เปิดใจบอสใหญ่ CPF จาก “ไก่อวกาศ” ถึง Trump Effect

CPF
ประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ

สัมภาษณ์ครั้งแรกในปี 2568 แม่ทัพใหญ่ค่ายซีพีเอฟ “ประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ” ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ยอมรับว่า “สนุกและได้สาระ” ทั้งมีประเด็นน่าติดตาม

เพราะเป็นผู้ประกอบการแบรนด์ไทยขนาดใหญ่ที่มีมาร์เก็ตแคปร่วม 2 แสนล้านบาท ยอดขายต่อปี 6-7 แสนล้านบาท รวมบุคลากรทั่วโลกมีถึง 1.2 แสนคน เฉพาะในไทย 7 หมื่นคน ส่วนไอเท็มสินค้าคือนับไม่ถ้วน

ผู้นำจึงหยุดนิ่งไม่ได้ ต้องไดนามิกตลอด เพื่อนำพาองค์กรให้สามารถแข่งขันได้ในทุกเวทีของโลก ด้วยเป้าหมายยอดขายเติบโตปีละ 10% และปักหมุดต้องไปให้ถึง 1 ล้านล้านบาท ภายในกรอบ 5-10 ปีนับจากนี้

“สไตล์ผมเป็นคนไม่อยู่นิ่งอยู่แล้ว ชอบแก้ปัญหา วางโซลูชั่น และทำงานเป็นทีม เพราะบริษัทไม่สามารถทำสำเร็จได้เพียงใครคนใดคนหนึ่ง เราต้องรู้จักบริหารจัดการ”

“คนที่เป็นผู้นำต้องอดทน รู้จักใช้วิธีสร้างพลังงานด้านบวก หรือ Positive Energy ให้กับผู้คน เมื่องานสำเร็จไม่ใช่ 1+1 เป็น 2 แต่อาจจะกลายเป็น 5 เพราะผลลัพธ์สุดท้ายความสำเร็จก็เป็นทีมอยู่ดี”

แม้จะมีโจทย์ใหม่-โจทย์ใหญ่ให้แก้ตลอดเวลา เขาบอกสั้น ๆ ว่า “นี่คือภารกิจ” ซึ่งเครือข่ายธุรกิจของซีพีเอฟมีอยู่ทั่วโลก ปัญหามีให้แก้ทุกวัน และต้องประชุมอย่างน้อยวันละ 6-7 วง บางวันเริ่มตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน

ADVERTISMENT

การดึงพลังของทีมต้องใช้วิธีจูงใจให้เห็นว่า ปัญหาที่แท้จริงคืออะไร ทำไมเราต้องแก้ไข ชี้ให้เห็นถ้าแก้แล้วจะเกิดอะไร ผลเชิงบวกเป็นอย่างไร

“ผมมักจะบอกกับทีมงานเสมอว่า ถ้าแก้ปัญหาได้ แล้วทำไปเรื่อย ๆ ก็จะดีเอง เพราะไม่มีใครรู้จริง ผมทำงานเป็น CEO ที่นี่ร่วม 6 ปีแล้วก็ต้องเรียนรู้ทุกวัน”

ADVERTISMENT

อย่างการจุดพลุ “ไก่อวกาศ” ถือเป็นการคิดและแก้ปัญหาไปในตัว พร้อมกับ “ต่อยอด” สร้างการรับรู้ ซึ่งเป็นโจทย์ใหญ่ เป็นพลังสร้างสรรค์ที่เราทำได้สำเร็จ เป็นอีกความภูมิใจของพนักงานทุกคน

คำว่า “ไก่ไทยจะไปอวกาศ” หรือ “ไก่อวกาศ” ที่บริษัทผลิตขึ้นนั้นเพิ่งได้รับรางวัลสุดยอดแคมเปญการตลาดแห่งปี CMO’s TOP CHOICE Award จากคะแนนโหวตของคณะผู้บริหารระดับสูงด้านการตลาดของบริษัทชั้นนำกว่า 100 ท่าน

