ครั้งหนึ่งในชีวิต ทริปสองแผ่นดิน ข้ามรัชสมัย Queen สู่ King

วันที่ 24 กันยายน 2565 - 08:27 น.

ผู้เขียน : ปานบัว บุนปาน

ทริปที่คิง เพาเวอร์ จัดพาสื่อมวลชนแขนงต่าง ๆ ไปเยือนอังกฤษ เมื่อต้นเดือนกันยายน มีไฮไลต์อยู่ที่การเข้าชมแมตช์การแข่งขันของทีมจิ้งจอกสยาม เลสเตอร์ ซิตี้ ที่มีบริษัทของคนไทยเป็นเจ้าของ ซึ่งสถานการณ์ของทีมช่วงเปิดฤดูกาลมานี้ยังต้องลุ้นอย่างเข้มข้น ถ้าได้กองเชียร์เสริมจากแฟนชาวไทยน่าจะเป็นกำลังใจใหญ่ทีเดียว

อย่างไรก็ตาม วันที่คณะเดินทางไปถึง 8 กันยายน สถานการณ์พลิกผัน เมื่อสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ประมุขแห่งสหราชอาณาจักรเสด็จสวรรคต กลายเป็นช่วงเวลาประวัติศาสตร์ที่นักท่องเที่ยวจากไทยน้อยคนนักจะได้สัมผัส เพราะอยู่ในช่วงเปลี่ยนรัชสมัยพอดี

สำหรับเครือมติชน มีตัวแทนที่ร่วมคณะนี้ คือ คุณหวานเย็น ปานบัว บุนปาน กรรมการผู้จัดการของบริษัท ซึ่งได้เขียนบันทึกสั้น ๆ พร้อมถ่ายภาพเหตุการณ์ที่ได้ไปสัมผัสมาในเวลานั้นถ่ายทอดลงในสื่อโซเชียลมีเดีย ซึ่งกองบรรณาธิการประชาชาติธุรกิจได้รับอนุญาตให้นำมาตีพิมพ์เผยแพร่ทริปประวัติศาสตร์ “ไปรัชสมัยควีนเอลิซาเบธที่ 2 และกลับในรัชสมัยคิงชาร์ลส์ที่ 3”

วันที่ 8 ก.ย. 2022 London in Tears

เย็นมาถึงลอนดอนในวันประวัติศาสตร์ ตอนแรกก็ตื่นเต้นที่กลับมาในเมืองที่ตัวเองรักและผูกพันในรอบ 10 ปี บรรยากาศเป็นอย่างที่ลงรูปไว้ เย็นนึกว่ามันคือลอนดอนในหน้าฝน แต่ทุกคนบอกว่ามันไม่ใช่ ฝนตกตลอดเวลาเพิ่งเกิดขึ้นในวันที่ 8 ในตอนท้ายของวัน เย็นเข้าใจว่ามันไม่ใช่ฝน มันคือ London in Tears เย็นเดินทางผ่านพระราชวังบักกิงแฮมในช่วง 11.30 หยาดฝนเกาะที่กระจกรถ ทำให้ภาพถ่ายออกมาพร่าเลือนทุกรูป เย็นคิดว่าแปลกดี เลยเก็บภาพตลอดทาง ตอนนั้นบักกิงแฮมว่างเปล่า ไม่มีประกาศอะไร มีแต่ข่าวลือหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงช่วงเย็น

ช่วงห้าโมง เย็นขอแยกจากคณะไปหาเพื่อนสนิทที่แฮร์รอดส์ เมื่อเดินสังเกตการณ์ในห้างพบว่า หนังสือและของที่ระลึกของควีนในช่วง 70 ปีแห่งการครองราชย์ยังวางไว้ตามมุมต่าง ๆ ตอนนั้นสังหรณ์ใจแล้วน่าจะมีเรื่องไม่ช้าก็เร็ว เลยซื้อของที่ระลึกกลับมาฝากแม่ หลังจากเดินช็อปไปพอสมควรก็หาร้านอาหารในแฮร์รอดส์นั่งทาน เล่นถ่ายรูปกับเพื่อนเหมือนสมัยเรียน

ขณะนั่งลงเช็กภาพ จู่ ๆ มีประกาศจากห้าง เรื่องควีนเสด็จสวรรคต ขอให้ทุกท่านอยู่ในความสงบเพื่อแสดงความไว้อาลัยสองนาที เย็นถ่ายภาพเพื่อนตอนวินาทีนั้นไว้ แล้วนั่งนิ่ง พูดไม่ออก โต๊ะข้าง ๆ เป็นชาวอังกฤษ ในความเงียบพวกเขาเริ่มร้องไห้สะอึกสะอื้นจนเย็นหันไปมอง หลังจากสองนาที แฮร์รอดส์ก็ประกาศขอให้อยู่ในความสงบอีกสองนาทีเพื่อร่วมแสดงความเสียใจกับสมาชิกในราชวงศ์

