1 ทศวรรษ Chiang Mai Design Week เทศกาลสร้างสรรค์เปลี่ยนแปลงเมือง

Chiang Mai Design Week

ครบรอบ 10 ปี “Chiang Mai Design Week” จากจุดเริ่มต้นในท้องถิ่นสู่เวทีนานาชาติ เทศกาลสร้างสรรค์เปลี่ยนแปลงเมือง สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ภาคเหนือกว่า 5 พันล้านบาท ปีนี้จัดใหญ่ทั่วเมืองเชียงใหม่ ตั้งแต่วันนี้-15 ธันวาคม 2567

เริ่มต้นขึ้นแล้วสำหรับงาน “เทศกาลงานออกแบบเชียงใหม่ 2567” (Chiang Mai Design Week 2024 : CMDW2024) ซึ่งจัดโดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA เพื่อเป็นเวทีสำคัญให้นักสร้างสรรค์ นักออกแบบ ศิลปิน และช่างฝีมือท้องถิ่น ได้มีพื้นที่ปล่อยของ นำเสนอผลงาน และแลกเปลี่ยนความรู้เพื่อพัฒนาทักษะและนวัตกรรมสร้างสรรค์ในวงกว้าง

อีกทั้งยังเป็นพื้นที่สำหรับการสร้างเครือข่ายระหว่างผู้ประกอบการ นักออกแบบ และนักลงทุน ให้ได้ทำงานร่วมกัน เป็นการแลกเปลี่ยนทักษะและการสร้างโอกาสการเชื่อมต่อเชิงพานิชย์ได้อย่างเป็นรูปธรรม พร้อมทั้งส่งเสริมการใช้ทรัพยากรท้องถิ่นเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจที่สมดุลและยั่งยืน

ความพิเศษคือ Chiang Mai Design Week ในครั้งนี้ นับเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปี โดยจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “SCALING LOCAL : Creativity, Technology, And Sustainability-For Reviving Recovery” โดยมุ่งเน้นการต่อยอดทุนทางวัฒนธรรมและทรัพยากรในชุมชนสู่ผลลัพธ์ระดับโลก โดยยังให้ความสำคัญของพื้นที่ชุมชนที่สามารถโอบรับผู้คนและอยู่รอดได้ในสถานการณ์โควิด-19

นำเสนอกิจกรรม 6 รูปแบบกว่า 150 โปรแกรม ตั้งแต่วันนี้-15 ธันวาคม 2567 บน 2 พื้นที่หลัก ได้แก่ ย่านเมืองเก่าเชียงใหม่ กลางเวียง (อนุสาวรีย์สามกษัตริย์-ล่ามช้าง) และย่านช้างม่อย-ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ เชียงใหม่ (TCDC เชียงใหม่)-ท่าแพ และพื้นที่อื่น ๆ ในจังหวัด เช่น หางดง และสันกำแพง เป็นต้น

Chiang Mai Design Week

ADVERTISMENT

10 ปี Chiang Mai Design Week

Chiang Mai Design Week เป็นเทศกาลงานออกแบบประจำปีของจังหวัดเชียงใหม่ จัดโดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA ต่อเนื่องกันเป็นปีที่ 10 แล้ว ตั้งแต่ปี 2558

โดยทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มในการแลกเปลี่ยนมุมมอง ประสบการณ์ แหล่งพบปะและแบ่งปันความรู้ด้านการออกแบบและความคิดสร้างสรรค์ ควบคู่กับการสร้างประสบการณ์ร่วมกับงานออกแบบให้แก่เด็กและเยาวชน ชุมชน นักท่องเที่ยว หรือผู้ที่สนใจ

ADVERTISMENT

ภายในเทศกาลจะมีการจัดกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ เช่น นิทรรศการ งานเสวนา เวิร์กช็อป กิจกรรมศิลปะและการแสดงดนตรี ที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต พร้อมแต่งแต้มสีสันและความมีชีวิตชีวาของเมืองเชียงใหม่ให้อบอวลไปด้วยบรรยากาศแห่งความคิดสร้างสรรค์

โดยเริ่มตั้งแต่ย่านกลางเวียง ที่มั่งคั่งด้วยศิลปวัฒนธรรมและวิถีชีวิตท้องถิ่น เรื่อยไปจนถึงย่านช้างม่อย-ท่าแพ ที่ตั้งของศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) เชียงใหม่ ซึ่งเป็นแหล่งความรู้ด้านการออกแบบอันทันสมัย

นอกจากนี้ Chiang Mai Design Week ยังจัดโปรแกรมอื่น ๆ กระจายไปยังพื้นที่สำคัญทั่วเมืองเชียงใหม่ เพื่อให้ทุกคนได้เยี่ยมชมเมืองเชียงใหม่ในมุมมองที่แตกต่าง พร้อมสัมผัสกับประสบการณ์สร้างสรรค์อย่างใกล้ชิด

