“ณิชาภัทร สุภาพ” คนไทยคนแรกบนพรมแดง MET GALA
การเข้าร่วมงาน Met Gala นั้นเป็นเรื่องยากมาก ด้วยการดำเนินงานทุกอย่างอยู่ภายใต้การดูแลของ แอนนา วินทัวร์ บรรณาธิการบริหารนิตยสารโว้ก (Vogue) ผู้ทรงอิทธิพลของวงการแฟชั่นโลก ที่เลื่องชื่อในเรื่องการคัดคนเข้างาน ระดับที่ว่ามีเงินเป็นสิบล้านยังเข้าไม่ได้
ด้วยเหตุนี้ ชื่อของ ป่าน-ณิชาภัทร สุภาพสาวชุดม่วงซึ่งเป็นคนไทยคนแรกที่ได้เข้าร่วมงาน Met Gala จึงเป็นที่ฮือฮาและถูกพูดถึงอย่างหนาหู
“ประชาชาติธุรกิจ” ต่อสายตรงข้ามประเทศหาเธอ ในเวลาที่คนมากมายสนใจอยากรู้จักว่าเธอเป็นใคร ไปยังไงมายังไงจึงสามารถเข้าร่วมงาน Met Gala ได้
คำตอบคือเธอเป็น Fashion Journalist มีตำแหน่ง บรรณาธิการอิสระ นิตยสารโว้ก ประเทศไทย และที่ปรึกษาให้กับแบรนด์แฟชั่นต่าง ๆ ซึ่งเธอได้เข้าร่วมงานนี้ในฐานะตัวแทนนิตยสารโว้ก ประเทศไทย
เธอเล่าเส้นทางก่อนเข้าสู่งานด้านแฟชั่นว่า ครอบครัวเธอเป็นครอบครัวธรรมดา เธอเกิดและเติบโตเมืองไทย ตอนเด็กมีความฝันอยากทำงานเกี่ยวกับแฟชั่น พอเรียนจบปริญญาตรีอักษรฯ จุฬาฯ เธอไปเรียนต่อปริญญาโทที่นิวยอร์ก และทำงานไปด้วย
หลังเรียนจบเธอเข้าเรียนที่ Executive Training Program ที่ Macy”s ซึ่งแต่ละคอร์สรับเพียง 25 คนเท่านั้น จากนั้นทำงานเป็น Assistant Buyer ที่ Macy”s ตามด้วยการทำงานที่ห้างบลูมมิงเดลส์ ฝ่ายเสื้อผ้าเด็ก
ซึ่งพอทำไปสักพัก เธอรู้สึกว่าสิ่งที่ทำอยู่ไม่ใช่แฟชั่น แต่มันคือการขายปลีก เธอจึงลาออก แม้ว่ายังหางานในด้านแฟชั่นไม่ได้ และระหว่างนั้นเปิดบริษัทที่ปรึกษาแฟชั่น ทำหน้าที่ช่วยดูแลแบรนด์ไทยที่อยากไปเมืองนอก หรือแบรนด์จากเมืองนอกที่อยากเข้ามาในเมืองไทย
ในช่วงเดียวกันนั้นเธอได้รับการติดต่อจากนิตยสารแพรวให้เขียนคอลัมน์เกี่ยวกับแฟชั่น ท่องเที่ยว ต่อมาเธอควบตำแหน่งบรรณาธิการอิสระที่นิตยสารโว้ก ประเทศไทย ซึ่งเป็นงานที่ต้องไปดูแฟชั่นโชว์อยู่เรื่อย ๆ ส่วนแพรว ตอนนี้ไม่ได้ทำแล้ว
ปัจจุบันป่านใช้ชีวิตอยู่นิวยอร์กเป็นหลัก แต่ละปีอยู่ที่นิวยอร์กราว 6 เดือน และกลับไทยประมาณ 2 เดือน เวลาที่เหลือคือการเดินทางท่องเที่ยว
ส่วนกระแสโด่งดังที่เธอเป็นคนไทยคนแรกที่ถูกเรียนเชิญให้เข้าร่วมงาน Met Gala ป่านบอกว่า ความรู้สึกแรกเมื่อทราบว่าถูกเชิญนั้น ตื่นเต้นมาก เพราะงานนี้เป็นความฝันสูงสุด บางคนฝันอยากมีงานแต่งงาน แต่ที่เธอฝันอยู่ตลอดคืองานนี้
“ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันภูมิใจ เป็นอีกส่วนที่ทำให้ชีวิตมีความสุข มันคือการประสบความสำเร็จ เพราะนี่คือสิ่งที่ต้องการมาตลอดชีวิต มันคือรางวัลของชีวิต” เธอเปิดใจ
สำหรับการเตรียมตัวเข้าร่วมงาน เธอบอกว่ามีการออกกำลังกาย การควบคุมอาหาร และเรื่องแต่งหน้า เมื่อช่างแต่งหน้าประจำมาไม่ได้ ต้องออดิชั่นช่างแต่งหน้าถึง 5 รอบ ซึ่งแต่ละรอบต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง
สำหรับธีมงานในปีนี้คือ ธีม “Heavenly Bodies : Fashion and the Catholic Imagination” ป่านบอกว่า ดีไซเนอร์รู้ดีว่าธีมของปีนี้คืออะไร เธอจึงไม่ได้ออกไอเดียอะไรมาก ปล่อยให้ดีไซเนอร์เป็นคนจัดการ ซึ่งดีไซเนอร์ก็ออกแบบมาให้เข้ากับเธอ และเธอก็ชอบแบบนี้ เป็นการแต่งตัวที่ทำให้ตัวเองมีความสุข ไม่ได้สนใจว่าคนอื่นชอบหรือไม่ชอบ
“เราไม่ใช่ดาราที่ต้องไปเดินแล้วมารอดูฟีดแบ็กว่าเป็นอย่างไร สิ่งที่ทำเพื่อให้ความฝันเป็นจริง เรื่องชุดคือเอาที่เหมาะกับเราแล้วเราชอบ ไม่ได้อยากได้ชุดที่คนอื่นอยากให้ใส่”
ปิดท้ายก่อนวางสาย เธอฝากถึงคนที่อยากเข้าสู่สายงานแฟชั่นว่า อยากให้พยายามและตั้งใจ พร้อมย้ำว่า “I don”t talk no for answer, not talk you made some mistake.” และ “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น”
