
กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เตรียมงบฯอัดฉีด 200 ล้านบาท สำหรับนักกีฬาไทยที่สามารถคว้าเหรียญรางวัลประเภทต่าง ๆ มาครองได้สำเร็จ ในมหกรรมกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19
วันที่ 26 กันยายน 2566 หลังจากการแข่งขันมหกรรมกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 หรือ “หางโจวเกมส์” ที่เมืองหางโจว ประเทศจีน เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา
- ในหลวง พระราชินี เสด็จฯส่วนพระองค์ ทรงร่วมแข่งเรือใบ จ.ภูเก็ต
- เช็กที่นี่ เงินอุดหนุนบุตร 600 บาท เดือนธันวาคม 2566 เงินเข้าวันไหน
- เปิดตัว “คอร์ทยาร์ด บาย แมริออท กรุงเทพฯ สุวรรณภูมิ” ห่างสนามบิน 10 นาที
ความเคลื่อนไหวของทัพนักกีฬาทีมชาติไทยล่าสุด กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NSDF) ได้เตรียมงบฯอัดฉีดนักกีฬาทีมชาติไทยที่สามารถคว้าเหรียญรางวัลประเภทต่าง ๆ ได้ไว้รวมกว่า 200 ล้านบาท
ข่าวสด ระบุว่า “ดร.สุปราณี คุปตาสา” ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NSDF) เปิดเผยว่า ในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ทัพนักกีฬาไทยได้มีการเก็บตัวฝึกซ้อมยาวนานกว่า 2 ปี ใช้งบประมาณไปกว่า 1,300 ล้านบาท

โดยปกติแล้วงบฯในการส่งแข่งขันเป็นอีกส่วนของการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) แต่ในปีนี้ กองทุนก็เป็นอีกแหล่งเงินที่มาช่วยเหลือให้องค์กรเดินหน้าได้ในยามที่ได้รับงบประมาณมาไม่ครบ ทำให้กองทุนให้งบฯส่งแข่งขันทั้งซีเกมส์ที่ผ่านมา จนถึงเอเชียนเกมส์ครั้งนี้
เป็นอีกภารกิจของกองทุน ที่จะเพิ่มเติมในหมวดของการส่งแข่งขันที่จะต้องบริหารจัดการเรื่องนี้เพิ่มเติม ซึ่งคณะกรรมการบริหารกองทุน มีมติให้มุ่งไปที่ความสะดวกสบายของนักกีฬา และความเป็นอยู่ของนักกีฬาเป็นหลัก
ทางกองทุนได้เตรียมเงินรางวัลเอาไว้ โดยในปี 2567 ตั้งงบประมาณเงินรางวัลไว้ถึง 800 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าปกติ และครอบคลุมถึงเอเชียนเกมส์ที่หางโจวด้วย
โดยคาดว่าเงินรางวัลที่หางโจวครั้งนี้น่าจะถึง 200 ล้านบาท และโครงสร้างเงินรางวัลยังเหมือนเดิม คือ เหรียญทอง 2 ล้านบาท, เหรียญเงิน 1 ล้านบาท และเหรียญทองแดง 5 แสนบาท ซึ่งในโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โครงสร้างเงินรางวัลก็ยังเหมือนเดิม ดร.สุปราณีกล่าว
สำหรับ “Multisport” หรือ “มหกรรมกีฬา” ที่ได้มาตรฐานทั้งซีเกมส์, เอเชียนเกมส์ และโอลิมปิกเกมส์ กองทุนไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างของเงินรางวัลแต่อย่างใด
ส่วนที่จะเปลี่ยนโครงสร้างคือ “Single Sport” เช่นรายการชิงแชมป์โลก เพราะจะต้องเข้าไปดูว่ารายการนั้นอยู่ในคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) หรือไม่ หรือดูจำนวนประเทศที่แข่งขันในรายการนั้น เพื่อไม่ให้เงินรางวัลเยอะเกินไป
ในส่วนของ Single Sport ถ้าเป็นกีฬาที่อยู่ในโอลิมปิกเกมส์ก็จะเป็นมาตรฐานอยู่แล้ว ไม่ต้องกังวลใจเรื่องเงินรางวัลแต่อย่างใด ดร.สุปราณีกล่าว