มาดามแป้งชี้ ไทยครบเครื่อง คนไทยคือซอฟต์พาวเวอร์ รัฐบาลมาถูกทาง

“มาดามแป้ง-นวลพรรณ ล่ำซำ”
“มาดามแป้ง-นวลพรรณ ล่ำซำ”

 “มาดามแป้ง-นวลพรรณ ล่ำซำ” ชี้ประเทศไทยครบเครื่อง คนไทยมีซอฟต์พาวเวอร์ในตัว เชื่อรัฐบาลมาถูกทางแล้ว แต่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดสัมมนา “Chula Thailand Presidents Summit 2025” รวมตัวสุดยอดผู้นำองค์กรชั้นนำระดับประเทศ ณ หอประชุมจุฬาฯ

หนึ่งในเวทีสัมมนาภายในงาน คือ “Future Thailand : Soft Power” โดย “มาดามแป้ง-นวลพรรณ ล่ำซำ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เมืองไทยประกันภัย, “รวิศ หาญอุตสาหะ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ศรีจันทร์สหโอสถ และ “มณีรัตน์ อนุโลมสมบัติ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Sea (ประเทศไทย)

ซอฟต์พาวเวอร์แฟชั่น ต่อยอดเศรษฐกิจ

มาดามแป้งกล่าวว่า ซอฟต์พาวเวอร์เป็นประเด็นที่รัฐบาลชุดนี้ให้ความสำคัญมาก ในยุคที่แป้งเริ่มทำงาน เมื่อปี 2532 ตลอดเส้นทางที่ทำงานมาอาจจะไม่ได้เรียกว่าซอฟต์พาวเวอร์ แต่พอมานึกย้อนดูสิ่งที่ทำมาวันนี้ล้วนเรียกว่าซอฟต์พาวเวอร์

ตั้งแต่เริ่มเป็น AE อาชีพยอดฮิตในสมัยนั้น จนกระทั่งทำธุรกิจแยกออกมาจากที่ตระกูลทำอยู่ นั่นคือการนำเข้าแฟชั่นจากต่างประเทศ เพราะตอนนั้นคนไทยต้องไปซื้อของจากฮ่องกงหรือสิงคโปร์ ทำไมไม่สามารถนำสินค้าเหล่านั้นมาขายในไทยได้ จึงเริ่มทำแบรนด์แรกชื่อว่า Celine (เซลีน) เมื่อปี 2535 ก่อนจะเขียนจดหมายไปขอทำแบรนด์ Hermès (แอร์เมส)

ถามว่าเป็นซอฟต์พาวเวอร์หรือไม่ วันนี้ถ้าไปเปิดดูหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฝรั่งเศส อันดับ 1 คือหุ้น LVMH มีมูลค่า 12 ล้านล้านบาท อันดับ 2 คือ แอร์เมส มีมูลค่า 9 ล้านล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่าซอฟต์พาวเวอร์ต้องทำและต่อยอดหรือบูรณาการไปถึงเศรษฐกิจได้

ADVERTISMENT

“สิ่งที่คนฝรั่งเศสทำ คือการเปล่งประกายซอฟต์พาวเวอร์ของเขา ในรูปแบบของแฟชั่นดีไซน์ ต่อยอดจนกระทั่งวันนี้พิสูจน์แล้วว่าเป็นซอฟต์พาวเวอร์หนึ่ง”

 ฟุตบอลคือซูเปอร์พาวเวอร์

สำหรับด้านกีฬา ซึ่งอยู่ในชีวิตของแป้งมาร่วม 19 ปีแล้ว กีฬาก็เป็นส่วนหนึ่งในซอฟต์พาวเวอร์เช่นกัน

ADVERTISMENT

แป้งมีโอกาสได้เดินทางไปดูฟุตบอลที่กาตาร์ ซึ่งเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 เนื่องจากประเทศเล็กมากมีประชากร 3 แสนคน แต่มีประชากรอื่นที่เข้าไปทำงาน 2 ล้านคน กาตาร์ใช้ถึง 9 สนามในการจัดฟุตบอลโลก สร้างรายได้ให้กับประเทศ และโปรโมตประเทศอย่างยั่งยืน

สมาชิกของฟีฟ่า มีมากกว่าสมาชิกของยูเอ็น ดังนั้น เวลาแข่งกัน 90 นาที ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกคนต้องการชัยชนะ แต่หลังจากนั้นคือมิตรภาพหลังสนาม แป้งมองว่าฟุตบอลคือซูเปอร์พาวเวอร์สปอร์ตไปแล้ว

เม็ดเงินของฟุตบอลไหลทั่วไปหมด เช่น การเลือกนายก อบจ. ทั้ง 47 จังหวัดที่ผ่านมา มีราว 10 จังหวัดที่เป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอล

สะท้อนให้เห็นว่าฟุตบอลไม่ใช่แค่ฟุตบอล นำไปสู่มิติของคนในคอมมิวนิตี้ เช่น สโมสรการท่าเรือ ให้พ่อค้าเเม่ค้าในคลองเตยเข้ามาขายของ หรือในต่างจังหวัดเลือกแข่งเสาร์-อาทิตย์เพราะปลุกกระแสท้องถิ่นนิยม คนเอาผ้าไทย เอากางเกงช้างมาขาย

อาวุธสำคัญที่สุดคือ ‘คนไทย’

