มิสทิฟฟานี่ 2025 เชื่อไทยมีสมรสเท่าเทียมดึงนักท่องเที่ยว LGBTQ+ สร้างเม็ดเงินเพิ่ม

หลังจากประเทศไทยประกาศผ่านร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมและเมื่อผลบังคับใช้ไปแล้ว 3 สาว มิสทิฟฟานี่ยูนิเวิร์ส 2025 เชื่อจะดึงกลุ่มนักท่องเที่ยว LGBTQ+ เข้ามาสร้างเม็ดเงินในประเทศเพิ่มขึ้น แน่นอน ฝากกลุ่มอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวสร้างความตระหนักรู้ ให้กับพนักงานที่ต้องให้บริการกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ

แอนดอย-ปรียากร พรพรหม มิสทิฟฟานี่ยูนิเวิร์ส 2025 พร้อมด้วย น้ำฟ้า-ณพิชญา พิมพ์ปรุ รองชนะเลิศอันดับ 1 และเอม-ไอรดา เตชานุรักษ์ รองชนะเลิศอันดับ 2 เปิดใจกับ “ประชาชาติ” หลังคว้าตำแหน่ง ว่า เห็นด้วยกับประเด็นที่ว่า เมื่อประเทศไทยมีการผ่านร่างกฎหมายและประกาศใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียมอย่างเป็นทางการแล้ว จะสามารถดึงนักท่องเที่ยวกลุ่ม LGBTQ+ เข้ามาสร้างเม็ดเงินในประเทศเพิ่มขึ้น

แอนดอย-ปรียากร กล่าวว่า ตนเห็นด้วย 100% ว่าเมื่อเรามีกฎหมายสมรสเท่าเทียมแล้วจะสามารถดึงกลุ่มนักท่องเที่ยว LGBTQ+ เข้ามาในประเทศได้เพิ่มขึ้น ถ้าหน้าบ้านเราดีทำไมคนจะไม่แวะเข้ามาที่บ้านเรา ตรงนี้เหมือนเป็นการตลาด เหมือนเป็นการพีอาร์ประเทศไทยที่จะดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีความหลากหลาย ให้เข้ามาเที่ยวให้ประเทศไทย เพราะเราเป็นประเทศที่เปิดรับความหลากหลายของนักท่องเที่ยว LGBTQ+

แอนดอยเป็นอีกคนที่ผลักดันเรื่องสมรสเท่าเทียมมาตลอด เพราะเราก็มีคู่ชีวิตที่เป็น LGBTQ+ ด้วย เราเป็นส่วนเล็ก ๆ ที่ช่วยขับเคลื่อนจนประสบความสำเร็จ เหมือนเป็นแสงแห่งวันใหม่ที่ทำให้เราได้จุดประกาย ได้มีสิทธิ มีเสรีภาพเทียบเท่ากับทุกคนในพื้นแผ่นดินไทย เราได้รับสิทธิในการมีคู่ครองและคู่ชีวิตแล้ว มีแพลนแล้ว เพราะเคยพูดว่าถ้าชนะ ได้มงจะใส่มงนี่แหละจดทะเบียนสมรส

“ในอนาคตจึงอยากฝากบอกกลุ่มอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวว่า ให้สร้างพลังการรับรู้และตระหนักรู้ ให้กับพนักงานที่ต้องให้บริการกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ เข้าใจในหลักของการทำงานบริการของกลุ่มคนประเภทนี้ เพื่อเป็นแรงดึงดูดอีกหนึ่งแรงที่ทำให้เขามาแล้ว อยากกลับมาใหม่ในประเทศของเรา เชื่อว่าจะสร้างเม็ดเงินมหาศาลแน่นอนเพราะขนาดยังไม่มีเรื่องสมรสเท่าเทียมประเทศเราก็ถือว่าเป็นประเทศที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว เราไม่ได้มีแค่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมเพียงอย่างเดียว เรายังมีอุตสาหกรรมอีกหลายอย่างอย่างที่เปิดรับกลุ่มนักท่องเที่ยว LGBTQ+

ประเทศไทยจำเป็นที่จะต้องดึงเม็ดเงินจากนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศ เพราะว่าทุกก้าวของวันใหม่คือการพัฒนา ประเทศไทยไม่สามารถย้ำอยู่กับที่ได้ ไม่สามารถขับเคลื่อนด้วยกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศอย่างเดียว มันเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนที่จะขับเคลื่อน และสนับสนุนพวกเรา เพื่อให้พวกเราเข้ามาเป็นฟันเฟื่องในการขับเคลื่อเศรษฐกิจ กระตุ้นเม็ดเงินเข้าสู่ประเทศ” แอนดอย-ปรียากร กล่าว

ด้าน น้ำฟ้า-ณพิชญา แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวว่า หากเข้ามาในประเทศสามารถมาเที่ยวที่โรงละครทิฟฟานี่โชว์ พัทยา ได้ปีนี้ ทิฟฟานี่กำลังจะครบรอบ 50 ปีของ เราจะมีเรื่องราวของของโชว์ใหม่ที่จะเล่าเรื่องราวตั้งแต่ปีแรกถึงปีที่ 50 มีไฮไลต์ที่จะต้อนรับท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ เพราะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นสิ่งที่จะดึงเม็ดเงินเข้ามาในประเทศ และในปี 2028 ประเทศเราจะเป็นเจ้าภาพให้การประชุม World Pride เราจึงผลักดันให้ธุรกิจการท่องเที่ยวสีรุ้งเป็นจริง เพราะคนกลุ่มนี้เป็นบุคคลคนที่มีกำลังในการนำเม็ดเงินเข้ามาจับจ่ายใช้สอยในประเทศเรา เข้ากล้าซื้อ กล้าได้ กล้าเสี่ยง อีกหนึ่งธุรกิจที่สนับสนุนความเป็นเราคือทิฟฟานี่โชว์ พัทยา

โดยที่เอม-ไอรดา จะกล่าวปิดท้ายว่าไม่ใช่แค่พัทยาเท่านั้น แต่เรายังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายที่รอต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่ เพื่อที่จะร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยไปด้วยกัน