เปิดตัวไกด์หนุ่ม “อี้หลง” วัย 38 ปี สเปเชียลลิสต์จีนแผ่นดินใหญ่ สั่งสมประสบการณ์การเดินทางนาน 18 ปี ผู้เชื่อมสัมพันธ์ดึงนักศึกษาจีนมาเรียนในเมืองไทย เผยคุ้นเคย “หวัง หนิง” เจ้าพ่อพ็อปมาร์ต เยี่ยมชมร้านตุ๊กตาของเล่นแบรนด์ดังมาแล้วทุกสาขาในฮ่องกง
วันที่ 7 สิงหาคม 2567 ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า เทรนด์การท่องเที่ยวระหว่างไทย-จีน ดูจะยิ่งคึกคักขึ้น นับตั้งแต่มีมาตรการ “ฟรีวีซ่าไทย-จีน” หรือการยกเว้นตรวจลงตราระหว่างกันอย่างถาวร ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2567 เป็นต้นไป
ซึ่งคนไทยสามารถเดินทางไปจีน และคนจีนเดินทางมาเที่ยวไทยได้สะดวกมากขึ้น โดยไม่ต้องขอวีซ่า และพำนักได้นานสุดถึง 30 วัน ทั้งส่งผลให้อาชีพมัคคุเทศก์หรือไกด์มีความต้องการสูงขึ้นในตลาดท่องเที่ยว และเป็นอาชีพหนึ่งที่น่าสนใจ
จากการพูดคุยในบรรยากาศสบาย ๆ ที่ร้าน “จิ๊นทอดป้าตือ” ร้านดังในโลกโซเชียล ได้พบกับคนรุ่นใหม่ ในฐานะไกด์มืออาชีพ ชื่อว่า “อี้หลง” ตามความหมายแปลว่า “มังกรตัวแรก” หรือ “มังกรตัวที่ 1” เพราะเป็นลูกคนเดียวของครอบครัว
ชื่อจริงคือ “นายวิมล เดชนำบัญชาชัย” อายุ 38 ปี เป็นคนไทยเชื้อสายจีน เกิดที่พญาไท ดีกรีปริญญาตรีมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกว่างซี ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยในจีน และจบปริญญาโท มหาวิทยาลัยรังสิต คณะวิทยาลัยนานาชาติจีน ส่วนตัวมีความสนใจในวัฒนธรรมของชาวจีน ทำให้มีความตั้งใจและมุ่งศึกษาเกี่ยวกับจีนโดยตรง
ขณะที่เรียนก็ทำงานหาประสบการณ์ไปด้วยตั้งแต่อายุ 20 ปี หลังเรียนรู้เรื่องจีนมาพักใหญ่ ทำให้เข้าใจธรรมชาติและพฤติกรรมของคนไทยและคนจีนได้ดีพอสมควร จนสามารถหาจุดเชื่อมโยงระหว่าง 2 ประเทศนี้ได้ ทั้งเรื่องการติดต่อ ประสานงาน การทำธุรกิจ และการท่องเที่ยว
ทั้งเป็นสมาชิกของสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน ที่มี “ดร.โภคิน พลกุล” เป็นนายกสมาคม ทำให้ได้รับโอกาสในการใช้ความสามารถเฉพาะทางทำงานร่วมกับหลาย ๆ องค์กรที่เป็นหน่วยงานระดับต่างประเทศให้มาช่วยงาน จนเกิดความประทับใจและบอกต่อ
โดยเฉพาะการบุกเบิกและประสานงานให้นักศึกษาจีนมาเรียนในเมืองไทยตั้งแต่ปี 2551-2552 ซึ่งเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยรังสิตแล้วกว่า 1,000 คน
“ส่วนตัวเป็นคนช่างสังเกต และชอบวางแผนการทำงานแบบล่วงหน้า โดยตั้งเป้าหมายต้องทำงานให้สำเร็จ และให้ผู้คนรอบข้างที่เราทำงานด้วยมีความสุข อาจด้วยเหตุผลนี้ทำให้มีงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง”
