
อยากทำก็ทำเลย ถ้าไม่เริ่มตอนนี้ก็ไม่รู้จะได้ทำสิ่งที่รักเมื่อไร “นุก-ทวิพรรณ ตรีสิริเกษม” ศิลปินวาดภาพหน้าใหม่ วัย 52 ปี เผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงการจัดแสดงนิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกในชีวิต กับ “Unknown to Know Solo Exhibition by Tawiphan Tresirikasem” ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากการเดินทางเพียงลำพังของตัวเอง ชวนสำรวจจิตใจและการสื่อสารกับธรรมชาติรอบตัว ผ่าน 30 ภาพวาด ภายใต้แนวคิด “Abstract for Healing” ถึงวันที่ 27 ตุลาคม 2567 ณ ศรีเวียง แกลลอรี่ สีลม
นุก ทวิพรรณ เป็นอดีตนักธุรกิจหญิงในแวดวงไอทีที่ผันตัวมาเป็นศิลปินแบบเต็มตัวเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว โดยก้าวข้าม Comfort Zone ออกเดินทางเพียงลำพังไปยังสถานที่ต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ อาทิ สเปน, อังกฤษ, เนเธอร์แลนด์, ฝรั่งเศส และอิตาลี เป็นต้น
นิทรรศการนี้จะเปิดเผยการเดินทางที่ลึกซึ้งของเธอที่เต็มไปด้วยความท้าทาย ซึ่งการเดินทางไม่เพียงแต่หมายถึงการเคลื่อนที่ไปยังสถานที่ต่าง ๆ แต่ยังสะท้อนถึงการค้นหาตัวตนภายในของศิลปิน เชิญชวนผู้ชมให้เข้าร่วมการเดินทางภายในจิตใจของศิลปิน เพื่อสัมผัสกับช่วงเวลาแห่งความสับสน ความชัดเจน ความเปราะบาง และความแข็งแกร่ง โดยภาพนามธรรมซึ่งทำหน้าที่เป็นเหมือนสะพานเชื่อมระหว่างโลกภายในของศิลปินกับประสบการณ์ของผู้ชม
โดยมีผลงานสไตล์ Mixed Media Art แนวนามธรรม ชิ้นไฮไลต์ คือ “Golden Hour” ซึ่งวาดขณะที่เธอเดินทางไปตุรกี เป็นช่วงจังหวะที่พระอาทิตย์ใกล้จะตก แสงอาทิตย์สีเหลืองทองสาดกระทบกับทิวเขาที่เรียงสลับซับซ้อน ทำให้เกิดความรู้สึกอบอุ่น มีสมาธิจดจ่อกับสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า สงบ สบายใจ ได้ฟังเสียงภายในจิตใจของตัวเองอย่างแท้จริง เสมือนการบำบัดจิตใจด้วยการวาดภาพ
จุดเริ่มต้นเมื่อ 2 ปีก่อน
นุก ทวิพรรณ เผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ย้อนไปเมื่อ 10 ปีก่อน แม้ไม่เคยเรียนศิลปะแต่ชอบวาดภาพเป็นงานอดิเรก ซึ่งตอนนั้นทำงานที่บริษัท IT Multimedia จึงไม่ได้วาดภาพจริงจัง จนกระทั่งรู้สึกว่าชีวิตเริ่มอิ่มตัวเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว
