ห่านคู่ เปิดตัวคอลเล็กชั่น Misfit ส่งเสริมแฟชั่นยั่งยืน

คอลเลกชั่นใหม่เสื้อห่านคู่

“ห่านคู่” แบรนด์เสื้อผ้าในตำนาน มุ่งส่งเสริมแฟชั่นยั่งยืน เปิดตัวคอลเล็กชั่น “Misfit” ด้วยการ Upcycle เพื่อให้ผลิตเสื้อผ้าได้อย่างคุ้มค่า ใส่แล้วสวย

วันที่ 3 ธันวาคม 2565 นายคุณากร ธนสารสมบัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรงงานไทยแลนด์นิตติ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าแบรนด์ห่านคู่ (DOUBLE GOOSE) และสตรีตแบรนด์ DBGS กล่าวว่า หลังจากแบรนด์ได้เรียนรู้การเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ในธุรกิจแฟชั่น รวมถึงแง่มุมของปัญหาในวงการการผลิตเสื้อผ้ามาอย่างยาวนาน วันนี้ที่มีความพร้อมแล้วทั้งในด้านโอกาส วัตถุดิบ และองค์ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญ

เราจึงอยากทำอะไรดี ๆ เพื่อสังคม สิ่งแวดล้อม และโลกอย่างยั่งยืน จากสิ่งธรรมดาที่เรามีเราเห็นอยู่ทุกวัน ให้เกิดเป็นบางอย่างที่พิเศษขึ้นภายใต้พื้นฐานที่ต้อง ‘ทำมาดี’ ซึ่งเป็นดีเอ็นเอของห่านคู่ เสื้อยืดธรรมดาที่ทำมาดี จึงเกิดเป็นมูฟเมนต์ใหม่ของห่านคู่ที่จะได้เห็นภาพชัดเจนขึ้นนับตั้งแต่ Misfit นี้เป็นต้นไป

เราอยากสร้างเสื้อผ้าที่ดีต่อคน ดีต่อโลก ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยลดขยะลดภาระในการกำจัดวัสดุเหลือใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตเสื้อผ้า ส่งผลไปยังการเปลี่ยนแปลงที่ดีเข้าสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economic) ในอนาคต ผ่านการออกแบบคอลเล็กชั่นที่จะเป็นเสื้อผ้าที่มีคุณภาพในทุกมิติมากที่สุดเท่าที่เราจะมีกำลังทำได้ ให้เกิดประโยชน์ทั้งในเชิงสังคม เศรษฐกิจ ที่สำคัญต้องสวยและสร้างสรรค์ ทำให้คนใส่ดูดี แม้จะเป็นเรื่องของแฟชั่นก็ต้องสร้างความยั่งยืนและความรับผิดชอบต่อโลกใบนี้ได้

“หัวใจของคอลเล็กชั่นนี้คือ การตระหนักรู้และเห็นค่าของวัตถุดิบทุกชิ้นส่วน ที่ถูกสร้างมาอย่างดีด้วยฝีมือและน้ำพักน้ำแรงของช่างฝีมือทุกคน แต่ไม่ว่าคนหรือเครื่องจักรก็สามารถผิดพลาดกันได้ ดังนั้นจึงก่อให้เกิดวัตถุดิบที่ไม่ได้สมบูรณ์แบบขึ้น ซึ่งเรานำสิ่งเหล่านี้มาทำการบ้านใหม่อีกครั้ง

ทำอย่างไรที่จะ reimagine ให้ชิ้นงานดี ๆ แต่เพียงแค่ดูไม่เข้ากันบ้าง ผ้าสีเดียวกันแต่เฉดไม่เหมือนกันบ้าง หาวิธีให้งานเหล่านั้นกลับมามีคุณค่าได้โดยต้องผสานความไม่สมประกอบเหล่านั้น (*misfit) เข้ากับศิลปะ การออกแบบ อย่างกลมกล่อมลงตัว พร้อมให้เป็นเสื้อยืดตัวใหม่ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของตัวมันเองให้แก่ผู้สวมใส่ได้”

โดย Misfit ประกอบไปด้วย 2 สไตล์การออกแบบ ได้แก่ 1.Misfit Solid ดีไซน์ที่เกิดจากกระบวนการ Upcycle การแปรรูปผลิตภัณฑ์เดิมที่มีตำหนิ รวมถึงผลิตภัณฑ์บางส่วนที่ทำจากเศษผ้าชิ้นเล็ก ๆ จากกระบวนการตัดหรือวางแบบ ออกแบบให้เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ นำไป Recycle ให้ได้ผืนผ้าที่นำมาตัดเย็บใหม่ โดยไม่ผ่านการฟอกย้อมสีอีก หัวใจและรูปแบบจะเป็นเสื้อผ้าสีเรียบใส่ง่าย