ตลอดระยะเวลา 10 ปี ที่ผ่านมา Chiang Mai Design Week ไม่ได้หยุดนิ่งอยู่กับที่ แต่พัฒนาอย่างต่อเนื่องจนสร้างพลวัตที่หลากหลายในการผลักดันให้เชียงใหม่ก้าวสู่การเป็น “City Branding” ในฐานะเมืองแห่งความคิดสร้างสรรค์ ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านหัตกรรมและศิลปะพื้นบ้าน ขององค์การยูเนสโก (The UNESCO Creative Cities Network-UCCN) และศูนย์กลางการออกแบบในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

สะท้อนถึงพลังของการออกแบบที่ขับเคลื่อนการพัฒนาสังคม วัฒนธรรม และเศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับการสร้างความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม พร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้กลุ่มคนคืนถิ่น (homecoming) กลับมาพัฒนาบ้านเกิดของตนเอง

Chiang Mai Design Week

จากจุดเริ่มต้น สู่เวทีนานาชาติ

Chiang Mai Design Week เริ่มต้นในปี 2558 ด้วยความร่วมมือระหว่างศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) และหน่วยงานท้องถิ่น มุ่งเน้นการแสดงอัตลักษณ์ของเชียงใหม่ผ่านการผสานศิลปวัฒนธรรมดั้งเดิมเข้ากับแนวคิดร่วมสมัย

ต่อมาในช่วงปี 2558-2559 เทศกาลได้ขยายขอบเขตด้วยการริเริ่มตลาดสร้างสรรค์ (Creative Market) ควบคู่กับการจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการและเวิร์กช็อป เพื่อเชื่อมโยงเครือข่ายระหว่างนักออกแบบและผู้ประกอบการ ซึ่งเป็นรูปแบบการจัดเทศกาลสร้างสรรค์ พยายามจะให้เกิดการสร้างเครือข่ายของความคิดสร้างสรรค์ที่จับต้องได้และต้องขายได้

ต่อมาในช่วงปี 2569-2562 เทศกาลงานออกแบบเชียงใหม่ได้พัฒนาสู่เวทีระดับชาติและนานาชาติ อย่างเต็มรูปแบบ โดยดึงดูดนักออกแบบและผู้สนใจจากทั่วประเทศและภูมิภาคเอเชีย

มีการจัดแสดงนิทรรศการจากนักออกแบบชื่อดังทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งเป็นการผสมผสานเทคโนโลยีเข้ากับงานออกแบบสร้างสรรค์ ทั้งยังมีความร่วมมือระหว่างช่างฝีมือท้องถิ่นและนักออกแบบร่วมสมัย เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ผสานภูมิปัญญาเข้ากับแนวคิดการออกแบบสมัยใหม่เพื่อตอบโจทย์ตลาดยุคใหม

จนกระทั่งในช่วงวิกฤตโควิด-19 ปี 2563-2564 เทศกาลได้ปรับตัวสู่การส่งเสริมแนวคิดสร้างสรรค์เพื่อความยั่งยืน เน้นการออกแบบที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และริเริ่มโครงการ “HomeComing Creator” ที่พานักออกแบบและนักสร้างสรรค์คืนถิ่น กลับมาบ้านเกิดเพื่อสนับสนุนนักสร้างสรรค์จนเกิดเป็นคอมมิวนิตี้หลากหลายสาขา

ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นมา Chiang Mai Design Week ได้ขับเคลื่อนงานเทศกาลให้สอดคล้องกับการที่เชียงใหม่ได้รับการยกย่องเป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านหัตกรรมและศิลปะพื้นบ้าน ขององค์การยูเนสโก (The UNESCO Creative Cities Network-UCCN) มากยึ่งขึ้น โดยมีส่วนสำคัญในการผลักดันความร่วมมือกับนักสร้างสรรค์นานาชาติ

ขณะเดียวกัน เทศกาลยังคงรักษาความเชื่อมโยงกับรากเหง้าท้องถิ่นผ่านการริเริ่มโครงการ “Creative Village” ที่เปิดโอกาสให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการผลิตและจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ในพื้นที่ต่าง ๆ ของเมือง เช่น กาดกองเก่าล่ามช้าง ตลาดชุมชนที่ได้รวบรวมสินค้า อาหาร เครื่องดื่มและบริการท้องถิ่น โดยคนในชุมชนและชุมชนใกล้เคียงร่วมมือร่วมใจกันจัดตั้งขึ้น เป็นต้น

Chiang Mai Design Week

สร้างมูลค่าเศรษฐกิจภาคเหนือ 5 พันล้าน

“นางสาวอิ่มหทัย กันจินะ” ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เชียงใหม่ เผยว่า Chiang Mai Design Week ได้สร้างผลกระทบเชิงบวกในหลายมิติทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม

ตลอดการเดินทางร่วม 1 ทศวรรษที่ผ่านมา Chiang Mai Design Week ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกแก่เมืองเชียงใหม่ โดยได้ปลุกกระแสความตื่นตัวให้กับผู้คนในภูมิภาคเห็นถึงความสำคัญของงานสร้างสรรค์ และการใช้ Creativity and Design เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับทุนทางวัฒนธรรมที่มีอยู่ในชุมชน และเป็นเหมือนหมุดหมายใหม่ให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกเข้าใจว่าการท่องเที่ยวเชียงใหม่ ไม่ได้จำกัดเฉพาะแค่การท่องเที่ยวตามสถานที่ทั่วไป แต่ยังรวมถึงพื้นที่สร้างสรรค์ด้วย

