
“ประชาชาติธุรกิจ” ชวนเหล่า “กะรัต” (ชื่อแฟนคลับของวง SEVENTEEN) มาทิ้งทวนความทรงจำกับคอนเสิร์ต SEVENTEEN TOUR “FOLLOW” ก่อนส่งไม้ต่อสู่ SEVENTEEN [RIGHT HERE] WORLD TOUR อย่างเป็นทางการ
วันที่ 15 ตุลาคม 2567 การไปคอนเสิร์ตของศิลปินคนโปรด ย่อมทำให้เหล่าแฟนคลับได้รับความอิ่มเอมใจจากโชว์สุดตระการตา แสงสีเสียงจัดเต็ม หรือโมเมนต์ซึ้ง ๆ ที่เกิดขึ้นในคอนเสิร์ตแต่ละรอบ แต่ทั้งหมดเป็นเพียง “เบื้องหน้า” 1% ที่แฟนคลับได้รับรู้จากการเตรียมงานมานานหลายเดือนเท่านั้น
แล้วถ้าวันหนึ่งแฟนคลับได้รับรู้ “เบื้องหลัง” อีก 99% จะทำให้ความรู้สึกที่มีต่อคอนเสิร์ตครั้งนั้นลึกซึ้งขึ้นแค่ไหน ?
ไม่ใช่แค่การรับรู้จากคอนเทนต์บนโลกออนไลน์ แต่เป็นการสร้างประสบการณ์แบบ Immersive Experience นำเบื้องหลังการจัดคอนเสิร์ตมาถ่ายทอดผ่าน “นิทรรศการ” จำลองสถานการณ์จริง
หลายเดือนที่ผ่านมาไฮบ์ (HYBE) และเพลดิส (Pledis Entertainment) ต้นสังกัดของบอยแบนด์มากความสามารถอย่าง “เซเว่นทีน” (SEVENTEEN) ได้จัดนิทรรศการ SEVENTEEN Exhibition “FOLLOW FELLOW” เพื่อบอกเล่าเรื่องราวกว่าจะเป็นคอนเสิร์ต SEVENTEEN TOUR “FOLLOW” ที่เริ่มทำการแสดงครั้งแรก ณ Gocheok Sky Dome กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 21-22 ก.ค. 2566
โดยปักหมุดการจัดนิทรรศการที่แรกในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อเดือน เม.ย. 2567 จากนั้นไล่เรียงมาที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย และล่าสุดมาจัดที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย ถึงวันที่ 15 ต.ค. 2567 ณ ICON Art & Culture Space ชั้น 8 ไอคอนสยาม
จำหน่ายบัตรเข้าชม 2 รูปแบบ ได้แก่ บัตรเข้าชมแบบ VIP ราคา 2,500 บาท (รับ Phototicket จำนวน 13 ใบ ครบตามจำนวนสมาชิก) และบัตรเข้าชมแบบทั่วไป ราคา 1,100 บาท (รับ Phototicket แบบสุ่มจำนวน 1 ใบ) แต่ผู้เข้าชมสามารถรับ Phototicket แบบสุ่มเพิ่มอีก 1 ใบ เมื่อเข้าร่วมกิจกรรมคัฟเวอร์แดนซ์เพลงของวง SEVENTEEN
ภายในนิทรรศการจะเริ่มด้วยจุดถ่ายรูปกับแท่นจำลองรูปของสมาชิกแต่ละคน โดยแต่ละแท่นจะมีแว่นขยายเล็ก ๆ เป็นพร็อพเพิ่มสีสันในการถ่ายรูป จากนั้นจะเข้าสู่โซนห้องซ้อม เริ่มจากการมองสมาชิกทั้ง 13 คน ซ้อมผ่านประตู และเมื่อเข้าไปในห้องซ้อมจะพบกับลายเซ็นของสมาชิกทั้งหมดบนกระจกที่อยู่รอบ ๆ ห้อง พร้อมภาพบรรยากาศการซ้อมในเพลงต่าง ๆ
