
สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (NARIT) เตรียมนำ “หินดวงจันทร์จากยานฉางเอ๋อ 5” มาจัดแสดงครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมอุปกรณ์ปฏิบัติภารกิจของไทยที่จะติดตั้งไปกับยานฉางเอ๋อ 7 ที่งาน “อว.แฟร์ : SCI POWER FOR FUTURE THAILAND” 22-28 กรกฎาคม ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
วันที่ 10 กรกฎาคม 2567 สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (NARIT) ร่วมกับองค์การบริหารอวกาศแห่งชาติจีน (China National Space Administration : CNSA) ด้วยการสนับสนุนของ TCP Group ปลุกพลังให้คนไทยสนใจวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม นำ “หินดวงจันทร์จากยานฉางเอ๋อ 5” มาจัดแสดงในประเทศไทย
และนับเป็นครั้งแรกที่จีนนำมาจัดแสดงนอกประเทศ ร่วมกับอุปกรณ์ปฏิบัติภารกิจวิทยาศาสตร์ของไทยที่จะติดตั้งไปกับยานฉางเอ๋อ 7 พร้อมนำเสนอผลงานการใช้โจทย์ดาราศาสตร์ ผลักดันให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีและวิศวกรรมขั้นสูงด้านต่าง ๆ
ยานฉางเอ๋อ 5 เป็นยานอวกาศลำแรกของจีนที่มีเป้าหมายเพื่อเก็บตัวอย่างดินและหินดวงจันทร์ ได้ขึ้นสู่อวกาศเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 และกลับสู่โลกในวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2563 เก็บตัวอย่างดินและหินจากดวงจันทร์กลับมาประมาณ 2 กิโลกรัม เพื่อใช้ในการศึกษาวิจัยภายใต้โครงการจัดตั้งสถานีวิจัยนานาชาติบนดวงจันทร์ของจีน (International Lunar Research Station : ILRS)
ภายใต้โครงการดังกล่าว นักวิทยาศาสตร์และวิศวกรไทย นำโดยสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) และมหาวิทยาลัยมหิดล ได้เสนอโจทย์วิจัยด้านการสำรวจทรัพยากรบนดวงจันทร์ โดยจะนำอุปกรณ์ของไทย ชื่อ “Moon-Aiming Thai-Chinese Hodoscope” หรือ MATCH
เพื่อตรวจวัดอนุภาคพลังงานสูง (อิเล็กตรอน และโปรตรอน) ภายใต้รังสีคอสมิกในอวกาศ รวมทั้งศึกษาผลกระทบระหว่างดวงอาทิตย์ โลก และดวงจันทร์อันเนื่องมาจากอนุภาคที่ตรวจวัด โดยข้อเสนอของไทยนับเป็น 1 ใน 7 อุปกรณ์วิทยาศาสตร์ ที่ผ่านการคัดเลือกให้ติดตั้งไปกับยานอวกาศฉางเอ๋อ 7
นอกจากนี้ ยังจัดแสดงผลงานการใช้โจทย์ดาราศาสตร์ ผลักดันให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีและวิศวกรรมขั้นสูงด้านต่าง ๆ เช่น เทคโนโลยีทัศนศาสตร์และโฟโตนิกส์ เทคโนโลยีเมคาทรอนิกส์ เทคโนโลยีคลื่นวิทยุและสัญญาณดิจิทัล เทคโนโลยีอวกาศ วิทยาศาสตร์บรรยากาศ และเทคโนโลยีการขึ้นรูปชิ้นงานความละเอียดสูง เป็นต้น
พบกับความตื่นตาตื่นใจต่าง ๆ เหล่านี้ได้ที่บูทนิทรรศการ NARIT อว.แฟร์ : SCI POWER FOR FUTURE THAILAND บริเวณโซน F ระหว่างวันที่ 22-28 กรกฎาคม 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ สามารถเข้าชมงานได้ตั้งแต่เวลา 09.00-20.00 น. ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