แต่มีฟังชั่นการใช้งานเล็ก ๆ น้อย ๆ ซ่อนอยู่ เช่น กระเป๋าในขนาดและความลึกที่สามารถใส่ของได้จริง เช่น เงิน กุญแจ หรือโทรศัพท์ เป็นต้น

2.Misfit Random (Mosaic) ภายใต้กระบวนการทำงาน Upcycle ด้วยการแปรรูป ชิ้นผ้าที่ผิดพลาดจากกระบวนการย้อมและตัดเย็บ นำมาตัดต่อทำ patchwork ใหม่เพื่อเป็นการใช้ชิ้นผ้าให้ได้มากที่สุด เกิดเป็นเสื้อตัวใหม่ที่มีลวดลายและสีสันต่าง ๆ ที่แบรนด์จะเปลี่ยนเซตสีตามฤดูกาล รวม 3 รูปแบบ

ได้แก่ เสื้อ Crop, Regular, และ Oversize ซึ่งยังคงดีเทลการตัดเย็บคุณภาพสูงจากเหล่าช่างฝีมือของห่านคู่ อาทิ การวางผ้า ตะเข็บ งานขลิบริมหรือรอยต่อ ฝีเข็ม เป็นต้น แม้จะเป็นชิ้นงานที่ทำมาจากวัตถุดิบคงเหลือจากการใช้งานเดิมก็ตาม

ด้าน กมลนาถ องค์วรรณดี ที่ปรึกษาคอลเล็กชั่น Misfit ให้เป็นแฟชั่นยั่งยืน เล่าถึงการร่วมงานในโปรเจ็กต์ Misfit ว่า คอลเล็กชั่นนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ที่น่ายินดี ที่แบรนด์เสื้อยืดในตำนานอย่างห่านคู่เริ่มขยับตัวเพื่อสิ่งแวดล้อม และเป็นโอกาสที่ดีที่จะทำให้คนธรรมดา ๆ ซึ่งเป็นผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ของสังคมนั้น สามารถเข้าถึง และเข้าใจว่าจริง ๆ แล้วการบริโภคแฟชั่นอย่างยั่งยืนนั้นไม่ใช่เรื่องยาก ใคร ๆ ก็ทำได้

เพราะหัวใจหลักคือการยืดอายุการใช้ให้ยาวนาน การซ่อมแซม การดูแลรักษา และการนำวัตถุดิบเดิมมาออกแบบใหม่ มีต้นทุนที่น้อยกว่าและจะสร้างความยั่งยืนกว่ามาก

มองว่าการที่แบรนด์ห่านคู่จะลุกขึ้นมาเป็นผู้นำ สร้างการเปลี่ยนแปลง และเป็นตัวอย่างให้ผู้ผลิตในประเทศไทย มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น นับเป็นความกล้าหาญ และสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของผู้บริหารที่ตั้งใจจะทำให้ความยั่งยืนเป็นเรื่องที่คนธรรมดาทุกคนเข้าถึงได้ง่าย

หน้าที่หลักของเราคือ ถ่ายทอดความรู้และทักษะด้านการออกแบบเพื่อความยั่งยืน และการออกแบบหมุนเวียน (Circular Design) โดยชวนทีมห่านคู่ “คิดให้ครบ” ด้วยการถอยออกมามองภาพใหญ่ของธุรกิจว่า การผลิตเสื้อผ้า 1 ชิ้นนั้น จำเป็นต้องคิดถึงตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง ตลอดทั้งกระบวนการ ชวนมองหาจุดที่สร้างผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมสูง

และจุดบริษัทสามารถปรับปรุงหรือเริ่มต้นลงมือทำได้จริงเพื่อเป็นโครงการนำร่อง ขณะเดียวกันก็ไม่ลืมที่จะมองภาพใหญ่ว่าทั้งกระบวนการนี้จำเป็นต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบ ซึ่งจะเป็นแผนงานในระยะยาวต่อไป

อีกทักษะหนึ่งคือ การผนวกรวมความรู้ด้านความยั่งยืนเข้ากับด้านการสร้างแบรนด์และการตลาด เนื่องจากเคยทำงานอยู่ในอุตสาหกรรมแฟชั่นมาก่อนจะมาเป็นที่ปรึกษา ซึ่งความตระหนักถึงการรับผิดชอบสิ่งแวดล้อมของห่านคู่ในครั้งนี้ แม้จะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ แต่ก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งของ Core Principle ของแบรนด์ ที่จะใช้เป็นหลักยึดในการทำงาน หรือการทำการสื่อสารให้ผู้บริโภคเข้าใจ ต่อไปได้ในอนาคต