และยังได้รางวัลระดับ Silver สูงสุดแห่งปี ประเภทการตลาดที่ถ่ายทอดจุดยืนของแบรนด์และกลุ่มเป้าหมายผ่านการสร้างประสบการณ์ การสื่อสารต่าง ๆ (Brand Experience & Communication) สู่ผู้บริโภค

จากภาพการแปลงโฉมใจกลางสยามสแควร์ ให้เป็นสถานีอวกาศ จนขึ้นอันดับ 1 Trend X ประเทศไทย และอันดับ 3 ของโลก ส่งผลให้ยอดขายในประเทศโตขึ้น 11% และขยายผลต่อธุรกิจสู่ระดับนานาชาติได้ด้วย

จุดเริ่มต้นของไก่อวกาศมาจากวิสัยทัศน์ของ “ประสิทธิ์” ที่มุ่งส่งเสริมอุตสาหกรรมไก่ไทยอย่างต่อเนื่อง จากที่เคยพัฒนา “ไก่เบญจา” มาแล้ว ด้วยการเลี้ยงอาหารด้วยธัญพืช

“ไทยเป็นผู้ผลิตและส่งออกไก่เป็นอันดับ 3 ของโลก ไก่ไทยมีการดูแลเรื่องคุณภาพและมาตรฐาน แต่เราพบว่าตลาดในประเทศติดภาพจำเรื่องไก่ไทยมีการใช้ฮอร์โมน ซึ่งเป็นความทรงจำกว่า 30 ปีที่แล้ว”

เราจึงคิดจะทำอย่างไรที่จะสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคในเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยอาหาร เราได้ดำเนินการหลายวิธี และเรายังเป็นโรงงานที่ซัพพลายวัตถุดิบไก่ให้กับแบรนด์ดี ๆ ระดับโลกอย่าง KFC อีกด้วย

แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่สามารถปลดล็อกความเชื่อเรื่องนี้ได้

กระทั่งได้หารือกับฝ่ายการตลาดมีไอเดียว่า เราควรจะมี Single Message ว่า มาตรฐานเราดี เราส่งออกไปอวกาศได้จริง โดยไปคุยกับ NASA Lab ซึ่งไม่ใช่แค่แคมเปญการตลาด

แต่ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยสู่มาตรฐานอวกาศ Space Food Safety Standard สร้างความเชื่อมั่นว่า เนื้อไก่ของซีพีเป็นหนึ่งในแบรนด์เนื้อสัตว์ที่มีมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดแล้วในโลกนี้

แต่แทนที่เราจะใช้ “ไก่ซีพีไปอวกาศ” เราก็ใช้คำว่า “ไก่ไทยจะไปอวกาศ” แทน คาดว่าจะออกแคมเปญนี้ได้ในเร็ว ๆ นี้

เพราะตั้งใจจะยกระดับอุตสาหกรรมไก่ของประเทศไทย ซึ่งเป็นเครื่องจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ หากประเทศสำเร็จ เราก็จะสำเร็จไปด้วยกัน

ในส่วนซีพีเอฟเองก็ได้มีการวิจัย และพัฒนาผลิตภัณฑ์โปรไบโอติก “บิฟิโอ โปรไบโอติก พลัส” ขายในแพลตฟอร์มออนไลน์ ทั้งช้อปปี้ ลาซาด้า ทั้งยังได้วิจัยและพัฒนาการนำโปรไบโอติกมาใช้เป็นส่วนผสมในสูตรอาหารสัตว์ด้วย เพื่อทำให้สัตว์ที่เราเลี้ยงมีสุขภาพแข็งแรง

ล่าสุด CPF ยังได้ผนึกกับ Uoriki แห่งประเทศญี่ปุ่น เพื่อรุกตลาดอาหารญี่ปุ่นในระดับพรีเมี่ยม เพื่อขับเคลื่อนองค์กรให้มีโปรเจ็กต์ใหม่ ๆ ในฐานะพี่ใหญ่ของวงการผลิตและส่งออก

