุนด้านบุคลากรอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้