แพคริม ฉลองครบ 30 ปี ถอดรหัสกุญแจสู่ความสำเร็จของ 30 ผู้นำ

พรทิพย์ อัยยิมาพันธ์ ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง แพคริม

คุณสมบัติที่มีร่วมกันของผู้นำคือ เป้าหมายที่ชัดเจน มีแรงผลักดันทำสิ่งที่รับผิดชอบให้สำเร็จ ให้ความสำคัญกับความไว้วางใจ และการสร้างทีมงานที่แข็งแกร่งและวัฒนธรรมองค์กรที่เป็นเลิศ

วันที่ 20 กรกฎาคม 2565 ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า เนื่องในโอกาสครบรอบ 30 ปี ของ PacRim (แพคริม) ที่ปรึกษาที่นำโซลูชั่นระดับโลกด้านการสร้างผู้นำเพื่อช่วยขับเคลื่อนการทรานส์ฟอร์มและเพิ่มผลลัพธ์ให้องค์กร จึงจัดงานขอบคุณลูกค้าและควงแขนพาร์ตเนอร์ระดับโลก “แฟรงคลินโควีย์” เปิดตัวอีบุ๊กและวิดีโอ “ถอดรหัสความสำเร็จผู้นำแห่งยุค 30 ท่าน” (The Great & Enduring: Wisdom from 30 Leaders) ที่บรรจุบทสัมภาษณ์เชิงลึก 30 ผู้นำขององค์กรขนาดใหญ่ที่มีพนักงานเป็นแสนคน ไปจนถึงธุรกิจครอบครัว สตาร์ตอัพ ภาครัฐและสถาบันการศึกษา

โดยเน้นโฟกัสในหัวข้อหลัก ๆ เช่น ข้อคิดหรือบทเรียนที่ได้จากเส้นทางการเติบโตของความเป็นผู้นำ หลักการที่นำมาใช้ตัดสินใจเรื่องยาก ๆ หรือช่วยแต่ละท่านให้ก้าวผ่านความท้าทายต่าง ๆ มุมมองต่อความท้าทายของผู้นำในอนาคต และคำแนะนำสำหรับผู้นำรุ่นต่อไป เพื่อเผยแพร่ในรูปแบบขอให้ประชาชนได้อ่านโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

นางพรทิพย์ อัยยิมาพันธ์ ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง แพคริม กล่าวถึงประวัติของบริษัทว่า แพคริมถือกำเนิดในช่วงที่ประเทศไทยมีวิกฤตการณ์พฤษภาทมิฬ ปี 2535 เริ่มจากการเป็นบริษัทตัวแทนรับสมัครคนและจัดหางานแห่งแรกของประเทศไทย แต่เพราะวิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 ทำให้มีโอกาสรู้จักกับหลักสูตร 7-Habits จึงได้ทรานส์ฟอร์มตัวเองสู่การเป็น L&D training firm และเป็นตัวแทนแห่งเดียวในไทยของ FranklinCovey ตั้งแต่ปี 2543

จากนั้นได้ทรานส์ฟอร์มสู่การเป็นผู้จัดหาโซลูชั่นตั้งแต่ปี 2554 ทั้งยังได้เริ่มเตรียมตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัล และนำเอาเทคโนโลยีมาใช้กับโมเดลธุรกิจการให้บริการ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนตั้งแต่ปี 2560 นับเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราสามารถให้บริการลูกค้าอย่างต่อเนื่องกว่า 1,000 องค์กร ถึงแม้มีการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา นอกจากนั้นยังได้บรรลุพันธกิจสร้างคนดีคนเก่ง 1 ล้านคน ให้กับประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2563

“จากการสัมภาษณ์ผู้นำ 30 ท่าน ทำให้ได้พบคุณสมบัติสำคัญที่มีร่วมกันของผู้นำ โดยส่วนใหญ่คือการมี purpose หรือเป้าหมายที่ชัดเจนในชีวิต การมี passion หรือแรงผลักดันในการทำสิ่งที่รับผิดชอบให้สำเร็จ ความอ่อนน้อมถ่อมตน รวมทั้งการมองเห็นภาพใหญ่และความเชื่อมโยงของสิ่งต่าง ๆ  การมองเห็นโอกาส การมองเห็นศักยภาพของคน การให้ความสำคัญกับการสร้างและส่งต่อความไว้วางใจ (trust) และการสร้างทีมงานที่แข็งแกร่งและวัฒนธรรมองค์กรที่เป็นเลิศ

