
มูลนิธิโครงการหลวง ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) จัดงาน “โครงการหลวง ๕๕” ภายใต้แนวคิด “Love for the Earth” สัมผัสทุกไออุ่น คุณความรักจากแผ่นดิน เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ส่งตรงผลิตภัณฑ์จากยอดดอย 39 แห่ง ใน 7 จังหวัดภาคเหนือ ตั้งแต่วันที่ 1-13 สิงหาคม 2567 ณ เซ็นทรัลเวิลด์
งานนี้ได้นำผลิตผลและผลิตภัณฑ์ที่เป็นผลลัพธ์ของการส่งเสริมอาชีพแก่เกษตรกรบนพื้นที่สูงของมูลนิธิโครงการหลวง ส่งตรงจากยอดดอย 39 แห่ง ใน 7 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ลำพูน พะเยา ลำปาง และตาก มาสู่ชาวเมือง
นอกจากเป็นการสนับสนุนการสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้แก่เกษตรกรชาวไทยภูเขาบนพื้นที่สูง กว่า 12,000 รายแล้ว ยังเป็นการช่วยให้ชาวเมืองได้บริโภคสินค้าที่ดี ปลอดภัย และมีประโยชน์ต่อสุขภาพ สนองในพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว องค์นายกกิตติมศักดิ์ของมูลนิธิโครงการหลวง ในการสืบสาน รักษา และต่อยอดงานของโครงการหลวง ให้เกิดประโยชน์แก่ปวงประชาโดยรวมของประเทศ มากกว่า 800 รายการ
“พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์” องคมนตรี ประธานกรรมการอำนวยการจัดงานโครงการหลวง ๕๕ กล่าวว่า คุณความรักจากแผ่นดิน หรือ Love for the Earth เป็นธีมงานโครงการหลวงในปีที่ดำเนินงานพัฒนาพื้นที่สูงมาเป็นเวลา 55 ปี
รวมทั้งยังเป็นการจัดงานในปีมหามงคลยิ่งของปวงชนชาวไทย ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ คุณความรักจากแผ่นดินจึงเป็นความหมายที่ยิ่งใหญ่ต่อพวกเราชาวไทย
งานนี้จึงเป็นสื่อนำความรักพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นับตั้งแต่เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศเป็น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้โดยเสด็จฯ พระบรมราชชนก และพระราชมารดา ไปทรงเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ต่าง ๆ ซึ่งปัจจุบันเป็นพื้นที่ส่งเสริมของโครงการหลวง ตั้งแต่ พ.ศ. 2513
ดังภาพพระราชกรณียกิจที่โครงการหลวงจะได้นำมาจัดแสดงในโซนนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ “72 พรรษา พระมหากรุณา หลั่งไหลสู่แผ่นดิน” ซึ่งประกอบด้วย 10 ภาพ 10 เรื่องราว ที่มีความหมายต่อแผ่นดินไทย อาทิ ภาพการเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรต้นกาแฟของเกษตรกรชาวเขาที่บ้านพุย อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อ พ.ศ. 2518 ปัจจุบันกาแฟได้แพร่ไปทั่วทุกดอย และเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็น “ทศมมหาราชา” ผู้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อปวงประชาชาวไทย จากพระปฐมบรมราชโองการ จะปกครองแผ่นดินโดยธรรมเพื่อประโยชน์สุขแก่อาณาราษฎร และพระราชปณิธาน สืบสาน รักษา ต่อยอดโครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีรับสั่งว่า
สิ่งใดที่ยังเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ต้องดำเนินการและขับเคลื่อนต่อไป มูลนิธิโครงการหลวงจึงดำเนินงานสนองในพระราชปณิธาน “ช่วยชาวเขา” ให้มีอาชีพสุจริต มีความมั่นคงในชีวิต
“ช่วยชาวเรา” โดยขจัดพืชเสพติดที่บั่นทอนความมั่นคงประเทศ เปลี่ยนเป็นพืชอาหารที่ปลอดภัยภายใต้การผลิตเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดการนำเข้า พร้อมไปกับการฟื้นฟู รักษาสิ่งแวดล้อมที่ดี ปัจจุบันโครงการหลวงได้ต่อยอดสู่การ “ช่วยชาวโลก” ด้วยการเป็นแบบอย่างการพัฒนาที่เปิดโอกาสการเรียนรู้อย่างกว้างขวางผ่านการเป็นสถาบันการเรียนรู้มูลนิธิโครงการหลวง
และในปีมหามงคล ประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าต่างพร้อมแสดงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เห็นได้จากการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ทั่วประเทศ Love for the Earth จึงมีความหมายที่ครอบคลุมถึง ไออุ่นจากคุณความรัก ที่อบอวลอยู่ทั่วแผ่นดินไทย
สำหรับงานโครงการหลวง ๕๕ เริ่มขึ้นในวันที่ 1-13 สิงหาคม 2567 รวม 13 วัน มีการจัดแสดงสื่อวีดิทัศน์ผสมการแสดงดนตรีเฉลิมพระเกียรติ ชุด “The Royal ProJect Celebrations : Love For The Earth สัมผัสทุกไออุ่น คุณความรักจากแผ่นดิน” บนจอแอลอีดีขนาดใหญ่ ในพิธีเปิดบริเวณเซ็นทรัลคอร์ต, การจัดแสดงนิทรรศการ “๗๒ พรรษา ทศมมหาราชา พระมหากรุณาหลั่งไหลสู่แผ่นดิน” เป็นการประมวลภาพพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวม 10 ภาพ ที่เป็นที่มาของเรื่องราวความสำเร็จที่สร้างประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติ
พิเศษสำหรับปีนี้คือ โครงการหลวงได้เปิดตัว สาลี่พันธุ์ใหม่ ในชื่อพระราชทาน “รอยัล ลัสเชิส” (Royal luscious) เป็นพันธุ์ลูกผสมที่ใช้เวลาพัฒนาสายพันธุ์นานกว่า 20 ปี เพื่อตอบโจทย์เทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่ จุดเด่นคือ เนื้อละเอียด กลิ่นหอม รสหวานฉ่ำ เนื้อภายในผลไม่เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล และเก็บรักษาได้นาน
รวมทั้งยังได้นำเอเดลไวส์ ดอกไม้สายใยรัก ที่มีต้นกำเนิดบนเทือกเขาแอลป์ ซึ่งโครงการหลวงได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และนำมาขยายพันธุ์ที่สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ และสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง มาจัดแสดงในบริเวณนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ และโครงการหลวงกำลังก้าวสู่การนำสารสกัดไปต่อยอดในอุตสาหกรรมอาหาร การแพทย์ และเวชสำอาง ซึ่งจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาในสิ้นปีนี้
นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงเครื่องแต่งกายจากการพัฒนาต่อยอดลายผ้าชนเผ่าโดยนักออกแบบชาวไทย และชาวญี่ปุ่น รวมทั้งผลิตภัณฑ์หัตถกรรม ผลิตภัณฑ์จากเส้นใยกัญชง จากพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผลิตภัณฑ์บุหงา ดอกไม้แห้ง กิจกรรมบนเวที อาทิ การเสวนา การสาธิตการประกอบอาหารโดยใช้ผลิตผลและผลิตภัณฑ์โครงการหลวง ศิลปะประดิษฐ์ ดนตรี และเวิร์กช็อปต่าง ๆ