ยิ่งกระแสการท่องเที่ยวเติบโตก้าวกระโดด ทำให้อาชีพไกด์มีดีมานด์สูงขึ้นตามเทรนด์ ก่อนสถานการณ์โควิด-19 ตลาดท่องเที่ยวไทย-จีนเฟื่องมาก มาชะงักก็ช่วงโควิดระบาด หลังสถานการณ์คลี่คลายทุกอย่างเริ่มกลับมา
“ผมจึงต้องดูแลตัวเองเพื่อทำหน้าที่ไกด์ให้ได้มาตรฐาน เพราะเป็นอาชีพที่สร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้เราได้เรียนรู้ ผมจึงมุ่งเรียนรู้เรื่องจีนให้แตกฉาน ศึกษาพฤติกรรมนักท่องเที่ยวคนไทยและคนจีนพร้อมกันไปด้วย”
ด้านไลฟ์สไตล์เป็นคนง่าย ๆ ไม่ค่อยสะสมอะไรมากนัก มุ่งทำแต่งาน เก็บเงินและดูแลลูกสาวเพียงคนเดียวที่รักมาก และห่วงใยมาก ปกติชีวิตเคยชอบความเร็ว แต่เคยเกิดอุบัติเหตุจากรถมอเตอร์ไซค์คว่ำเพราะชนกับรถเก๋ง เมื่อตอนอายุ 15 ปี ร่างกายบอบช้ำหนัก เดินไม่ได้ ต้องพักยาว ถือเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตที่ตัดสินใจหันมาใช้ “สมองมากกว่าร่างกาย”
ทั้งบอกตัวเองมาตลอดเวลาว่า ในอาชีพของความเป็นไกด์ สิ่งสำคัญที่สุดคือความปลอดภัยของลูกทัวร์และตัวเอง รองลงมาคือความสุข ความเอื้ออาทรซึ่งกันและกัน
“อี้หลง” ไกด์หนุ่มบอกอีกว่า จากพฤติกรรมความชอบของนักท่องเที่ยวในช่วง 2 ปีนี้ พบว่ากระแสการสะสมของรักของหวงเริ่มกลับมาใหม่ในหมู่นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะปีนี้ตุ๊กตาอาร์ตทอยมีความนิยมมากขึ้นเป็นเท่าตัว ทำให้เราต้องเรียนรู้เทรนด์ พอดีรู้จักมักคุ้นกับ “หวัง หนิง” ผู้ก่อตั้ง Pop Mart ซึ่งเป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่มาแรง ทำให้เรารู้ลึกถึงที่มาที่ไปของของเล่นเหล่านี้
ทั้งยังเป็นธุรกิจมาแรง สามารถสร้างยอดขายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 6,301 ล้านหยวน หรือประมาณ 12,602 ล้านบาทในช่วงปีที่ผ่านมา และมีแนวโน้มจะเติบโตขึ้นอีกอย่างน่าจับตา
ดังนั้น โปรแกรมการเดินทางและท่องเที่ยวในประเทศจีน รวมถึงฮ่องกง จำเป็นต้องบรรจุหมายการเยี่ยมชมและให้เวลากับการช็อปปิ้งในร้านพ็อปมาร์ตเป็นหลัก เฉพาะที่ฮ่องกงได้เข้าเยี่ยมชมร้านครบทั้ง 10 สาขาแล้ว
ที่น่าสนใจ “ลาบูบู้” กำลังเป็นที่นิยมมาก ๆ ถือเป็นคอลเล็กชั่นที่นักท่องเที่ยวให้ความนิยมสูงสุด เป็นความสุขที่สร้างเงินสร้างบรรยากาศให้โลกแห่งการท่องเที่ยวมีสีสัน
ส่วนสถานที่ท่องเที่ยว ไกด์หนุ่มคนนี้บอกว่า ส่วนตัวจะชอบแนวธรรมชาติ ภูเขา น้ำตก เพราะการได้อยู่กับธรรมชาติ อยู่กับน้ำใส ๆ ไหลรินไปเรื่อย ๆ บวกกับอากาศที่บริสุทธิ์ สดชื่น ก็ช่วยทำให้ร่างกายและจิตใจของเรามีพลังเพิ่มขึ้น
ขณะที่ความศิวิไลซ์ของเมือง ต้องยอมรับว่าจีนไปไกลมากและไปเร็วด้วย เราเองต้องปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์และการเปลี่ยนแปลง อย่างการท่องเที่ยวถือเป็นหัวใจหลักที่ทำให้คนไทยและคนจีนเข้ากันได้อย่างกลมกลืน ทั้งความเป็นอยู่และวัฒนธรรม