
ผู้เขียน : ธีรดา ศิริมงคล
ต้องยอมรับว่า ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ค่อนข้างซึมลึก คนขาดกำลังซื้อ (ยกเว้นกลุ่มคนมีเงินและเศรษฐีไฮโซ) ยังมีอีกตลาดหนึ่ง ซึ่งมีการเติบโตต่อเนื่องและคึกคักเป็นพิเศษ
นั่นคือ ตลาดหนังซีรีส์ โดยเฉพาะซีรีส์หญิงรักหญิง ถือว่ามาแรงตามกระแสนิยม ทำให้มูลค่าตลาดมีการเติบโตแบบหลายมิติ
ธรรมศาสตร์ จัดเสวนา GL Power
ล่าสุด คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) มองเห็นกระแสแรงทั้งทิศทางและแนวโน้ม จึงจัดเสวนาที่ท่าพระจันทร์ ภายใต้หัวข้อ “GL Power เมื่อพลังหญิงรักหญิงสร้างเรื่อง” ที่กำลังโลดแล่นไปกับกระแสคอนเทนต์ Girls’ Love
การผลิตจะผลิตอย่างไรให้ทรงพลัง พร้อมร่วมเปิดมุมมองจากคนในวงการ ประกอบด้วย ดร.เกียรติญา สายสนั่น อาจารย์ประจำคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พร้อมด้วย ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ ผู้กำกับซีรีส์ และอดีต สส.พรรคก้าวไกล และ นรมน กัลยาณมิตร นักเขียนหนังสือนิยาย Girls’ Love / Yuri นามปากกา Ma-Bung
นับเป็นโอกาสใหม่ของวงการสื่อบันเทิงไทย ที่จะหาช่องทางการเติบโตและร่วมพัฒนาเนื้อหาคอนเทนต์ ซีรีส์หญิงรักหญิง ที่ชี้ให้เห็นอนาคตที่สดใสและเติบโตอย่างคาดไม่ถึง เป็นการพลิกโอกาสในการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้สูงมากเลยทีเดียว

เติบโตต่อเนื่อง 3 ปี
ดร.เกียรติญา สายสนั่น อาจารย์ประจำคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มธ. กล่าวว่า ช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซีรีส์เกิร์ลเลิฟ หรือ “ยูริ” ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในกลุ่มผู้ชมที่สนใจเรื่องราวความรักระหว่างผู้หญิง
โดยติดอันดับ Top 10 ประเด็นออนไลน์ที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในช่วงกลางปี 2567 ผู้ผลิตต่างหันมาจับตลาดนี้ โดยมีการผลิตซีรีส์ยูริหลายเรื่อง เช่น Club Friday The Series : Love Bully รักให้ร้าย และ ใจซ่อนรัก ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิของ LGBTQ+ ในสังคมปัจจุบัน
โดยเฉพาะเมื่อซีรีส์แนวนี้สามารถนำเสนอเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับความรักและการยอมรับในรูปแบบที่ไม่ล้อเลียนทางเพศสภาพและไม่ตึงเครียด แต่แฝงไปด้วยสาระความรู้ที่ช่วยให้ผู้ชมเข้าใจมุมมองที่หลากหลายของความรักในทุก ๆ รูปแบบ
“ทิศทางของซีรีส์เกิร์ลเลิฟ มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างแน่นอนในช่วง 3 ปีข้างหน้า โดยกราฟของความนิยมจะพุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง เพราะคนดูเริ่มมีความสนใจและยอมรับในเนื้อหาที่หลากหลายทางเพศมากขึ้น”
แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วง 5 ปีข้างหน้า เราอาจจะเห็นซีรีส์แนวนี้ลดลง โดยอาจจะมีแนวทางใหม่ ๆ เข้ามาในช่วงเวลานั้น หรือเกิดการพัฒนาเรื่องราวที่มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น
ซีรีส์เกิร์ลเลิฟของไทยสามารถถ่ายทอดเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมผ่านการนำเสนอสินค้าพื้นเมือง อาหารไทย หรือแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามได้อย่างกลมกลืน ควบคู่กับการเสริมสร้างภาพลักษณ์ของไทย ในฐานะประเทศที่มีความเปิดกว้างและยอมรับในความหลากหลายทางเพศ ทำให้การใช้ Soft Power ผ่านสื่อสามารถสร้างอิทธิพลแรงดึงดูดให้กับนักท่องเที่ยวและนักลงทุนจากทั่วโลกได้
ที่ผ่านมาเราอาจจะประมาณเป็นตัวเลขที่ชัดเจนไม่ได้ แต่นักแสดงเกิร์ลเลิฟมีมูลค่า มีแฟนมีตทั่วโลก มีแบรนด์ต่าง ๆ ซื้อตัว ต่อยอดตัวนักแสดงได้จริง และคาดการณ์ว่า คอนเทนต์เหล่านี้จะสามารถสร้างมูลค่าเศรษฐกิจได้สูงถึง 2,000 ล้านบาท

GL ไทยไปไกลระดับโลก
“ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์” ผู้กำกับซีรีส์ กล่าวว่า เราเป็นคนที่ทำหนังพูดเรื่องความเท่าเทียมทางเพศมาตั้งแต่ปี 2553 ตอนนั้นทำแล้วโดนแบน แต่ขณะนี้สังคมเปลี่ยนไปแล้ว เรามีสมรสเท่าเทียมเกิดขึ้น ซึ่งตนเองก็เป็นหนึ่งในผู้ร่างกฎหมายนี้ขึ้นมา เป็นผู้ที่ผลักดันเรื่องดังกล่าวมาตลอด
ยิ่งปีนี้เทรนด์ของซีรีส์ เกิร์ลเลิฟ ในตลาดไทยและทั่วโลกกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ข้อดีของซีรีส์เกิร์ลเลิฟ คือสามารถเชื่อมโยงและสร้างฐานแฟนคลับที่หลากหลาย ซึ่งทำให้ผู้ชมเข้าใจและยอมรับความหลากหลายทางเพศได้
ขณะที่ตลาดในไทยเริ่มได้รับการสนับสนุนมากขึ้น จากกลุ่มผู้ผลิตและผู้ชม ทำให้เทรนด์ GL ของไทยเริ่มได้รับการพูดถึงในระดับโลกมากขึ้นแล้ว
อย่างไรก็ดี ประเทศไทยมีศักยภาพสูงในการสร้างและส่งออก ซีรีส์เกิร์ลเลิฟไทยจะสร้างเนื้อหาที่มีเอกลักษณ์ชัดเจน มีคุณภาพและแตกต่างกว่า ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้ไทยก้าวขึ้นเป็นตัวท็อปในตลาดที่มีศักยภาพ อันเป็นผลดีต่อการส่งเสริม Soft Power ในด้านวัฒนธรรมและความหลากหลายทางเพศ
“มูลค่าทางเศรษฐกิจของเราสูงมาก จะเห็นได้ว่านักแสดงซีรีส์วาย หรือเกิร์ลเลิฟโด่งดังในระดับโกลบอล กว่าเขาจะมีชื่อเสียงขนาดนั้นต้องผ่านการมีผลงานมาก่อน ถ้าผลงานไม่มีคุณภาพก็ยาก สิ่งสำคัญคือเราต้องได้รับการสนับสนุน ส่งเสริม มีเงินลงทุน ตอนนี้ดีขึ้น ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่สำคัญกว่านั้นคือรัฐบาลต้องหาตลาดให้มากขึ้น และสร้างมูลค่าของผลงานให้เพิ่มขึ้นด้วย” ธัญญ์วารินกล่าว