โซนต่อมาจะเป็นการฝึกซ้อมในสถานที่ที่เทียบเท่ากับเวทีจริง โฟกัสที่การฝึกซ้อมเรื่องเส้นทางการเคลื่อนที่และการจัดตำแหน่งบนเวที โดยโซนนี้จะมีป้ายชื่อของสมาชิกแต่ละคนเป็นกิมมิกให้ผู้เข้าชมสามารถสวมใส่และถ่ายรูปเป็นที่ระลึกได้
จากนั้นผู้เข้าชมจะเข้าสู่โซนก่อนวันแสดงจริง มีทั้งภาพการฝึกซ้อมและการจัดตำแหน่งในพาร์ตต่าง ๆ โดยบรรยากาศรอบ ๆ จะเป็นการจำลองการทำงานหลังเวที มีอุปกรณ์และจอมอนิเตอร์แสดงภาพกับวิดีโอบันทึกการฝึกซ้อม และการเตรียมตัวขึ้นแสดงของสมาชิกแต่ละคน
ต่อมาจะเป็นโซนแสดงชุดที่ใช้ทำการแสดงจริง ซึ่งเป็นชุดเปิดการแสดงสำหรับเพลง Super, DON QUIXOTE และ CLAP 3 เพลงในตำนานที่ช่วยไฮป์บรรยากาศในคอนเสิร์ตได้เป็นอย่างดี โดยชุดจะมีดีเทลเป็นงานปักเหลื่อม รวมถึงคัสตอมให้เข้ากับสไตล์ของสมาชิกแต่ละคน
ส่วนโซนสุดท้ายจะเป็นการประมวลภาพวันแสดงจริงมาจัดแสดง ซึ่งเต็มไปด้วยโมเมนต์น่ารัก ๆ ชวนให้นึกถึงความทรงจำขณะรับชมคอนเสิร์ตเมื่อปีที่ผ่านมา เช่น ช่วงที่โดคยอม (Dokyeom), โฮชิ (Hoshi) และวอนอู (Wonwoo) กอดคอแกล้งร้องไห้ เพราะเสียใจที่คอนเสิร์ตกำลังจะจบลง เป็นต้น
ทั้งนี้ กะรัตยังสามารถฝากข้อความหรือสิ่งที่ต้องการจะบอกกับสมาชิกได้ด้วยการเขียนโพสต์อิต และนำไปแปะบนบอร์ดที่ทางนิทรรศการจัดเตรียมไว้ให้ เมื่อจบการชมนิทรรศการจะมีโซนที่เรียกว่า “Love Letter” ลุ้นจดหมายรักจากสมาชิก 1 คน
จากความรู้สึกของ “กะรัต” คนหนึ่งที่ได้เข้าชมนิทรรศการครั้งนี้ ต้องบอกว่าได้เห็นเบื้องหลังการทำงานที่สะท้อนออกมาจากความตั้งใจของสมาชิกแต่ละคน เข้าใจขั้นตอนของการทำคอนเสิร์ตมากขึ้น และทำให้การกลับไปฟังเพลงหรือชมการแสดงแต่ละครั้งมีความหมายมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม คอนเสิร์ต SEVENTEEN TOUR “FOLLOW” ได้ส่งไม้ต่อให้กับเวิลด์ทัวร์รอบใหม่อย่าง “SEVENTEEN [RIGHT HERE] WORLD TOUR“ เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งทำการแสดงครั้งแรกไปแล้ว ณ Goyang Stadium เมืองโกยาง ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 12-13 ต.ค. 2567
จากนั้นการเดินสายทัวร์ของงวง SEVENTEEN จะไล่เรียงไปที่สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยรอบการแสดงที่ประเทศไทย คือวันที่ 15 ก.พ. 2568 ถือเป็นการเดินทางครั้งใหม่ของสมาชิกที่เป็นดั่งเพชร 13 เม็ด ในวันที่อายุของวงกำลังจะเข้าสู่ปีที่ 10 อย่างเป็นทางการ
![SEVENTEEN [RIGHT HERE] WORLD TOUR IN GOYANG](https://www.prachachat.net/wp-content/uploads/2024/10/GZxlA9BaAAAD8uY-1024x682.jpeg)