ขณะที่ พิริยะ กุลกาญจนาชีวิน Co-Founder & Story Curator จาก Glow Story ในฐานะผู้ทำแคมเปญการตลาดเสื้อยืดธรรมดา ที่ทำมาดี ให้แก่แบรนด์ฯ เผยมุมมองที่มีต่อแบรนด์ว่า ภายใต้การทำงานร่วมกันในการสื่อสารคุณค่าของคอนเซ็ต์ “ธรรมดาที่ทำมาดี” นั้น คือการสร้างเรื่องเล่าในวันนี้ ที่ห่านคู่ได้ทำความเข้าใจและตั้งใจจะเชื่อมต่อกับคนรุ่นใหม่ และลูกค้าทุกกลุ่มทุกวัย ด้วยหัวใจและฝีมือ

ซึ่งในฐานะคิวเรเตอร์ของแบรนด์ เราจะร่วมเดินทางและผลักดันให้ไอเดียดี ๆ สร้างประโยชน์ต่อคนรอบข้าง ที่ห่านคู่ได้สร้างสรรค์ขึ้นให้เกิดการสื่อสารได้อย่างเข้าถึงผู้บริโภค

“สำหรับ ‘ยืด..เพื่อโลกใบนื้’ ถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมาก เพราะนอกจากห่านคู่จะมีทิศทางที่ชัดเจน ค่อย ๆ ขยับช้า ๆ แต่มั่นใจในโฟกัสหลักที่จะก้าวเดินไป คือเป็น เสื้อยืดที่ Classic ใส่ง่าย สบาย ทน เข้าได้กับทุกคน ทุกช่วงเวลา ไม่ใช่ fast fashion อยู่แล้วนั้น ในวันนี้เสื้อยืดธรรมดาอย่างห่านคู่ ได้ทุ่มเททำกระบวนการ สินค้า และกิจกรรมหลังจากนี้ ให้ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งแม้จะเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายและต้องใช้เวลา แต่หลังจากการทำโปรเจ็กต์ร่วมกันในครั้งนี้ จะมีเรื่องเล่าต่อเนื่องที่คงจะธรรมดา แต่ทำมาดี ให้ได้ชมกันต่อเร็ว ๆ นี้แน่นอน”

ทั้งนี้ งาน “ห่านคู่ ‘ยืด’ เพื่อโลกใบนี้” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 2–6 ธันวาคม 2565 ที่ลานกิจกรรม ชั้น G ฝั่ง North สามย่านมิตรทาวน์ ซึ่งมีอีก 1 กิจกรรมพิเศษ “Misfit-Loop” แชริตี้เก๋ ๆ ร่วมสร้าง movement ดี ๆ ให้สังคม นำเสื้อผ้าที่ยังอยู่ในสภาพดีกลับมาใช้กลับมาแชร์ กติกาคือเชิญชวนให้ทุกคนเลือกเสื้อยืดที่ไม่ได้ใช้เกิน 3 ปี ออกมา 3 ตัว แล้วนำมาที่จุดห่านคู่ MISFIT-LOOP ที่ SYM

สำหรับเสื้อยืดจากเส้นใยฝ้าย 100% จะได้รับคูปองส่วนลดในการซื้อสินค้ารุ่นใดก็ได้ 100 บาท และเสื้อยืดผสมเส้นใยสังเคราะห์ จะได้รับคูปองส่วนลด 50 บาท (การคัดแยกประเภทจะดำเนินงานโดย T-shirt Expert) ส่วนเสื้อที่ไม่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ จะส่งต่อให้แก่ร้านปันกัน มูลนิธิยุวพัฒน์ เพื่อให้เกิดการใช้งานต่อ สำหรับผู้ที่ต้องการต่อไป สร้างจิตสำนึกการแบ่งปันกัน ใน Season of Giving นี้

นอกจากนี้ สินค้า Misfit จะเพิ่มสีสันต่าง ๆ ในคอลเล็กชั่นนี้อีกครั้งในเดือนมกราคม 2566 ที่ช้อป Misfit สาขา ICS ตรงข้ามไอคอนสยาม และ ห่านคู่ 4 สาขา ได้แก่สามย่านมิตรทาวน์, เดอะมอลล์ท่าพระ, เดอะมอลล์บางแค และเดอะมอลล์บางกะปิ