เครือซีพี ประกาศเป้าหมายใช้ 5 สูตรสำเร็จ มุ่งสู่องค์กรยั่งยืนในปี 2030

นพปฎล เดชอุดม
นพปฎล เดชอุดม

เครือซีพี ประกาศเป้าหมายมุ่งสู่องค์กรยั่งยืนภายในปี 2030 ใช้ 5 สูตรสำเร็จ ยึดหลัก ESG-ใช้นวัตกรรมใหม่ๆ-ปรับปรุงกระบวนการผลิต-กระตุ้นทุกภาคส่วนสร้างความร่วมมือทุกมิติ

วันที่ 27 พฤษภาคม 2565 นายนพปฎล เดชอุดม ประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กร เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวในงานเสวนา “ความยั่งยืนด้านการเงิน” (Sustainability in Finance) ในการประชุมวิชาการออนไลน์เรื่อง “ความยั่งยืนด้านการเงินและการพัฒนาตลาดทุนประจำปี 2022” (Sustainability in Finance and Capital Market Development 2022) ที่จัดโดยสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เพื่อแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ขององค์กรต่าง ๆ ในการสนับสนุนด้านการเงินและตลาดทุน โดยเน้นไปที่ปัจจัยที่เอื้อต่อการพัฒนาที่ยั่งยืนในองค์กรและการพยายามบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs)

นายนพปฎล เดชอุดม กล่าวว่า เครือเจริญโภคภัณฑ์ดำเนินธุรกิจมาครบหนึ่งศตวรรษ และในปีนี้ถือได้ว่าเข้าสู่ศตวรรษที่สองของเครือฯ ที่เต็มไปด้วยความท้าทายของโลกในหลายมิติ ซึ่งจะต้องตระหนักและให้ความสำคัญในการลงทุนทำธุรกิจเพื่อผลิตสินค้าและบริการให้กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนตามหลักปรัชญา 3 ประโยชน์คือต้องสร้างประโยชน์ให้กับทุกประเทศที่เข้าไปลงทุนทั้งต่อประชาชนและสังคม ควบคู่ไปกับการบริหารองค์กรภายใต้หลักการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกมิติ

โดยเครือซีพีได้ประกาศยุทธศาสตร์และเป้าหมายความยั่งยืนสู่ปี 2030 ภายใต้ยุทธศาสตร์ 3Hs คือ Heart – Living Right, Health – Living Well และ Home – Living Together รวม 15 เป้าหมายในดำเนินธุรกิจด้วยความยั่งยืน ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญที่ต้องทำให้สำเร็จในปี 2030 ประกอบด้วย 3 เป้าหมายหลัก คือ

1.เป้าหมายสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2030 (Carbon neutrality) เพื่อมุ่งสู่การบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 (Net zero emissions)

2. เป้าหมายการลดปริมาณขยะจากอาหารเป็นศูนย์ (Zero food waste)และเป้าหมายการลดของเสียที่ถูกนำไปฝังกลบต้องเป็นศูนย์(Zero waste to landfill)

3.เป้าหมายสนับสนุนผู้คน 50 ล้านคนผ่านระบบการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อเพิ่มทักษะสู่การสร้างงานสร้างอาชีพ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เพื่อสร้างความเท่าเทียมลดความเหลื่อมล้ำในทุกมิติ

นายนพปฎล กล่าวต่อว่า เครือซีพีได้ตั้งเป้าหมายสู่การเป็นองค์กรที่ยั่งยืนผ่าน Key Success สำคัญ 5 ด้านตามแนวทางของนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารเครือซีพี คือ

1.การสร้างภาวะผู้นำที่ต้องตระหนักรู้ในการทำธุรกิจควบคู่ไปกับความยั่งยืน

2. มีเป้าหมายและมีการวัดผลตัวชี้วัดที่ชัดเจน มีความโปร่งใสในการเปิดเผยผลการประเมินทุกปี

3.ต้องมองกลไกทางการตลาดซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่นักลงทุนจะต้องประเมินความเสี่ยง โอกาส และความได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจ

โดยนำแนวคิด ESG เป็นกลยุทธ์สำคัญในการนำมาปรับใช้ เพราะขณะนี้สหภาพยุโรป (อียู) ได้เผยแพร่ร่างกฎหมายมาตรการปรับคาร์บอนก่อนเข้าพรมแดน (CBAM) ซึ่งธุรกิจของไทยจะต้องส่งออกสินค้าในกลุ่มอียู ต้องปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตรับกติกาสากลนี้ด้วยเช่นกัน เพื่อให้ทันต่อการแข่งขันธุรกิจในตลาดโลก ทั้งนี้นักลงทุนจึงต้องให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาลขององค์กร

4.นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ มาใช้ในธุรกิจเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของโลก

5.สร้างความร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ ในการร่วมกันหาแนวทางพัฒนาตามหลักเป้าหมายความยั่งยืน

“ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของโลกที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นโดยเฉพาะปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องให้ความสำคัญ และส่งผลกระทบต่อการแข่งขันในการทำธุรกิจทั้งในด้านการเงินและการลงทุนในปัจจุบัน เพราะฉะนั้นหากจะประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ สิ่งสำคัญคือต้องไม่ทำเพียงลำพัง ต้องอาศัยความร่วมมือ เชื่อมโยงทุกภาคส่วนช่วยกันพัฒนาตามเป้าหมายความยั่งยืนในทุกมิติ” นายนพปฎลกล่าว