
นักวิจัยจุฬาฯ คิดค้นนวัตกรรมน้ำยาเคลือบยืดอายุกระดาษ อนุรักษ์เอกสาร หนังสือ และภาพถ่ายโบราณ ให้คงสภาพนาน 20 ปี เป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก 100%
นอกจากกาลเวลาแล้ว ความร้อน ความชื้น และเชื้อรา นับเป็นตัวเร่งสำคัญในการลบและทำลายร่องรอยทางประวัติศาสตร์ เอกสาร ภาพวาด ภาพถ่าย และแผนที่โบราณ ซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมหลายร้อยปีที่ต่างแปรสภาพ กระดาษเปื่อย สีจางลางเลือน ตลอดจนความชื้นจับ ราขึ้น และฝุ่นเกาะ
สิ่งเหล่านี้เป็นปัญหาที่นักอนุรักษ์ทั่วโลกและชาวหนอนหนังสือทั้งหลายพยายามแสวงหาวิธีที่จะแก้ไขเพื่อยืดอายุประวัติศาสตร์และความทรงจำที่จารึกบนกระดาษ
ในต่างประเทศ การเก็บหนังสือ ผลงานศิลปะ และเอกสารในห้องสมุดต่าง ๆ อยู่ในมือนักอนุรักษ์เอกสารโบราณ หรือนักวิทยาศาสตร์อนุรักษ์ (Conservator) ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้มีความรู้ในการเก็บหนังสือ หรือวัตถุทรงคุณค่าตามกฎการอนุรักษ์ โดยจะใช้สารเคลือบวัตถุที่มีลักษณะใกล้เคียงกับเนื้อวัตถุ ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อการแปรสภาพเนื้อวัตถุ
แต่ในประเทศไทย ยังไม่มีผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ การเก็บรักษาหนังสือและเอกสารโบราณจึงมักอยู่ในถุงพลาสติกซิปล็อก เก็บวางไว้ในที่แห้งและเย็น ซึ่งสามารถชะลอความเสื่อมของหนังสือได้ระยะหนึ่ง แต่ก็ชะลอได้ไม่นานนัก

นวัตกรรมจุฬาฯ อนุรักษ์เอกสารโบราณ
ปัญหาดังกล่าวได้จุดประกายให้ทีมนักวิจัยของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยร่วมกันคิดค้นและพัฒนานวัตกรรม “น้ำยาเคลือบยืดอายุกระดาษ” ที่เหมาะสมกับอากาศร้อนชื้นแบบประเทศไทย โดยทีมวิจัยประกอบด้วย ดร.ลัญจกร อมรกิจบำรุง นักวิจัยหลังปริญญาเอก C2F ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์, รองศาสตราจารย์ ดร.คเณศ วงษ์ระวี ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ และอาจารย์ ดร.ภณิตา ศิลปวิทยาดิลก ภาควิชาภาษาตะวันตก คณะอักษรศาสตร์
โดยนวัตกรรมน้ำยาเคลือบยืดอายุกระดาษได้รางวัลสิ่งประดิษฐ์คิดค้น ระดับดี ประจำปี 2567 จากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และหอสมุดชั้นนำหลายแห่งในประเทศก็ได้นำน้ำยาเคลือบยืดอายุกระดาษไปใช้จริงแล้ว โดยการชุบเคลือบหนังสือเอกสารโบราณต่าง ๆ
ดร.ลัญจกร กล่าวว่า น้ำยาเคลือบยืดอายุกระดาษไม่เพียงเหมาะกับการอนุรักษ์หนังสือ เอกสารทางประวัติศาสตร์ ภาพวาดและภาพถ่ายโบราณ แต่สำหรับบุคคลทั่วไป น้ำยาดังกล่าวยังช่วยในการรักษาเอกสารสำคัญ หนังสือเล่มโปรด ภาพวาดและภาพถ่ายที่อยากเก็บให้คงสภาพและรักษาสีสันดั้งเดิมเอาไว้ให้นานยิ่งขึ้นด้วย
น้ำยาเคลือบยืดอายุกระดาษเป็นนวัตกรรมที่ต่อยอดจากงานวิจัยระดับปริญญาเอก ขณะที่ศึกษาอยู่ ณ มหาวิทยาลัยกราซ (University of Graz) ประเทศออสเตรีย โจทย์วิจัยในตอนนั้น คือ การค้นหาวิธีรักษาเอกสารทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์จำนวนมากในห้องสมุดให้คงอยู่ ไม่สลายไปตามกาลเวลา โดยมีเงื่อนไขว่าต้องใช้สารสกัดจากธรรมชาติ ไม่ทำให้กระดาษแปลงสภาพ และช่วยยืดอายุ ชะลอความเสื่อมสภาพของกระดาษได้นาน 10 ปีขึ้นไป
ผลการวิจัยประสบผลสำเร็จด้วยดี ดร.ลัญจกร จึงคิดจะต่อยอดการวิจัยเมื่อกลับมาประเทศไทย เนื่องจากสภาพอากาศแบบประเทศไทย กระดาษมีความเสี่ยงที่จะเสื่อมสภาพได้เร็วกว่าในประเทศที่มีสภาพอากาศแห้งและหนาวเย็น จึงต้องเอางานวิจัยนี้มาพัฒนาปรับสูตรให้เหมาะกับสภาพอากาศของประเทศ โดยสูตรสารเคลือบกระดาษที่เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นแบบประเทศไทยได้ผ่านการพิสูจน์ Aging Test ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่าได้ผล ดร.ลัญจกรกล่าว