ADVERTISMENT

หลังทานอาหารจนเสร็จ แล้วเดินไปดูของ 70 ปีแห่งการครองราชย์อีกครั้งหนึ่ง กระเป๋า ชา shortbread ทุกอย่างเต็มไปด้วยภาพและสัญลักษณ์ของควีนซึ่งจัดทำโดยความภาคภูมิใจของคนอังกฤษ เย็นเห็นปีคริสต์ศักราชสกรีนบนกระเป๋าที่ระลึก 1952-2022 ในใจนึกว่า ยาวนานเหลือเกินสำหรับความรับผิดชอบในทุกข์สุขของพสกนิกรจำนวนมหาศาลทั้งในและนอกราชอาณาจักร

ด้วยวัย 96 ปี ควีนจึงอยู่ในช่วงชีวิตของทุกคน ไม่มีใครที่จะพูดได้ว่าไม่รู้จักหรือไม่แคร์ ถึงไม่ได้ร่วมยุคสมัยก็ต้องจำได้ว่าเป็นบุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจในการเลี้ยงหมาคอร์กี้ เปิดงานโอลิมปิกร่วมกับเจมส์ บอนด์ ออกรับเสด็จที่ระเบียงด้วยชุดสีเขียวสดจนคนอมยิ้ม ถ่ายสารคดีสงสัยในความหนักของมงกุฎตัวเอง ถูกถ่ายทอดชีวิตเป็นหนังดังอย่าง The Queen และ The Crown ล่าสุดในช่วง Platinum Jubilee เดือนมิถุนายนคือ แสดงหนังร่วมกับหมีแพดดิงตัน ที่คนหลงรักไปทั่วโลก

ADVERTISMENT

การสวรรคตของควีนคือความสูญเสียของโลก เมื่อสองวันก่อนสิ้น ยังเสด็จออกงานที่วังบัลมอรัลด้วยการรับนายกรัฐมนตรีหญิงคนใหม่ Liz Truss ถือเป็นการปฏิบัติภารกิจจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิตด้วยความสงบนิ่งและสมพระเกียรติ

ในพระราชสาส์นที่เขียนเนื่องใน 70 ปีแห่งการครองราชย์ ทรงฝากฝังกษัตริย์องค์ต่อไปพร้อมกับพระราชินีองค์ใหม่คือ คามิลลา ระบุว่า …เมื่อเวลามาถึง “ขอให้สนับสนุนพวกเขาเหมือนที่สนับสนุนข้าพเจ้า”

แต่ที่จับใจที่สุดคือคำลงท้ายของควีน …Your servant…Elizabeth

วันที่ 9 ก.ย. 2022 อังกฤษ 1 วัน หลังการสวรรคตของควีน

ตื่นมาตอนเช้า เจ็ดโมง เย็นถามหาหนังสือพิมพ์ ทีมงานไปขอยืมโรงแรมมาให้อ่านคือ The Times เห็นความ special แล้วอยากได้บ้าง จึงเดินออกไปหาร้านขายหนังสือพิมพ์ แถวออกซ์ฟอร์ด เซอร์คัส ปรากฏยังไม่มีร้านไหนเปิด

หนังสือและหนังสือพิมพ์ กลายเป็นของหายากมาก ๆ เย็นพบผู้หญิงคนนึงเดินมาพร้อมหนังสือพิมพ์ จึงเข้าไปถามว่า ได้มาจากไหน เธอบอกให้เดินลงไปที่สเตชั่นอันเดอร์กราวนด์เลย

เมื่อเย็นไปถึงพบว่า มีหนังสือพิมพ์ที่ชื่อ Metro (เมโทร) วางไว้ให้หยิบฟรีจริง ๆ ด้วย เย็นหยิบมา 2 ก๊อบปี้ แล้วรีบเดินกลับไปโรงแรม เพื่อเตรียมตัวออกเดินทางไปเมืองบาธ

ระหว่างเดินทางไป เย็นพบว่า ป้ายทุกชนิดตามท้องถนนได้เปลี่ยนเป็นคำไว้อาลัยให้กับควีน จึงพยายามเก็บภาพเท่าที่เก็บได้มาฝากคนทางกรุงเทพฯ เดินทางราวชั่วโมงครึ่ง เราก็จอดที่จุด service เพื่อให้พักทานกาแฟ ที่นี่มีหนังสือพิมพ์ครบทุกฉบับ เย็นดีใจมาก ยืนถ่ายกับแผงหนังสือเป็นที่ระลึก

ในที่สุดเย็นก็ถึงเมืองบาธ ร้านหนังสือระหว่างทางจัดหนังสือควีนขึ้นบนชั้น และโบสถ์ใจกลางเมือง มีประชาชนทยอยนำดอกไม้มาวางไว้ด้านหน้า ส่วนในโบสถ์เปิดให้เข้าไปจุดเทียนแสดงความอาลัยได้

ในช่วงเดินทางกลับ เย็นสังเกตเห็นธงลดครึ่งเสาทั่วทุกที่ จึงเก็บภาพมาฝากเช่นกัน ป้ายไฟไว้อาลัยในช่วงกลางคืนเด่นชัดขึ้นและพบได้ถี่มากขึ้น ตั้งแต่เมืองบาธจนถึงลอนดอน เราพบป้ายตลอดทาง หนังสือนิตยสารออกมาสู้ในช่วงบ่าย ทั้งเฮลโลและโอเค มีฉบับพิเศษเกี่ยวกับควีน