มาดามแป้งกล่าวว่า ประเทศไทยมีอาวุธที่สำคัญที่สุด ที่เป็นซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศ นั่นคือ “คนไทย” ไม่เช่นนั้นปีที่แล้วกรุงเทพมหานครคงไม่เป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับหนึ่ง เนื่องจากทำอาชีพประกันภัย เวลาทำประกันเดินทาง นักท่องเที่ยวบอกว่าชอบคนไทย เพราะเป็นคนสบาย ๆ ใจดี ยิ้ม และมีหัวใจการบริการ ซึ่งเป็น DNA ของคนไทย

“วันนี้ดีใจที่รัฐบาลชูเรื่องนี้ คำว่าซอฟต์พาวเวอร์จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าไม่มีองค์กร ภาครัฐ ภาคเอกชน ที่มาช่วยเสริมสร้างให้คนที่มีซอฟต์พาวเวอร์ไปต่อได้ดี ต้องใช้คำว่าสมาร์ทพาวเวอร์ คือซอฟต์บวกกับกำลังของภาครัฐ หรือเม็ดเงินที่ลงถูกจุด ถูกเวลา”

ซอฟต์พาวเวอร์จะเกิดหรือถูกพัฒนาต้องมาจากคนในประเทศ นอกจากจำนวนคนแล้ว ต้องมาจากคุณภาพของคนด้วย ซึ่งวันนี้จำนวนคนลดลงอย่างน่าใจหายโดยเฉพาะในประเทศไทย มีการเกิดน้อยกว่าการตาย และอีกไม่กี่ปีจะหมดยุคการทำงานของคนเบบี้บูมเมอร์

คนเป็นประเด็นสำคัญ และคนไทยมีซอฟต์พาวเวอร์อยู่ในตัว ดังนั้นซอฟต์พาวเวอร์ต้องทำร่วมกับการพัฒนาคน ยิ่งในช่วงที่เด็กเกิดน้อย และมีสภาพจิดตใจบอบบาง

“ความท้าทายของการทำซอฟต์พาวเวอร์คือ ต้องเชื่อมโยงทุกภาคส่วน ตั้งแต่เล็กสุดถึงใหญ่สุด ทำอย่างไรเมื่อวันนี้มีคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติขึ้นมาแล้ว ให้คณะกรรมการนี้อยู่ไปเรื่อย ๆ ทำตามแผนไปเรื่อย ๆ เมื่อมีการเลือกตั้งใหม่หรือเปลี่ยนรัฐบาล แผนยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ที่ถูกคิดร่วมกันของหลายฝ่ายยังดำเนินการไปได้ต่อไป ตั้งหลักแล้วต้องยิงยาว ไม่คิดว่าของชิ้นนี้เป็นผลงานใครคนใดคนหนึ่ง ต้องถือว่าเป็นผลงานของทีมประเทศไทย ต้องขยับทั้งองคาพยพ เมื่อปักหมุดหมายแล้วไม่ว่าอะไรจะเปลี่ยนไป ถ้ามั่นใจว่าถูกต้อง มันจะต้องเดินต่อไปอย่างยั่งยืน”

“วันนี้รัฐบาลน่าจะมาถูกทางแล้ว แต่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง” มาดามแป้งกล่าว

อนาคต ความท้าทาย ซอฟต์พาวเวอร์ไทย

มาดามแป้งกล่าวว่า ประเทศไทยมีครบเครื่องทุกอย่าง เช่น เวลเนส ที่ทุกคนต้องบินมาหาหมอที่ไทย แต่กลับกันระบบสาธารณสุขของไทยกลับประสบภาวะวิกฤต เนื่องจากพยาบาลขาดแคลน ออกจากระบบตั้งแต่โควิดเพราะทำงานหนัก โดยเฉพาะพยาบาลขอบชายแดน

นอกจากนี้ แรงงานที่รันธุรกิจท่องเที่ยว ธุรกิจ SMEs คือ แรงงานต่างด้าวเป็นส่วนมาก เรื่องนี้มี 2 มุม ในมุมผู้ประกอบการก็ต้องใช้แรงงานต่างด้าวเพราะถูกกว่า และแรงงานเหล่านี้สู้ตาย ทำทุกอย่าง แต่ในขณะเดียวกัน ในแง่ความมั่นคงระบบสาธารณสุขหรือความมั่นคงด้านอื่นก็เริ่มจะเกิดปัญหา เช่น ทุกวันนี้มีการทำคลอดแรงงานต่างด้าวมากกว่าเด็กไทย เป็นต้น

มาดามแป้งยังกล่าวอีกว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่แทบจะไม่มีภัยธรรมชาติเลย แต่วันนี้อาจจะไม่ใช่แบบนั้นเเล้ว เพราะสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง

ประเทศไทยพรั่งพร้อมจริง ๆ ทั้งอาหาร เทศกาล ศิลปะ วัฒนธรรม อุปนิสัย สิ่งที่คนไทยจะได้เปรียบคือ คนไทยมีคุณลักษณะต้องตาต้องใจโดยธรรมชาติ จากผู้คนทั่วโลก ดังนั้นต้องดำรงเอกลักษณ์ของความเป็นคนไทยไว้ ซึ่งเป็นเรื่องยากในภาวะที่บีบคั้นหลายอย่างในปัจจุบัน ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และภัยธรรมชาติ

“ถ้าจะให้ซอฟต์พาวเวอร์ของไทยอยู่ได้ ผู้ที่ผลิตซอฟต์พาวเวอร์ ต้องมีหน่วยที่ให้คำแนะนำ และแหล่งเงินทุน ทุกอย่างต้องมีศูนย์กลาง”