“เราจำลองสภาพแวดล้อมในห้องทดลองที่อุณหภูมิสูงถึง 80 องศาเซลเซียส และมีความชื้นสูง 75% เป็นระยะเวลา 7 วันติดต่อกัน ซึ่งเทียบเท่ากับการอยู่ในอากาศภายนอก 20 ปี แล้วนำผลมาตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงของกระดาษที่ถูกเคลือบ พบว่ากระดาษที่เคลือบน้ำยาจะเหลืองน้อยกว่า ไม่เกิดเชื้อรา เนื้อกระดาษมีความแข็งแรงกว่ากระดาษที่ไม่ได้เคลือบน้ำยา”
ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก 100%
ดร.ลัญจกร อธิบายว่า น้ำยาเคลือบยืดอายุกระดาษเป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก 100% ผลิตจากเซลลูโลสที่สกัดได้จากพืชและใช้เทคโนโลยีนาโนคอมโพสิต จึงปลอดภัยทั้งกับวัสดุกระดาษต่าง ๆ และผู้ใช้งาน
นวัตกรรมน้ำยาเคลือบยืดอายุกระดาษสามารถใช้ได้กับวัสดุที่มีส่วนประกอบจากเซลลูโลสทุกประเภท เช่น กระดาษ หนังสือ เอกสารโบราณ งานศิลปะ สิ่งทอ งานไม้ เป็นต้น โดยน้ำยาจะช่วยปกป้องและชะลอการเสื่อมสภาพของกระดาษและวัสดุได้ยาวนานถึง 15-20 ปี โดยไม่เปลี่ยนแปลงสภาพของกระดาษ สีวาด หมึกพิมพ์ และองค์ประกอบของหนังสือ มีคุณสมบัติกันน้ำ กันความชื้น กันรังสียูวี กันเชื้อรา กันฝุ่นและคราบสกปรก ไม่ทำให้กระดาษเหลือง ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกระดาษได้มากถึง 65%
ทั้งนี้ นวัตกรรมน้ำยาเคลือบยืดอายุกระดาษได้จดอนุสิทธิบัตรเรียบร้อยแล้ว และมีการผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้า SalvaStory (ซัลวาสตอรี) โดยมี 2 สูตรด้วยกัน คือ สูตรอนุรักษ์หนังสือ และสูตรอนุรักษ์งานศิลปะ
สำหรับ สูตรอนุรักษ์หนังสือ น้ำยาเคลือบจะมีความเข้มข้นสูง ป้องกันน้ำ ช่วยเสริมความยืดหยุ่น ยืดอายุกระดาษ ไม่ทำให้กระดาษเป็นคลื่น ไม่ทิ้งคราบบนกระดาษ
ขณะที่ สูตรอนุรักษ์งานศิลปะ เป็นน้ำยาแบบพ่นเคลือบ ไร้สี ไร้กลิ่นฉุน ไม่เพิ่มความเงา กระดาษทนน้ำ ใช้ได้กับสีไม้ สีน้ำ สีชาร์โคล สีชอล์ก สีอะคริลิก ดินสอแกรไฟต์ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มคุณสมบัติทนน้ำให้กระดาษ ลดการหลุดลอกของสี ลดความเสี่ยงเกิดคราบเหลือง ไม่เปลี่ยนสภาพกระดาษและสีบนงานศิลปะ แต่สูตรนี้จะเข้มข้นน้อยกว่าสูตรอนุรักษ์หนังสือ
“นวัตกรรมนี้จะช่วยยืดอายุวัสดุ ให้คงความสวยงามและสภาพเดิมได้ยาวนานเพิ่มขึ้น 15-20 ปี น้ำยาเป็นสารที่สกัดจากธรรมชาติ จึงปลอดภัยกับผู้ใช้งาน และไม่ส่งผลให้เนื้อดั้งเดิมของวัสดุเปลี่ยนแปลง ข้อจำกัดเดียวในตอนนี้คือราคายังสูงอยู่สักหน่อย เพราะสารบางอย่างยังหายากและราคาแพง” ดร.ลัญจกร กล่าว
ก้าวต่อไปของนวัตกรรมอนุรักษ์โบราณวัตถุ
ดร.ลัญจกร กล่าวว่า หอสมุดชั้นนำหลายแห่งในประเทศ อาทิ หอสมุดกลางและหอประวัติจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หอจดหมายเหตุ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ หอสมุดกลาง มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ฯลฯ ได้นำน้ำยาเคลือบยืดอายุกระดาษไปใช้ชุบเคลือบหนังสือเอกสารโบราณแล้ว และได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ในระยะต่อไปทีมวิจัยจึงวางแผนที่จะพัฒนานวัตกรรมให้ครอบคลุมการอนุรักษ์ด้านอื่น ๆ ด้วย
“ทีมวิจัยเรามองการพัฒนาไว้ 2 แนวทางด้วยกัน แนวทางแรก จะพัฒนาผลิตภัณฑ์น้ำยาเคลือบให้มีประสิทธิภาพทั้งปกป้องวัตถุ และสามารถฆ่าเชื้อราที่เกิดขึ้นแล้วได้ด้วย ส่วนแนวทางที่สอง เราอยากจะต่อยอดนวัตกรรมนี้ให้ใช้กับโบราณวัตถุประเภทอื่น ๆ ได้ด้วย เช่น งานไม้และงานปูนปั้น โดยน้ำยาเคลือบจะต้องไม่เป็นสารแปลกปลอมหรือส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงเนื้อโบราณวัตถุไปจากเดิมตามกฎของการอนุรักษ์”