“เราเดินทางมาถึงทุกวันนี้ อยากหาคำตอบว่าชีวิตต้องการอะไร ความสุขของเราอยู่ที่ไหน ก่อนหน้านี้เราเกิดมามีหน้าที่ต่าง ๆ ต้องทำทุกวัน วันหนึ่งก็อยากออกเดินทางคนเดียว เริ่มจากเดินทางในเมืองไทย ไปเชียงใหม่ประมาณ 2 สัปดาห์ มีสมุดสเกตช์ สี และเฟรมเล็ก ๆ ขึ้นไปบนภูเขา เพราะเราชอบอยู่กับต้นไม้ อยู่กับธรรมชาติ นั่งนิ่ง ๆ 4-5 ชั่วโมง ซึมซับความเงียบ แล้วเริ่มรู้สึกว่าสงบ มีความสุข ไม่ได้ต้องการอะไรมากมายในชีวิต จึงเริ่มสเกตช์งาน เก็บความรู้สึก เก็บกลิ่นของป่า สัมผัสไอเย็น บรรยากาศ”
จากนั้นก็ไปภูเก็ต กระบี่ นั่งดูคลื่นริมทะเล มองคลื่นที่กระทบเข้ามา ฟังแต่ละช่วงจังหวะ ทำให้นึกย้อนถึงชีวิตที่ผ่านมา ชีวิตเราก็เหมือนคลื่นซัด มีขึ้นลง จึงเริ่มที่จะเข้าใจชีวิตมากขึ้น
เมื่อเริ่มท่องเที่ยวในประเทศไทยแล้ว ก็ถึงคราวออกเดินทางสู่โลกกว้างยังต่างประเทศ ซึ่ง นุก ทวิพรรณ เล่าว่า เมื่อก่อนไม่กล้าไปคนเดียว ต้องไปกับเพื่อนหรือครอบครัว แต่เมื่อได้ลองแล้วก็พบความสุข เริ่มไปยุโรป นั่งรถบัสไปเมืองต่าง ๆ ไปดูภูเขาที่สลับซับซ้อน และมีหลายภาพที่ประทับใจ
แต่ละที่ที่ไป ทั้งต้นไม้ ภูเขา ทะเล ให้ความรู้สึกและคำตอบที่แตกต่างกัน ภูเขาให้ความรู้สึกสงบร่มเย็น ให้เราได้พักพิง ทะเลทำให้เรารู้สึกว่าชีวิตมีขึ้นลง มีความผันผวน เป็นต้น ตอนแรก ๆ ที่เริ่มไปต่างประเทศก็กลัว แต่ก็เริ่มศึกษาหาข้อมูลว่าจะเดินทางอย่างไร ไปอยู่ตรงไหน เมืองไหน แต่เมื่อไปถึงจริง ๆ ก็พบว่าผู้คนน่ารักมาก
“นุกชอบวาดพวกแง่งหินที่สลับซับซ้อนของภูเขา เพราะเวลาวาด เหมือนคนปีนเขา ถ้าเอามือเข้าไปจับหรือแตะซอกหินพวกนี้จะเย็น หรือเราสามารถเอาตัวเข้าไปอยู่ในนั้นได้ เหมือนมีใครช่วยเรา จึงมีความสุขกับการเดินทางคนเดียว ไปเมืองต่าง ๆ ที่เราไม่เคยไป”
Abstract คืออะไร แค่วาดที่อยากวาด
นุก ทวิพรรณ เล่าว่า ตอนแรกไม่รู้เลยว่าแนว Abstract วาดกันอย่างไร เพียงเริ่มจากการวาดในสไตล์ที่ตัวเองต้องการ วาดภาพตามสิ่งที่เห็น ซึ่งตอนแรกก็ยังมีกรอบหรือยังยึดติดกับอะไรบางอย่างอยู่ แต่เมื่อวาดมาเรื่อย ๆ ก็ไม่สนใจอะไร อยากวาดภูเขาแบบนี้ ต้นไม้แบบนี้ เมื่อปลดปล่อยแบบแผนหรือออกจาก Comfort Zone ทำให้ระบายความรู้สึกต่าง ๆ ที่เคยสะสมไว้ออกมาได้
“เราก็มีเรื่องราวที่เดินทางมา และอยากถ่ายทอดเรื่องราวที่ประทับใจ นุกจะมีชื่องานเล็ก ๆ ติดไว้เพื่อเตือนตัวเอง ส่วนผู้ชมที่เข้ามาชม เราอยากจะปล่อยภาพให้ผู้ชมจินตนาการตามประสบการณ์ที่ผ่านมา ตามเรื่องราวในชีวิตที่เคยพบเจอ อยากปล่อยให้เป็นอิสระ แล้วแต่ประสบการณ์ของแต่ละคน”