ปัจจุบันซีพีเอฟเองได้ปรับขยายสู่การเป็น “Global Sourcing” ในการนำเข้าวัตถุดิบ เข้ามาจำหน่าย โดยร่วมลงทุนกับอูโอริกิ (Uoriki) บริษัทผู้ซื้อปลาในตลาดญี่ปุ่นระดับชั้นนำ เพื่อให้เราได้รับวัตถุดิบและราคาที่ดีที่สุด ตอนนี้อาจจะได้ราคาถูกกว่าปกติและคุณภาพสูงถึงระดับ 5 ดาว แต่ราคาอยู่ในระดับ 3 ดาว เราอยากให้วัฒนธรรมการรับประทานอาหารประเภทนี้เข้าถึงตลาดได้ เข้าถึงผู้บริโภคได้ โดยใช้พลังเครือข่ายช่วยบริหารต้นทุน ซึ่งดีกับองค์กรและผู้บริโภค

“เราเริ่มจากการนำเข้ามาในช็อป ขายในแม็คโครก่อน ปัจจุบันเราคุยกับเซเว่นอีเลฟเว่น จัดจำหน่ายในเซเว่นฯ ให้เข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง ตอนนี้ทำมา 14 เดือนได้เริ่มทยอยเปิดไป 20 สาขา เช่น สาขาตึก ซี.พี.สีลม, สาทร ฯลฯ”

ทั้งหมดเป็นเพียงบางส่วนของภารกิจที่องค์กรแสนล้านได้ขบคิดและทำให้เกิดขึ้นจริง

แต่การจะก้าวไปถึงจุดเป้าหมายของยอดขาย 1 ล้านล้านบาทนั้น ไม่ง่ายแต่ก็ไม่ยาก เพราะคนทั่วโลกต้องบริโภคอาหารทุกวัน

กล่าวถึงสถานการณ์ที่น่าจับตา เมื่อถามถึง Trump Effect “ประสิทธิ์” บอกว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างติดตามและประเมินสถานการณ์การดำเนินนโยบายของรัฐบาลประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ 2.0 ซึ่งโดยหลักการเบื้องต้นจะต้องพิจารณาว่า ทางภาครัฐบาลไทยจะเจรจาต่อรองเรื่องอะไรบ้างกับทางสหรัฐ และจะมีผลอย่างไรต่อประเทศไทย

ยกตัวอย่างเช่น หากรัฐบาลเจรจาต่อรองเรื่องสินค้าเกษตร โดยเพิ่มการนำเข้าข้าวโพดจากสหรัฐ จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศรวมถึงบริษัท CPF เพราะประเทศไทยยังผลิตข้าวโพดได้ปริมาณไม่เพียงพอต่อความต้องการ ดังนั้นหากมีข้าวโพดจากสหรัฐเข้ามาจะทำให้ต้นทุนการผลิตอาหารสัตว์ของประเทศไทยลดลง

แต่อย่างไรก็ตาม การกำหนดให้มีการนำเข้าข้าวโพดนั้น จะต้องมีการกำหนดเงื่อนไขช่วงเวลาในการนำเข้า เพื่อไม่ให้ชนกับช่วงผลผลิตของเกษตรกรออกสู่ตลาด เพื่อป้องกันผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาที่จะกระทบต่อเกษตรกรไทยด้วย

ส่วนในกรณีที่หากภาครัฐจะเจรจาต่อรอง เรื่องการเปิดนำเข้าเนื้อสุกรจากสหรัฐ อาจจะส่งผลกระทบต่อประเทศไทยรวมถึงบริษัทด้วย เพราะสหรัฐยังมีการใช้สารเร่งเนื้อแดงจะกระทบต่อผู้บริโภค

ขณะเดียวกัน การนำเข้าเนื้อหมูสหรัฐที่มีความได้เปรียบทางด้านราคา จะส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร และจะส่งผลต่อโครงสร้างราคาสุกรไทยของไทย เป็นต้น