ชี้เป็นกระแสถาวร โนชั่วคราว
“นรมน กัลยาณมิตร” นักเขียนหนังสือนิยาย Girls’ Love / Yuri นามปากกา Ma-Bung ย้ำว่า ในแง่ของกระแสซีรีส์เกิร์ลเลิฟหลายคนอาจมองว่า อาจเป็นคอนเทนต์ที่บูมชั่วคราว แต่จริง ๆ แล้วมีการเติบโตมาต่อเนื่อง
จะเห็นได้ตั้งแต่ช่วงที่มีซีรีส์ที่เปิดตัวในยุคก่อนอย่าง Yes or No หรือซีรีส์ฮอร์โมน ตัวละคร “ก้อยดาว” ที่เริ่มสร้างฐานแฟนคลับให้กับเรื่องราวความรักในรูปแบบที่แตกต่าง ก่อนที่กระแสนี้จะค่อย ๆ เติบโตมั่นคง คล้ายกับการเดินขึ้นบันไดที่ค่อย ๆ สร้างความสนใจและความเข้าใจที่ลึกซึ้งมากขึ้นในสังคม ไม่ใช่แค่กระแสชั่วคราวอีกต่อไป
“ซีรีส์เหล่านี้สร้างการรับรู้ในเชิงสังคม เช่น ละคร ‘ใจซ่อนรัก’ ที่มีฉากผู้หญิงแต่งงานกัน จดทะเบียนสมรส ดิฉันนั่งดูกับแม่ แล้วบอกแม่ว่า ปีหน้าจะจดทะเบียนสมรสกับแฟนนะ ซึ่งกลายเป็นสื่อที่เราสามารถสื่อสารกับผู้ใหญ่ได้”
ปลายทางเราแค่อยากเห็นทุกคนมองซีรีส์ มองคอนเทนต์เหล่านี้เป็นเรื่องปกติ
“หลิง-ออม” คู่จิ้นเซรั่มนาราแห่งยุค
กระแสปังต่อเนื่องไปสุดทุกวงการ สำหรับ 2 สาวสุดฮอตระดับเอเชีย “หลิงหลิง คอง” และ “ออม-กรณ์นภัส เศรษฐรัตนพงศ์” วินาทีนี้ไม่ว่าจะขยับตัวไปทางไหน
ก็โด่งดังเป็นพลุแตก เพราะมีแฟนคลับสายเปย์เหนียวแน่น
ทั้งคู่ดังมาจากกระแสซีรีส์ “ใจซ่อนรัก” และกำลังจะมีผลงานซีรีส์เสิร์ฟให้แฟน ๆ แบบไม่พัก
นับเป็นคู่จิ้นที่กวาดพรีเซ็นเตอร์ทั้งในไทยและจีน รวมแล้วกว่า 20 ตัว อาทิ Watsons, Pantene และ BABI จากจีน ที่สร้างรายได้ในแคมเปญ BABI x LingOrm
ทะลุกว่า 3 ล้านบาทภายในเวลา 1 ชั่วโมง
และความฮอตของทั้งคู่ทำรายได้ปีที่แล้วให้ช่อง 3 สูงถึง 500 ล้านบาท นับว่า ว้าวมาก
ล่าสุด ทั้งสองบินลัดฟ้าชมปารีสแฟชั่นวีก 2025 (Paris Fashion Week 2025) ชมแฟชั่นโชว์จาก Dior คอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ท่ามกลางแฟน ๆ ที่มารอต้อนรับกันอย่างล้นหลาม พิสูจน์เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า ทั้งคู่มีแฟนคลับทั่วทุกมุมโลก
จะเห็นได้ว่า กระแสคู่จิ้นเกิร์ลเลิฟนั้นแข็งแกร่งไม่ต่างจากคู่จิ้นดาราวาย
แฟนคลับทั้งไทยและต่างประเทศ พร้อมจะทุ่มทุนจ่าย เพื่อสนับสนุนทั้งแบบส่วนตัวที่พร้อมจะมอบของขวัญต่าง ๆ เนื่องในวันพิเศษ ๆ อย่างวันเกิด, งานแฟนมีตฯ
ทั้งพร้อมจ่ายเพื่อสนับสนุนเมื่อคู่จิ้นที่ตัวเองรักนั่งแท่นพรีเซ็นเตอร์แบรนด์ต่าง ๆ สร้างยอดขายถล่มทลายไม่แพ้คู่จิ้นวาย และคู่ชาย-หญิงเลยทีเดียว !
“หลิง-ออม” จึงกลายเป็น เซรั่มนารา อันหมายถึง โคตร (โค ตะ ระ) จะเริ่ด โคตรจะปัง ศัพท์ใหม่ที่คนเจนใหม่เขารู้กัน