เทศกาลการเรียนรู้กรุงเทพ 100 กิจกรรม กับแนวคิด “เปลี่ยน อยู่ คือ” 1-4 ส.ค.นี้

“เทศกาลการเรียนรู้กรุงเทพฯ 2024” กับแนวคิด “เปลี่ยน อยู่ คือ” สร้างการเรียนรู้แบบองค์รวมทุกช่วงวัย จัดเต็ม 100 กิจกรรมครอบคลุมทุกด้าน ผ่านรูปแบบนิทรรศการ เสวนา เวิร์กช็อป เดินสำรวจเมือง 1-4 สิงหาคมนี้ ที่ TK Park และพื้นที่เรียนรู้ทั่วกรุงเทพมหานคร

วันที่ 1 สิงหาคม 2567 สถาบันอุทยานการเรียนรู้ (TK Park) ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร และเครือข่ายการเรียนรู้กว่า 70 องค์กร จัดงาน “Learning Fest Bangkok 2024” หรือเทศกาลการเรียนรู้กรุงเทพฯ 2024 ภายใต้ธีม “เปลี่ยน อยู่ คือ” (I change, therefore I am) ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 แล้ว ระหว่างวันที่ 1-4 สิงหาคม 2567 ณ อุทยานการเรียนรู้ TK Park และพื้นที่เรียนรู้ทั่วกรุงเทพมหานคร

เพื่อตอกย้ำถึงความสำคัญของการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นว่าการเรียนรู้สามารถนำไปสู่ “การเปลี่ยนแปลง” ในทุกระดับทั้งตนเองและสังคมให้ดีขึ้นได้ ทำให้สามารถปรับตัวตามโลกได้อย่างทันการณ์ในยุคของการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ โดยนำสิ่งที่เรียนรู้มาเป็นขุมพลังในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและพัฒนาไปสู่สิ่งที่ดีขึ้น

โดยมุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์การเรียนรู้แบบองค์รวมสำหรับทุกช่วงวัย ตั้งแต่เด็กเล็กไปจนถึงผู้ใหญ่วัยทำงาน โดยมีกิจกรรมมากกว่า 100 กิจกรรม ครอบคลุมหัวข้อทั้งด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ศิลปะ วัฒนธรรม และการพัฒนาทักษะสำหรับอนาคต

โดยนำเสนอผ่านรูปแบบที่หลากหลาย ทั้งนิทรรศการ เวทีเสวนา เวิร์กช็อป การเดินสำรวจเมือง รวมถึง กิจกรรมเชิงวัฒนธรรมและบันเทิงมากมาย ซึ่งทั้งหมดนี้มุ่งหวังที่จะกระตุ้นให้ผู้เข้าร่วมงานเกิดแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ตลอดชีวิตและพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต

เรียนรู้ที่จะเปลี่ยนแปลง-เปลี่ยนแปลงเพื่อเรียนรู้

“ดร.ปรเมธี วิมลศิริ” ประธานกรรมการสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) หรือ OKMD กล่าวว่า ท่ามกลางโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มีคำถามที่ท้าทายต้องเผชิญอยู่เสมอ จะรับการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปพร้อมกันอย่างไร

ถ้าย้อนไปประมาณ 5 ปี ก่อนที่มีโควิด-19 สังคมไม่ได้อยู่กับโลกออนไลน์มากขนาดนี้ แต่เมื่อผ่านพ้นโควิดมาสังคมก็มีการปรับตัว ทั้งประชุมออนไลน์ ทำงานนอกสถานที่ สั่งสินค้ามาที่บ้าน ชำระเงินผ่านแอปพลิเคชั่น เป็นต้น ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

แม้กระทั่งประเด็นโลกร้อน เมื่อ 5 ปีที่แล้วก็อาจดูไม่รุนแรงหรือเร่งด่วนเท่าปัจจุบัน เพราะฉะนั้น ในช่วงสั้น ๆ ก็มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปมากอย่างรวดเร็ว และใน 5-10 ปีข้างหน้า จะเตรียมรับอนาคตที่ยังมองไม่เห็นอย่างไร

คำตอบอาจฟังดูง่าย แต่ทำจริงอาจจะไม่ง่าย แต่ก็เป็นทางออกทางเดียว นั่นคือ การเรียนรู้ที่จะเปลี่ยนแปลง และเปลี่ยนแปลงเพื่อที่จะเรียนรู้