ซึ่งด้วยหลักการและคุณสมบัติเหล่านี้ จึงทำให้ผู้นำทุกท่านสามารถนำพาองค์กรฟันฝ่าอุปสรรคและความท้าทายต่าง ๆ ในช่วงที่ผ่านมา ในขณะเดียวกันยังสามารถสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับบุคคลอื่น และสามารถสร้างความเป็นเลิศและความสำเร็จอย่างยั่งยืน (great & enduring success)

ขณะที่พาร์ตเนอร์ระดับโลกของแพคริม Franklincovey (แฟรงคลินโควีย์) เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการพัฒนาผู้นำระดับโลกที่มีประสบการณ์มากกว่า 35 ปี ได้รับความไว้วางใจให้ดูแลองค์กรชั้นนำเป็นหลักหมื่นในกว่า 160 ประเทศทั่วโลก ให้ความสำคัญในการวิจัยและพัฒนา โดยที่ผ่านมาได้ลงทุนไปกว่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

โดย นายพอล วอล์กเกอร์ ซีอีโอ แฟรงคลินโควีย์ กล่าวถึงเทรนด์และแนวทางการพัฒนาผู้นำในระดับโลกว่า องค์กรที่ยิ่งใหญ่มักมีคนที่เป็นผู้นำและทีมที่ยอดเยี่ยม ซึ่งความท้าทายที่สำคัญสำหรับผู้นำส่วนใหญ่ในปัจจุบันเกี่ยวข้องกับลักษณะงาน แรงงาน และสถานที่ทำงานที่เปลี่ยนไป ความซับซ้อนของโลกที่เพิ่มขึ้น และความต้องการสร้างสมดุลระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิต

“ดังนั้น ผู้นำต้องคิดหลายแง่มุม และสามารถสร้างสมดุลระหว่างความคาดหวังของพนักงาน ลูกค้า และวัฒนธรรมได้ ในขณะเดียวกันต้องสามารถจัดการกับปัญหาที่ซับซ้อนได้ ซึ่งทักษะอันดับหนึ่งที่ผู้นำต้องพัฒนาในวันนี้คือความสามารถในการดึงศักยภาพสูงสุดของบุคลากรของตนออกมา โดยองค์กรที่ประสบความสำเร็จมักมี 3 สิ่งที่เหมือนกัน คือ 1.ตั้งใจในการพัฒนาความเป็นผู้นำ 2.วางกระบวนการที่วัดผลได้ 3. เก่งในการหาบุคลากรที่เป็นทาเลนต์”

นายวอล์กเกอร์กล่าวด้วยว่า แฟรงคลินโควีย์มุ่งเน้นไปที่การแก้ปัญหาตามหลักการที่ช่วยให้ผู้นำและผู้มีส่วนร่วมแต่ละรายใช้ความคิดที่ถูกต้อง ซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม โดยแฟรงคลินโควีย์ใช้เงินหลายล้านเหรียญสหรัฐทุกปีเพื่อลงทุนในโซลูชั่น โดยมุ่งเน้นที่ 4 ด้าน ได้แก่

  • การช่วยสร้างผู้นำที่ดีในองค์กร
  • การช่วยพัฒนาประสิทธิภาพส่วนบุคคล
  • การช่วยพัฒนาวัฒนธรรมที่ทุกคนสามารถนำผลงานของตนออกมาได้ดีที่สุด
  • การช่วยให้องค์กรดำเนินการตามกลยุทธ์ของตน

“แฟรงคลินโควีย์และแพคริม เป็นพาร์ตเนอร์กันมา 22 ปี ผลสำเร็จที่แพคริมได้ช่วยทำให้กับลูกค้านั้นไม่เป็นสองรองใคร แฟรงคลินโควีย์คงไม่อาจบรรลุพันธกิจในการสร้างความเป็นเลิศให้กับคนและองค์กรทุกหนแห่งในโลกได้ หากปราศจากพาร์ตเนอร์อย่างแพคริมในประเทศไทย” นายวอล์กเกอร์กล่าว