ในที่สุดเย็นก็กลับถึงโรงแรมในช่วงดึก เพื่อพบกับ speech ของกษัตริย์องค์ใหม่ King Charles III ซึ่งยังคงมีความเศร้าอยู่บนใบหน้าอย่างชัดเจน

Darling Mama… may “flights of angels sing thee to thy rest”

(quote จาก Shakespeare’s Hamlet)

วันที่ 11 ก.ย. 2022 In memory of The Queen

วันนี้เย็นเดินจากโรงแรมไปวางดอกไม้ไว้อาลัยที่พระราชวังบักกิงแฮม คนเยอะมาก เนื่องจากเป็นวันอาทิตย์และอากาศดีเหมือนซัมเมอร์ อุณหภูมิกำลังสบาย เย็นออกเดินจากโรงแรมแถว Portland pl ไป Oxford st

จากนั้นตัดลงที่ Maddox st (แมดด็อก สตรีต) เราจะเริ่มเห็นการประดับตกแต่งรูปควีนไว้ที่หน้าร้าน พร้อมถ้อยคำไว้อาลัย มีร้านหนึ่งเย็นประทับใจมากเขาแขวนรูปควีนเบลอ ๆ ตอนแรกเย็นนึกว่า ตัวเองมองไม่ชัด ต้องหยุดเพ่งดู ปรากฏว่า เป็นภาพเบลอจริง ๆ สะท้อนการสิ้นสุดรัชสมัย และทุกอย่างจะเลือนลบไป เมื่อเริ่มรัชกาลใหม่

ตัวอย่างของสรรพสิ่งที่จะสูญหาย เช่น ธนบัตร ธง แสตมป์ ป้ายและสัญลักษณ์ ER ทุกอย่างที่คนอังกฤษเห็นและใช้มา 70 ปี ต้องถูกเปลี่ยนใหม่หมด

ถ้าคิดว่า Maddox st น่าตื่นเต้นแล้วให้เลี้ยวลง Bond st (บอนด์ สตรีต) จะพบกับภาพถ่ายของควีนที่ตั้งประชันกันเหมือนแกลเลอรี่ จัดโดยร้านแบรนด์เนม ร้านเพชร ร้านนาฬิกา และร้านไวน์ ฯลฯ

เย็นคิดว่า Bond เป็นถนนที่ติดรูปไว้อาลัยได้งดงามที่สุดในลอนดอน แถมอยู่ในเส้นทางที่คนเดินไปบักกิงแฮมอีกด้วย บรรยากาศอาจจะประหลาดคือ สวยปนเศร้า แต่ทั้งหมดนี้ นับเป็นบันทึกประวัติศาสตร์ที่น่าจดจำ

จากนั้นเดินตามเส้น Piccadilly (พิกคาดิลลี) ไปทะลุเข้า Green Park (กรีนปาร์ก) แล้วเดินตรงไปที่ด้านหน้าวัง บริเวณนี้คนแน่นจนบางช่วงต้องหยุดเดิน ใช้ไหล ๆ ตามกันไป มีบางคนถอดใจวางดอกไม้ไว้ตั้งแต่ทางเข้าสวน

เมื่อเย็นเดินเข้าใกล้พระราชวังบักกิงแฮมขึ้นเรื่อย ๆ ก็พบว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนมาก มากจนเย็นสงสัยว่า อาจมีขบวนเสด็จ ซึ่งก็มีจริง ๆ คือขบวนของ King Charles III กษัตริย์พระองค์ใหม่ ทรงโบกพระหัตถ์ทักทายฝูงชนสองข้างทาง เย็นโชคดีจริง ๆ ที่ได้รับเสด็จ (แบบไม่รู้ตัว) นับเป็นโมเมนต์ไฮไลต์อีกครั้งในทริปนี้

สิ่งที่น่าสนใจในการเดินชมดอกไม้ไว้อาลัยบริเวณพระราชวังบักกิงแฮมในวันก่อนคือ การที่เด็ก ๆ เขียนการ์ดและวาดรูปควีนกันอย่างเต็มที่ ภาพเหล่านี้สะท้อนมุมมองของเด็กที่มีต่อควีน เช่น รักม้า รักหมา สวมหมวก สวมมงกุฎ ใส่เสื้อสีเขียวสด ยืนกับหมีแพดดิงตัน มีธง มีพระราชวัง ปรากฏอยู่ด้วย

ความยิ่งใหญ่จะถูกถ่ายทอดโดยเด็กเล็กอย่างตรงไปตรงมากที่สุด เด็กไม่ได้เกิดร่วมสมัย แต่กลับมีความผูกพันเสมือนควีนเป็น “หนึ่ง” ในวิถีชีวิตประจำวันของพวกเขา

ควีนเอลิซาเบธได้สร้าง the most fining monarch สำเร็จภายในรัชสมัยของพระองค์