รมว.สุชาติชี้แจงในรัฐสภา หนุน SMEs จ้างงาน นักศึกษาจบใหม่มีงาน 85%

ภาพ: ข่าวสด

นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ชี้แจงการจัดสรรงบฯ ช่วยประคอง SMEs เพิ่มอัตราจ้างงาน 2 ปีที่ผ่านมามีบัณฑิตจบใหม่เข้าสู่ระบบจ้างงาน กว่า 6.8 แสนคน คิดเป็น 85.5%

วันที่ 1 มิถุนายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (31 พ.ค.) ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดพิเศษ วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 วงเงิน 3.18 ล้านล้านบาท โดยเมื่อเวลา 19.12 น. นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ลุกขึ้นชี้แจงหลังจากนางอนุรักษ์ บุญศล ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย (พท.) อภิปรายตั้งคำถามถึงงบประมาณ 5 หมื่นกว่าล้านบาทของกระทรวงแรงงาน ว่าจัดสรรได้ตอบโจทย์หรือไม่ เพราะมีแรงงานที่ตกงานถึง 3 แสนกว่าคน ตามข้อมูลเศรษฐกิจแรงงานปี 2565 และบัณฑิตจบใหม่ก็ว่างงานเป็นล้านคน

นางอนุรักษ์​ อภิปรายอีกว่า จากข้อมูลรัฐบาลพบว่า กระทรวงแรงงานสร้างแรงงานไม่ถึง 1 แสนคน ขณะที่โรงงานอุตสาหกรรมย้ายฐานการผลิต เพราะไม่เชื่อมั่นในรัฐบาล หากรัฐบาลมีความสามารถจะสามารถช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้กว่าแสนราย และจะมีการจ้างงานเกิดขึ้นประมาณ 5 แสนถึง 1 ล้านคน

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานชี้แจงว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับธุรกิจเอสเอ็มอี เพราะเป็นภาคส่วนสำคัญของประเทศ โดยมีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในระบบประมาณ 400,000 ราย และลูกจ้างประมาณ 5 ล้านคน แต่ช่วงช่วงที่โควิด-19 แพร่ระบาดหนัก กระทบธุรกิจเอสเอ็มอีอย่างมาก ตนจึงขอรับการจัดสรรงบประมาณส่วนหนึ่งจากเงินกู้ของรัฐบาล ไปทำโครงการช่วยเหลือธุรกิจเอสเอ็มอีในด้านหนุนการจ้างงาน

โดยช่วยจ่านค่าจ้างแทนผู้ประกอบการหัวละ 3,000 บาทต่อลูกจ้าง 1 คน เป็นระยะเวลา 3 เดือน เพื่อประคับประคองธุรกิจเอสเอ็มอีให้อยู่ได้ พร้อมกับทำให้คนมีงานทำ โดยในช่วง 3 เดือนดังกล่าว สามารถรักษาการจ้างงาน 5 ล้านคน และเพิ่มการจ้างงานใหม่อีก 57,000 กว่าคน

ส่วนประเด็นการตกงานในปี 2563 มีคนที่ต้องออกจากงานประมาณ 498,000 คนเนื่องจากเป็นช่วงที่โควิด-19 แพร่ระบาดมาก และมีการใช้มาตรา 75 เพื่อชะลอการเลิกจ้างงาน แต่การจ้างงานกลับมาดีขึ้นในปี 2564-2565 เพราะรัฐบาลได้มีมาตรการช่วยการจ้างงานออกมา ทำให้ปี 2565 มีการจ้างงานประมาณ 330,000 กว่าราย ซึ่งมากกว่าปี 2562 (ช่วงก่อนเกิดโควิด-19) และหากรวมตั้งแต่ปี 2563 ถึงปัจจุบัน ได้เปิดการจ้างงานไป 2.4 ล้านอัตรา เพื่อชดเชยส่วนที่ตกงานไป

นายสุชาติกล่าวด้วยว่า ตนเป็นห่วงเรื่องการตกงานไม่แพ้ ส.ส. แต่ไม่เชื่อว่ามีบัณฑิตจบใหม่ตกงานจำนวนมาก เพราะจากการตรวจสอบเลขบัตรประชาชนแล้วพบว่า มีตัวเลขการจ้างงานจำนวนมาก โดยเฉพาะไตรมาส 1 ของปี 2565 ที่จ้างกว่า 4 แสนกว่าคน และตลอด 2 ปีที่ผ่านมามีบัณฑิตจบใหม่เข้าสู่ระบบจ้างงาน กว่า 6.8 แสนคน คิดเป็น 85.5%