ช่วงที่กำลังหาคำตอบกับตัวเอง มีน้อง ๆ เข้ามาชมภาพวาดในบ้าน มีน้องคนหนึ่งร้องไห้และบอกว่าคิดถึงแม่ เมื่อมองภาพวาดของเราทำให้เขามีความหวัง มีกำลังใจในการใช้ชีวิต หรือมีน้องคนหนึ่งซึ่งเป็นโรคซึมเศร้า ชอบมาที่บ้านของเรามาก น้องคนนั้นบอกว่าที่บ้านไม่มีภาพสีสันแบบนี้
กลายเป็นแรงบันดาลใจว่า ถ้าวันหนึ่งงานเราได้จัดแสดง จะช่วยเยียวยาจิตใจน้อง ๆ หรือว่าให้คนในสังคมมีกำลังใจ เราก็อยากมีโอกาสถ่ายทอด จนกลายมาเป็นนิทรรศการนี้ นุก ทวิพรรณ กล่าว
ศิลปะคือเพื่อน
นุก ทวิพรรณ เผยว่า เมื่อตอนวาดภาพเป็นงานอดิเรกกับตอนนี้ซึ่งมีฐานะเป็นศิลปินนั้นไม่แตกต่างกันเลย ความรู้สึกไม่เปลี่ยนไป และไม่กดดันตัวเองว่าการเดินทางแต่ละครั้งจะต้องได้อะไรกลับมา เมื่อก่อนอยากวาดอะไรก็วาด ตอนนี้ก็ยังเป็นเช่นนั้น
เพราะมีคำตอบที่ชัดเจนเกี่ยวกับตัวเอง ทำแล้วสบายใจ ไม่มีข้อจำกัดว่าการเดินทางแต่ละครั้งต้องไปกี่วัน ไม่ได้คิดว่าจะต้องวาดเพื่อไปทำอะไร เพียงแค่ปล่อยให้เฟรมภาพทำงาน
“นุกอายุ 52 ปี ก็บอกลูก ๆ ว่า ชีวิตคนเราสั้น ถ้าไม่เริ่มไปตอนนี้ไม่รู้ว่าจะได้ทำในสิ่งที่รักเมื่อไร ซึ่งลูก ๆ ก็เข้าใจ เลยคิดว่าจะรอให้ตัวเองอายุ 60 หรอ เราจะแบกกระเป๋าสี ถือเฟรม ขึ้นเครื่องไหวหรอ…บางคนเตรียมพักแล้ว แต่เหมือนเป็นชีวิตใหม่ของเรา เราทำหน้าที่เลี้ยงลูกจนโตแล้ว เราจะรออะไร โชคดีที่ลูก ๆ เข้าใจ”
ชีวิตผ่านอะไรมามาก แต่ตั้งหลักและมีความสุขได้เพราะงานศิลปะ พอได้หยิบปากกา ดินสอ ได้สเกตช์ ได้อยู่กับตัวเอง เหมือนเป็นเครื่องเตือนใจ บางครั้งความคิดฟุ้งซ่านไปหลายเรื่อง แต่ศิลปะทำให้ชีวิตช้าลงหรือหยุดยิ่ง ศิลปะเป็นเพื่อนที่อยู่กับเราตลอดและไปกับเราทุกที่
ชีวิตคนเราไม่มีพร้อม 100% อยากทำก็ทำเลย ไม่มีว่าต้องจบเรื่องนี้แล้วค่อยทำอันนั้นต่อ ตอนเริ่มเราก็ไม่พร้อม แต่ถ้านั่งรอเฉย ๆ ก็มีคำถามว่าชีวิตจะทำอะไรต่อ อยากให้ทุกคนเริ่มเลย ไม่ว่าจะอายุเท่าไร ไม่มีข้อจำกัด เพราะเราก็ไม่เคยเรียนวาดภาพมาก่อน แล้วก็ไม่รู้ด่วยว่าจะมีโอกาสจัดแสดงงานศิลปะในวันนี้ สวยหรือไม่สวยเราไม่ทราบ แค่ทำเพราะชอบ เพราะศิลปะช่วยเรา เพราะธรรมชาติช่วยเรา นุก ทวิพรรณ กล่าว
ผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมนิทรรศการ ‘Unknown to Know’ Solo Exhibition by Tawiphan Tresirikasem ระหว่างวันที่ 29 กันยายน-27 ตุลาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. ณ ศรีเวียง แกลลอรี่ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย