SIRIVANNAVARI เปิดตัวคอลเล็กชั่นเครื่องประดับชั้นสูงลำดับที่ 4 “AMOUR ÉTERNEL HAUTE JOAILLERIE COLLECTION”

SIRIVANNAVARI x BEAUTY GEMS คอลเล็กชั่นเครื่องประดับชั้นสูง “AMOUR ÉTERNEL HAUTE JOAILLERIE COLLECTION” ผลงานทรงออกแบบโดยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เครื่องประดับชั้นสูงคอลเล็กชั่นลำดับที่สี่ แห่งแบรนด์ SIRIVANNAVARI

ผลงานทรงออกแบบอันทรงคุณค่าจากแบรนด์ SIRIVANNAVARI โดยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ ได้ร่วมกับ BEAUTY GEMS แบรนด์เครื่องประดับอัญมณีชั้นนำของประเทศไทย ร่วมออกแบบคอลเล็กชั่นเครื่องประดับชั้นสูง ที่จะเผยความวิจิตรตระการตาประจำปี

รังสรรค์ผลงานมากกว่า 60 ชิ้นงาน ร่วมกันร้อยเรียงเรื่องราวแห่งความรักในงานออกแบบ  มุมมองและรสนิยมอันละเมียดขององค์ดีไซเนอร์  ที่ถ่ายทอดผ่านความงามแห่งธรรมชาติและดอกไม้พื้นบ้านไทย รวมถึงสัญลักษณ์แห่งแบรนด์ SIRIVANNAVARI  ความเกี่ยวพันระหว่างแฟชั่นการแต่งกาย และโลกแห่งอัญมณีล้ำค่า ความเป็นเลิศทางหัตถกรรมเครื่องประดับของช่างศิลป์ชั้นครู สู่ผลงาน AMOUR ÉTERNEL เครื่องประดับชั้นสูงคอลเล็กชั่นลำดับที่สี่ แห่งแบรนด์ SIRIVANNAVARI

 

AMOUR ÉTERNEL เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความรัก ความผูกพันอันต่อเนื่องมาจากผลงานการออกแบบในคอลเล็กชั่น Heirloom of Elegance เมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา  สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์แบรนด์ SIRIVANNAVARI ได้ตรัสถึงแรงบันดาลพระทัย และกระบวนการสรรค์สร้างผลงานเครื่องประดับชั้นสูงคอลเล็กชั่นที่สี่ครั้งนี้

ADVERTISMENT

โดยงานแต่ละชิ้นจะโดดเด่นมีเอกลักษณ์เฉพาะ timeless เน้นรายละเอียดและเทคนิคที่แสดงถึงความชำนาญของช่างอัญมณีไทย ซึ่งนับวันยิ่งจะหาได้ยากยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นงานพลอยแกะ (Craving), งานเจียระไนเล่นเหลี่ยม, งานฝังซ่อนหนามเตย และอื่น ๆ ที่ถูกเลือกมาใช้เป็นการเฉพาะ

เพื่อตอบโจทย์งานออกแบบอย่างพิถีพิถัน สิ่งเติมเต็มความเลอค่า คือ บรรดารัตนชาติหายาก และเพชรน้ำร้อย ซึ่งผ่านคัดสรรคุณภาพอย่างสมบูรณ์แบบ มีการใช้งานที่พลิกแพลงได้หลากหลาย เหมาะกับหลายวาระโอกาส เพื่อให้ทุกชิ้นควรค่าต่อการเป็นที่รักยิ่ง และส่งต่อให้เป็นมรดกแห่งความรักจากรุ่นสู่รุ่นต่อไป

ADVERTISMENT

ผลงานเครื่องประดับชั้นสูง “AMOUR ÉTERNEL” เปี่ยมด้วยความละเมียดละไมในการออกแบบ และจัดวางชิ้นส่วนประกอบโครงตัวเรือน ให้เอื้อต่อการสวมใส่แนบชิดกับผิวกาย ขณะที่คำนึงถึงน้ำหนักชิ้นงาน ต้องโปร่งเบา ถ่ายทอดความรู้สึกสง่างาม ตามอากัปการเคลื่อนไหว

ไม่ว่าจะเป็นตัวเรือนของสร้อยคอ, สร้อยข้อมือ, แหวน และต่างหู เฉกเช่นเดียวกับผลงานตัดเย็บเสื้อผ้าชั้นสูงจากแผนกห้องเสื้อแฟชั่น ประกายระยิบระยับสลับสีของมวลอัญมณี  เจียระไนอย่างพิถีพิถันหลากรูปทรง ถูกร้อยเรียงขึ้นลวดลาย ขับขานเรื่องราวแห่งงานสร้างสรรค์ในธีมหลัก ได้แก่ “ความรักในธรรมชาติ”  ดอกไม้พระนามและดอกไม้พื้นบ้านไทย ก้านใบพรรณไม้ รวมถึงหมู่มวลสัตว์น้อยใหญ่ในสวนสวยของเจ้าหญิง ไปจนถึงดวงดาวและพระจันทร์เสี้ยวแห่งรัตติกาล

และ “สัญลักษณ์แห่ง SIRIVANNAVARI” บรรดาสัญลักษณ์ทางการออกแบบประจำพระองค์ อย่างเกือกม้า และดวงดาวในฐานะเครื่องหมายนำโชค ตัวแทนแห่งความหวัง ตะขอปากม้า อันสะท้อนถึงความรักอันทรงมีต่อศิลปะการขี่ม้า

นอกเหนือจาก S Signature หรือโลโกอักษร S ตัวย่อพระนามาภิไธยประจำพระองค์  งานออกแบบทั้งหมดคือความหรูหราแนวคิดใหม่ เป็นเครื่องประดับที่ให้อิสระในการพลิกแพลงวิธีสวมใส่ได้หลากหลาย ทุกชิ้นงานอันงดงาม ผ่านกระบวนคิด จินตนาการ และทดลอง ให้สามารถโอบกระชับรอบลำคอ, ข้อมือ, ข้อนิ้ว รวมกระทั่งแนบชิดผิวใบหูได้อย่างเหมาะเจาะ ลงตัวเฉกเช่นการสวมชุดวัด-ตัว-ตัดตามธรรมเนียมห้องเสื้อชั้นสูง

สุริยน ศรีอรทัยกุล กรรมการผู้จัดการกลุ่มบริษัทบิวตี้เจมส์ กล่าวว่า อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของไทยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ประเทศอย่างมาก นานาชาติต่างยอมรับความสามารถของช่างฝีมือไทย โดยเฉพาะการรังสรรค์เครื่องประดับชั้นสูงเป็นศาสตร์สูงสุดของงานศิลปะที่ต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์และทักษะด้านศิลปะ

แบรนด์ SIRIVANNAVARI นำโดย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงมีพระอัจฉริยภาพและหัวใจรักในงานศิลปะหลากแขนง คอลเล็กชั่นทรงออกแบบมีความสมบูรณ์ทางสุนทรียศิลป์ แบรนด์ BEAUTY GEMS ได้รับพระกรุณาธิคุณร่วมสร้างสรรค์ความเป็นเลิศในเชิงหัตถกรรมเครื่องประดับในกระบวนการขึ้นชิ้นงานจริง โดยช่างฝีมือชั้นครูของบิวตี้เจมส์

และได้มีโอกาสสนองพระราชดำริในการส่งเสริมอุตสาหกรรมเครื่องประดับอัญมณีไทย สู่การยกระดับพัฒนาช่างฝีมือสู่สากล เพื่อประเทศไทยก้าวสู่ศูนย์กลางการค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่สำคัญของโลก

สำหรับกระบวนการสร้างสรรค์ผลงานเครื่องประดับชั้นสูงคอลเล็กชั่นนี้ สิ่งสำคัญอย่างยิ่งอีกประการนอกเหนือจากงานหัตถกรรมเครื่องประดับตามธรรมเนียมดั้งเดิม ซึ่งปัจจุบันมีช่างฝีมือไม่ถึงหนึ่งร้อยคนที่สามารถจะทำได้ นั่นก็คือศิลปะแห่งรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นงานเจียระไนเพชรทรงหยดน้ำเหลี่ยมกุหลาบหรือ briolette (บริโญแล็ตต์) หรืองานฝังขึ้นตัวเรือนแบบไร้หนามเตย (Invisible setting)

ซึ่งต้องใช้งานเจียระไนอัญมณีรูปทรงเฉพาะ ร่วมกับโครงสร้างตัวเรือนที่อาศัยร่องรางรองรับการฝังสอดแทนการใช้หนามเตยเกี่ยวยึด เพื่อให้อัญมณีแต่ละเม็ดชิดขอบติดกันจนกลบโลหะตัวรองด้านล่างอย่างหมดจด ก่อผลลัพธ์เสมือนงานปักที่วิจิตรบรรจงจนมองไม่เห็นเนื้อผ้าชิ้นพื้น ทุกอย่างคือความล้ำค่าหายากพอ ๆ กับอัญมณีในบางชุด อย่างไพลินสีกลีบบัวที่เรียกว่า ‘พัดพารัดชา’ หรือแทนซาไนต์ รัตนชาติสีน้ำเงินสดสว่างที่มอบน้ำพลอยกระจ่างจนสามารถใช้ร่วมกับงานเจียระไนทรงกองข้าวได้อย่างไม่มีที่ติ

เครื่องประดับอัญมณีชั้นสูง คือ การขับขานเรื่องราวของกระบวนการสร้างสรรค์ ผลงานอันควรค่าต่อการเป็นมรดกจากแบรนด์ SIRIVANNAVARI  ผลงานแต่ละชิ้น ดุจเวทีเด่นระดมความเลอค่าอันหาได้ยากยิ่ง ตั้งแต่บรรดารัตนชาติสีสด เจิดจรัสไล่เฉดอย่างโดดเด่นท่ามกลางประกายสว่างสุกใสของเพชรน้ำ ไปจนถึงโครงสร้างตัวเรือนซึ่งถือกำเนิดจากความละเอียดอ่อน และความปรารถนาที่จะสืบสานงานฝีมือเครื่องประดับตามธรรมเนียมดั้งเดิมของช่างศิลป์ไทย

ความชำนาญแขนงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนคัดเลือกรัตนชาติ และอัญมณี หรือกรรมวิธีหล่อไขแว็กซ์เขียว สำหรับขึ้นแบบชิ้นส่วนโครงสร้างตัวเรือน ตลอดจนงานเจียระไน, เทคนิคการฝังอัญมณี รวมกระทั่งงานขัดผิวที่ดำเนินกับเพชรพลอย และตัวเรือนทองคำขาว

ผลงาน “AMOUR ÉTERNEL HAUTE JOAILLERIE COLLECTION” ประกอบด้วยชิ้นงานทั้งสิ้น 62 ชิ้นงาน สร้างสรรค์ในรูปแบบ One-Of-A-Kind และ Limited Edition ทั้งหมด สนใจชมคอลเล็กชัน สามารถติดต่อได้ที่ ร้าน SIRIVANNAVARI สยามพารากอน และ BEAUTY GEMS สาขาเซ็นทรัล ชิดลม

#SIRIVANNAVARIxBEAUTYGEMS #SIRIVANNAVARIHAUTEJOAILLERIE #AMOURETERNEL