
คอลัมน์ : เอชอาร์คอร์เนอร์
ไม่นานผ่านมา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งนำโดย รศ.ดร.จักรกฤษณ์ ศุทธากรณ์ คณบดี, ผศ.ดร.กฤษฎา อัศวสกุลเกียรติ รองคณบดีฝ่ายเสริมสร้างความร่วมมือ และกิจกรรมเพื่อสังคม และ ผศ.ดร.รุ่ง กิตติพิชัย หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล ร่วมกับวิทยาลัยการอาชีพบ้านโป่ง จ.ราชบุรี เปิดโครงการ “ยกระดับเยาวชนด้วยศาสตร์วิศวกรรมเครื่องกลสู่อุตสาหกรรมไทย 5.0”
โดยจัดกิจกรรมถ่ายทอดความรู้ เรื่อง “การเตรียมความพร้อมรถยนต์…สู่เทคโนโลยีพลังงานทดแทน” โดยมี “อาจารย์อนุชา จันทร์สนิท” ผู้อำนวยการวิทยาลัยการอาชีพบ้านโป่ง จ.ราชบุรี มาเป็นเกียรติในงาน เพื่อมุ่งยกระดับศักยภาพบุคลากรครูผู้สอนและนักศึกษาอาชีวะรองรับอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่
- MOTOR EXPO 2023 ยอดขายรถ 4 วันแรกทะลุ 8,300 คัน
- เช็กเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท เงินเข้าบัญชีวันนี้ 38 จังหวัด
- สพฐ.ประกาศหยุดเรียน 4-8 ธ.ค.ให้นักเรียน ม.ปลายเตรียมสอบ TGAT/TPAT
“ผศ.ดร.รุ่ง” กล่าวว่า ในการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมรถยนต์จากเครื่องยนต์สันดาปไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของประเทศไทย เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตสิ่งแวดล้อมและพลังงานนั้น ต้องขับเคลื่อนพัฒนาองค์ความรู้ในหลายภาคส่วนไปด้วยกัน ตั้งแต่ภาคการศึกษาซึ่งผลิตบุคลากรในทุกระดับ ภาคอุตสาหกรรมและเอสเอ็มอี และภาคประชาชนผู้ใช้ยานยนต์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
ซึ่งเป็นผู้นำด้านวิศวกรรมศาสตร์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากลจากคณะกรรมการ ABET ถึง 6 หลักสูตร โดยร่วมกับวิทยาลัยการอาชีพบ้านโป่ง จ.ราชบุรี จัดกิจกรรมถ่ายทอดความรู้ เรื่อง “การเตรียมความพร้อมรถยนต์…สู่เทคโนโลยีพลังงานทดแทน”
“วัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาศักยภาพของนักศึกษา และบุคลากรในสถาบันการศึกษาอาชีวะทางด้านวิศวกรรมยานยนต์ และแนวโน้มของยานยนต์ยุคใหม่ในอนาคต นำความรู้และทักษะที่ได้รับมาพัฒนากระบวนการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ยกระดับให้นักศึกษาอาชีวะ ปวช.ปี 1-3 สามารถเข้าสู่การเรียนรู้ภาคปฏิบัติร่วมกับภาคอุตสาหกรรมสมัยใหม่ในอนาคตได้ต่อไป”
เพราะประเทศไทยมีหลายจังหวัดที่มีการเติบโตของอุตสาหกรรมอู่ต่อรถยนต์ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ เช่น ชลบุรี, ราชบุรี, นครราชสีมา, ฉะเชิงเทรา ทั้งนี้ ราชบุรี เป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมนี้ และมีอู่ต่อรถยนต์จำนวนหลายสิบแห่ง สร้างงานสร้างรายได้ให้ท้องถิ่นและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง
นอกจากนี้ ตลาดดัดแปลงรถยนต์เก่าทั่วประเทศจากใช้น้ำมันระบบสันดาปภายในให้เป็นระบบไฟฟ้า เปิดโอกาสกว้างแก่ผู้ประกอบการอู่รถยนต์ที่ต้องปรับตัวในการตอบโจทย์การลดใช้น้ำมันและลดปัญหามลพิษ
อีกทั้งราคาไม่แพง และเข้าถึงง่าย ตลอดจนตอบสนองยุทธศาสตร์ชาติและนโยบายภาครัฐในการส่งเสริมใช้รถยนต์พลังไฟฟ้า ในการถ่ายทอดความรู้ครั้งนี้มุ่งเน้นนักศึกษาอาชีวะซึ่งจะเป็นแรงงานในอนาคต ได้เรียนรู้การทำงานของรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งมีส่วนประกอบต่าง ๆ
เช่น 1.แผงโซลาร์เซลล์ (solar panel) ทำหน้าแปลงพลังงานแสงที่ได้รับเป็นพลังงานไฟฟ้า 2.ตัวควบคุมประจุการชาร์จ (charger) ทำหน้าที่ประจุพลังงานไฟฟ้าที่ได้รับจากแผงโซลาร์เซลล์เข้าไปยังแบตเตอรี่ 3.แบตเตอรี่ (battery) สำหรับกักเก็บพลังงานไฟฟ้าที่ได้รับจากแผงโซลาร์เซลล์
4.ตัวควบคุมมอเตอร์ (motor controller) ทำหน้าที่เป็นตัวควบคุมการจ่ายไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ไปยังมอเตอร์เพื่อควบคุมความเร็วและแรงบิดของมอเตอร์ 5.มอเตอร์ (motor) ทำหน้าที่แปลงพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานกลเพื่อขับเคลื่อนตัวรถยนต์
นอกจากนี้ ยังเสริมความรู้ด้านการตรวจเช็กรถยนต์ และการบำรุงรักษารถยนต์ระบบสันดาปภายใน ซึ่งยังคงใช้งานไปอีกหลายปีให้มีประสิทธิภาพอีกด้วย โดยเน้นการวิเคราะห์สาเหตุของปัญหาเพื่อแก้ไขได้ตรงจุด โดยสร้างเสริมทักษะการแก้ปัญหาเครื่องยนต์ในสถานการณ์ต่าง ๆ
เช่น รถสตาร์ตไม่ติด การทำงานของเครื่องยนต์ ส่วนประกอบของมอเตอร์สตาร์ต การตรวจสอบระบบจุดระเบิด การทำงานของระบบปั๊มเร่งในคาร์บูเรเตอร์ การตรวจสอบและซ่อมโซลินอยด์ การวัดกำลังอัดในกระบอกสูบเครื่องยนต์ การหาจุดขัดข้องของไดสตาร์ต เป็นต้น
โดยมี “ปัญญา เส็งแดง” ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล และ “อภินพ พรศรี” งานวิศวกรรมเพื่อความรับผิดชอบต่อสังคม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นวิทยากร
ที่ไม่เพียงจะให้ความรู้กับนักศึกษาเป็นอย่างมาก ยังเป็นการเตรียมพร้อมในเรื่องพลังงานทดแทนอีกด้วย