ในโลกปัจจุบัน AI ได้เข้ามา ความเป็นมนุษย์ที่ในอดีตมีความสำคัญต่อการรวบรวมข้อมูล ประมวลผล ปัจจุบัน AI ก็สามารถทำแทนได้เป็นจำนวนมาก ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่มาก จะเรียนรู้ที่อยู่กับมันอย่างไร เพื่อที่จะใช้อย่างชาญฉลาด และในแง่ความเป็นมนุษย์ก็ต้องพัฒนาเพื่อทำสิ่งที่ AI ยังไปไม่ถึง

นอกจากนี้ ในโลกของการมีแนวคิดที่แตกต่างกัน มีความหลากหลาย ก็ต้องเรียนรู้ที่จะเปิดรับความแตกต่างและไม่แตกแยก ก้าวข้ามความแตกต่างไปสู่สิ่งที่สังคมจะเปลี่ยนแปลง ก็มีเรื่องอีกมากมายที่จะต้องเรียนรู้

การเรียนรู้ไม่มีขีดจำกัด และไม่ควรจำกัดอยู่ในห้องเรียนเท่านั้น เช่น TK Park หรือห้องสมุดสมัยใหม่ ที่ไม่เพียงแต่มีหนังสือให้อ่าน แต่มีกิจกรรมที่สร้างประสบการณ์หรือกระตุ้นการเรียนรู้

การเรียนรู้สามารถทำได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นในสวนสาธารณะ การไปตลาด การเดินในชุมชน หรือเรียนรู้จากประสบการณ์ในการไปพูดคุยกับคนที่มีเรื่องราวสะสมไว้ ก็เป็นห้องสมุดมนุษย์ เป็นต้น

ที่สำคัญคือ ต้องเปิดใจที่จะเรียนรู้ มีการตั้งคำถามกับสิ่งที่เป็นอยู่ เป็นมา และคำถามกับอนาคต ตลอดจนทดลองสิ่งใหม่ ๆ และพัฒนาไปกับมัน

สำหรับเทศกาลการเรียนรู้กรุงเทพฯ ก็คงไม่ใช่เฉพาะ 4 วันนี้เท่านั้น แต่มุ่งหวังว่าจะสร้างประสบการณ์และจุดประกายให้ทุกคนได้เป็นคนที่รักการเรียนรู้ ตลอดจนสร้างกิจกรรมหรือการเรียนรู้ต่อเนื่องไปในส่วนต่าง ๆ ที่ได้เกี่ยวข้องด้วย ดร.ปรเมธี กล่าว

ไฮไลต์เทศกาลเรียนรู้กรุงเทพฯ

“ดร.ทวารัฐ สูตะบุตร” ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) หรือ OKMD กล่าวว่า ความเปลี่ยน อยู่ คือ ของ TK Park ในปัจจุบันก็ส่งสัญญาณให้สังคมไทยเห็นภาพว่าการเปลี่ยนแปลงเริ่มต้นจากจุดเล็ก ๆ สามารถที่จะเป็นพื้นที่ในการสร้างแรงบันดาลใจ สามารถเป็นพื้นที่บ่มเพาะความคิดสร้างสรรค์ใหม่ และทำให้ความคิดสร้างสรรค์ใหม่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในสังคมได้ TK Park จึงเป็นแหล่งบ่มเพาะของคนสร้างฝัน คนต้องการขยายความฝัน และคนที่ต้องการให้ความฝันเป็นจริง

ไฮไลต์ของเทศกาลการเรียนรู้กรุงเทพฯ ในครั้งนี้ มีทั้ง “ทอล์ก” หรือเวทีเสวนา อาทิ “TK Forum” และ “เอ๊ะ ทอล์ค”

ซึ่งคำว่า “เอ๊ะ” เปรียบเสมือนการกระตุกต่อมคิด และการตั้งคำถาม เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการค้นคว้าหาคำตอบ ซึ่งเป็นวัฒนธรรมอันหนึ่งที่คนไทยควรมี อย่าเชื่ออะไรง่าย ๆ ต้องตั้งคำถามและหาคำตอบด้วยตัวเอง

อีกไฮไลต์คือการเดินชมเมืองร่วมกับทีมของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในย่านต่าง ๆ ที่หลายคนคิดว่าไม่มีอะไร เช่น ราชประสงค์ ตลาดน้อย และเยาวราช เป็นต้น ซึ่งมีความรู้และเสน่ห์แอบแฝงอยู่

