
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐ ทรงเป็นพระราชโอรสพระองค์เดียวในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชสมภพ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน ในพระราชวังดุสิต เมื่อวันที่ ๒๘ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๔๙๕ เวลา ๑๗ นาฬิกา ๔๕ นาที ตรงกับวันจันทร์ขึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๙ ปีมะโรง จัตวาศก อธิกวาร จุลศักราช ๑๓๑๔
ม.ร.ว.สุมนชาติ สวัสดิกุล ได้เล่าถึงพระประสูติในขณะนั้นไว้ในหนังสือสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร กรมศิลปากร จัดพิมพ์เมื่อวันที่ ๑๘ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๕ ความตอนหนึ่งว่า “ในวันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๔๙๕ วันนี้ครึ้มฟ้าครึ้มฝนตั้งแต่เช้า ฝนไม่ได้ตกมานาน พวกชาวไร่ชาวนาเห็นเค้าฝนต่างก็พากันชื่นชมยินดี เพราะตั้งแต่เข้าพรรษามาไม่ค่อยจะมีฝนเลย แห้งแล้งไปทั่วเกือบทุกตำบลในประเทศนี้ ชาวบ้านพากันสนใจในเรื่องฝน เมื่อไรจะตกสักที จะได้ชุ่มชื่นกันบ้าง

วันนี้ตรงกับวันจันทร์ ราว ๆ ๙ นาฬิกาเศษได้ยินเสียงลือกันว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จะประสูติเพราะมีพระอาการประชวรพระครรภ์แล้วที่พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต อันเป็นที่ประทับมีการเคลื่อนไหวเล็กน้อย และพอสายเข้าก็มีผู้คนเข้าออกกันมากเข้า ราชสักขีที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งไว้ก็ไปประชุมพร้อมกัน คณะแพทย์ก็รออยู่อย่างพร้อมเพรียง…”
ความต่อมา ม.ร.ว.สุมนชาติได้เล่าต่อไปว่า “วิทยุกระจายเสียงของรัฐบาลได้นัดหมายกับประชาชนในการที่จะแจ้งข่าวการประสูติอย่างละเอียด พร้อมที่จะถ่ายทอดเสียงจากภายในพระราชฐานให้ประชาชนได้ทราบ นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของชาติไทยที่แจ้งข่าวการประสูติด้วยวิธีนี้

สมเด็จพระนางเจ้าฯ มีพระอาการประชวรถี่เข้า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับอยู่ในบริเวณอันใกล้ชิด ทรงสนพระราชหฤทัยยิ่งกว่าผู้ใดอื่นทั้งสิ้น ทรงเตรียมเครื่องอัดเสียงและถ่ายรูปสำหรับการนี้อย่างพร้อมมูล นายแพทย์ได้ตรวจพระอาการและเฝ้าถวายรายงานอยู่ทุกระยะ ดวงใจทุก ๆ ดวงต่างก็มุ่งอยู่ที่ความประสงค์อันเดียวกันคือ อยากให้ประสูติเป็นราชโอรส…”
ครั้งมาถึงช่วงเย็น ม.ร.ว.สุมนชาติเล่าว่า “พอตกเย็นผู้คนก็มาคับคั่งกันอีก บริเวณเขาดินวนา ผู้คนหนาแน่นดูราวกะวันอาทิตย์ เขามาทำไมกัน มาดูเพื่อให้ใกล้ที่สุดที่จะใกล้ได้ ในวังวิ่งวุ่นกันอีกพักหนึ่ง ตอนนี้คงใกล้ประสูติแน่ วิทยุกระจายเสียงป่าวข่าวอันน่าตื่นเต้นต่อไป และพอเวลาใกล้ประสูติเข้าจริง ๆ คนที่รออยู่ก็เตรียมตัวเกือบไม่ทัน
สมเด็จพระนางเจ้ามีพระอาการประชวรถี่ ๆ ขึ้น เป็นระยะ ๆ ทุก ๆ ๕ นาทีที่ทุกดวงใจปรารถนา ในพระที่นั่งพวกข้าหลวงมหาดเล็กวิ่งกันอยู่สับสน ดูพอประทับยังพระที่นั่ง นายแพทย์ผู้ถวายการประสูติก็เข้าประจำที่ สักครู่ก็ประสูติพระราชกุมาร เวลา ๑๗ นาฬิกากับ ๔๕ นาที ในนาทีเดียวกันนั้นเอง ฝนที่แล้งมาตลอดฤดูก็เริ่มโปรยละอองลงมา ดูคล้าย ๆ ฟ้าก็รู้เห็นเป็นใจกับการประสูติครั้งนี้

อารามดีใจสมประสงค์ของดวงใจทุก ๆ ดวง นายแพทย์ที่ถวายการประสูติซึ่งพร้อมที่จะบอกกล่าวแก่ที่ประชุม ณ พระที่นั่งอัมพรสถานว่า “พระราชโอรส” หรือ “พระราชธิดา” กล่าวออกมาด้วยเสียงอันตื่นเต้นกังวานว่า “ผู้ชาย” แทนที่จะว่า “พระราชโอรส” ฝนปรายอยู่ตลอดเวลา แตรสังข์ดุริยางค์เริ่มประโคม ทหารบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ปืนใหญ่ทั้งบกและเรือยิงกันอย่างสะเทือนเลื่อนลั่น เสียงไชโยโห่ร้องก็ดังอยู่สนั่นหวั่นไหว…”

สมใจดวงใจทุก ๆ ดวงของประชาชนชาวไทยที่เฝ้ารอคอยพระบรมราชสมภพในครั้งนี้ สำหรับพระนามเดิมของพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐ “สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ” นั้นเป็นพระนามที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามตามที่สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ (หม่อมราชวงศ์ชื่น นพวงศ์) ถวายเมื่อวันพุธที่ ๓ กันยายน ๒๔๙๕
เนื่องในวโรกาสอันเป็นมหามงคลในครั้งกระนั้นได้ปรากฏ “อัลบั้มภาพ” พิมพ์ออกมาอย่างแพร่หลาย โดยหนึ่งในนั้นก็คือ “อัลบั้มภาพในหลวง” ของ นายประชุม กาญจนวัฒน์ แห่ง นสพ.เดลิเมล์รายวัน ระบุวันที่ ๑๐ กันยายน ๒๔๙๕ ได้รวบรวมภาพพระราชทานและภาพฝีพระหัตถ์ พร้อมคำบรรยายในขณะนั้นถือเป็น “ภาพพิมพ์ใจ” พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐ ในวันพระบรมราชสมภพให้ประชาชนชาวไทยได้ชื่นชมพระบารมีตราบเท่าทุกวันนี้