โดยปัจจุบัน Chiang Mai Design Week เปรียบเสมือน “ยานแม่” ของงานสร้างสรรค์ประจำปี ที่ดึงดูดให้งานและกิจกรรมอื่น ๆ ในจังหวัดปรับตัวจัดงานในช่วงเวลาเดียวกัน เพื่อให้ภาพรวมของเมืองเชียงใหม่เต็มเปี่ยมด้วยพลังสร้างสรรค์และกิจกรรมที่หลากหลาย และนักท่องเที่ยวก็ได้ประโยชน์สัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษไปด้วย นางสาวอิ่มหทัยกล่าว

เทศกาลงานออกแบบเชียงใหม่ยังได้สร้างปรากฏการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจ โดยดึงดูดนักท่องเที่ยวและผู้เข้าร่วมเทศกาลทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี ซึ่งมาจากหลากหลายประเทศ เช่น ไต้หวัน ญี่ปุ่น จีน สิงคโปร์ และประเทศในยุโรปและอเมริกา

โดยตลอด 9 ปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวและผู้เข้าร่วมเทศกาล กว่า 1,022,869 คน และจากการเก็บข้อมูลในปี 2561-2564 เทศกาลได้สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ภาคเหนือ รวมกว่า 5,361.56 ล้านบาท

อีกทั้งยังช่วยฟื้นชีวิตให้อาคารเก่าทั่วเมืองผ่านการดึงดูดนักลงทุนให้มาพัฒนาพื้นที่ปรับปรุงอาคารเหล่านั้นให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ส่งผลให้เทศกาลกลายเป็นกลไกสำคัญในการกำหนดยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนเมืองเชียงใหม่อย่างสร้างสรรค์

นอกจากนี้เทศกาลยังได้สร้างความเปลี่ยนแปลงสำคัญในการเชื่อมโยงศิลปะข้ามศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นการจับคู่นักออกแบบหัตถกรรมกับเชฟรุ่นใหม่เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์และสร้างคุณค่าใหม่ให้เกิดขึ้น เป็นต้น

Chiang Mai Design Week

เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

นางสาวอิ่มหทัยกล่าวเสริมว่า Chiang Mai Design Week ได้ยึดมั่นในการดำเนินกิจกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง เน้นการ “ทำให้ดู” มากกว่าการ “สั่งให้ทำ” โดยตั้งแต่ปีแรกของเทศกาล ได้ไอเดียนักสร้างสรรค์และสถาปนิก ออกแบบพาวิลเลียนนิทรรศการที่สามารถดัดแปลงใช้ซ้ำได้ต่อเนื่อง

โดยหลังจากผ่านมาเป็นปีที่ 10 พาวิลเลียนทั้งหมดล้วนเป็นสิ่งประดิษฐ์จากปีแรกทั้งสิ้น ส่วนป้ายให้ข้อมูลเทศกาลนำกลับมาใช้ซ้ำทุกปี โดยปีนี้เปลี่ยนวัสดุที่ใช้ทำป้ายมากกว่า 95% มาเป็นฟิวเจอร์บอร์ดและกระดาษลัง แทนการใช้โฟมบอร์ด ที่หลังจบเทศกาลสามารถนำไปรีไซเคิลต่อได้

อีกทั้งยังใช้สื่อออนไลน์และดิจิทัลแทนการใช้สิ่งพิมพ์ มีการใช้จอ LED โซลาร์เซลล์ และจากปี 2563 ที่แผ่นพับเทศกาลผลิต 30,000 ฉบับ และสูจิบัตร 150 เล่ม เราปรับลดจำนวนอย่างต่อเนื่อง และปี 2567 ผลิตเพียง 20,000 ฉบับ ซึ่งลดลงไป 30% และมีการใช้กระดาษที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

นอกจากนี้ยังมีการใช้รถรางไฟฟ้า Shuttle Bus ตลอดจนพื้นที่ของการจัดงานยังถูกออกแบบให้สามารถเดินเท้าถึงกันได้ รวมถึงมีจักรยานให้บริการ

ทั้งนี้ในส่วนของผู้ประกอบการภายในงานเทศกาล ได้จัดกิจกรรมอบรมให้ความรู้และทางเลือกวัสดุ ส่งเสริมให้ทุกคนใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ทุกคนเกิดการเรียนรู้ในการรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นการปรับตัวเพื่อปูทางสู่การทำธุรกิจอย่างยั่งยืนในอนาคต

เทศกาลงานออกแบบเชียงใหม่ 2567 : ‘SCALING LOCAL’ พลิกโฉมท้องถิ่นสู่สากลด้วยความคิดสร้างสรรค์ เทคโนโลยี และความยั่งยืน นางสาวอิ่มหทัยกล่าว