ต่อมาคือเวิร์กช็อปเชิงปฏิบัติการที่ทำให้สามารถนำความรู้ไปใช้สู่การปฏิบัติได้ ซึ่งเป็นเรื่องง่าย ๆ ที่ทุกคนรู้ในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ยังมีเวิร์กช็อปด้านวิทยาศาสตร์ หรือการเล่นเชิงวิทยาศาสตร์ ที่สามารถใช้ค้นคว้าหาคำตอบได้

อีกไฮไลต์คือ “MUSEUM 2124” จัดที่มิวเซียมสยาม ซึ่ง 2121 ก็คืออีก 100 ปีต่อจากนี้ โดยจะมีการจัดกิจกรรมจำลองภาพอนาคตว่า 100 ปีข้างหน้าโลกจะเป็นอย่างไร

นอกจากนี้ ยังมี “Taste of Tomorrow” การชิมอาหารในโลกแห่งอนาคต อาหารบางประเภทมีการเปลี่ยนแปลง อาหารลดโลกร้อน แพลนต์เบส ซึ่งเป็นการทดลองกินและทำ โดยเริ่มจากสิ่งใกล้ตัว

ไม่หมดเพียงเท่านั้น ยังมีกิจกรรมเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ส่งเสริมการสร้างสรรค์และทำให้เกิดความสนุกสนาน ทั้งที่ TK Park และสวนปทุมวนานุรักษ์ โดยมี “ดนตรีในสวน” จากวงดนตรีสากลของ กทม. และมีการเปิดพื้นที่ ณ สถาบันกัลยาณิวัฒนา, Doc Club สาทร และ The Jim Thompson Art Center ให้ผู้ที่สนใจสามารถมาเล่นดนตรีได้

ทั้งนี้ในพื่นที่ TK Park จะมีกิจกรรมตลาดนักเขียน มี Learning Space Festival จากองค์กรที่มีกิจกรรมดี ๆ ด้านการเรียนรู้มาเล่าเรื่องกระบวนการเรียนรู้ที่ทำ

“เรื่องของกระบวนการเรียนรู้เป็นมหกรรมจริง ๆ ต้องมีคนที่มีอุดมการณ์ร่วมกันมาอยู่ด้วยกัน” ดร.ทวารัฐ กล่าว

เอ๊ะ? Awards

ทั้งนี้ในพิธีเปิดงาน เทศกาลการเรียนรู้กรุงเทพฯ 2024 ได้มีการมอบรางวัล “เอ๊ะ? Awards by TK Park” ซึ่งตั้งใจมอบให้กับบุคคลผู้เป็น “มนุษย์เอ๊ะ” แห่งปี เป็นบุคคลต้นแบบผู้สามารถสร้างความเป็นไปได้ใหม่ ๆ และมีส่วนสร้างความเปลี่ยนแปลงขับเคลื่อนสังคม ประกอบด้วย

• รางวัล “เอ๊ะ? เพื่อท้องถิ่น” ได้แก่ นายกอ๋า-พงศ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา
• รางวัล “เอ๊ะ? อนาคต is coming” ได้แก่ ดร.สันติธาร เสถียรไทย
• รางวัล “เอ๊ะ? กลางใจเด็ก” ได้แก่ ครูก้า-กรองทอง บุญประคอง
• รางวัล “เอ๊ะ? ไม่หยุดเรียนรู้” ได้แก่ แพนเค้ก-ดร.เขมนิจ จามิกรณ์
• รางวัล “เอ๊ะ? ก้าวแรกสู่สากล” ได้แก่ ญดา-นริลญา กุลมงคลเพชร
• รางวัล “เอ๊ะ? น่าต่อยอด” ได้แก่ ซีเค เจิง
• รางวัล “เอ๊ะ? ก่อการ Green” ได้แก่ เชอรี่-เข็มอัปสร สิริสุขะ
• รางวัล “เอ๊ะ? ต้องเปลี่ยนโลก” โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์
• รางวัล “เอ๊ะ? จนเป๊ะ” ได้แก่ ภิพัชรา แก้วจินดา
• รางวัล “เอ๊ะ? ที่แท้ทรู” ได้แก่ แอนชิลี สก๊อต-เคมมิส Miss Universe Thailand 2021