
วันที่ 2 ของงาน Healthcare Mini ‘สุขภาพดี ที่ประชาชื่น’ กิจกรรมแน่นทั้งตรวจคัดกรองโรคดวงตา เวิร์กช็อปเคล็ดลับการดูแลดวงตาด้วยสมุนไพร และ Health Talk สาระความรู้ล้น ๆ จาก รศ.นพ.ศักดิ์ชัย วงศ์กิตติรักษ์ ประธานวิชาการราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย แนะวิธีดูแลโรคตายอดฮิตยุคดิจิทัล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันที่ 2 ของงาน Healthcare Mini ‘สุขภาพดี ที่ประชาชื่น’ ที่มติชนอคาเดมี่ ย่านประชาชื่น ซึ่งจัดขึ้นวันที่ 30 มี.ค.-31 มี.ค. มีกิจกรรม Health Talk : ระวัง! โรคตายอดฮิตยุคดิจิทัล โดย รศ.นพ.ศักดิ์ชัย วงศ์กิตติรักษ์ ประธานวิชาการราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย
โดย รศ.นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า ขณะนี้โลกเราเปลี่ยนไปเร็วมาก ช่วง 10 ปี ก่อนเรามักจะพบปัญหาเรื่อง “คอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม” ที่จะทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับตา แต่ขณะนี้เป็นปัญหาที่เกิดจากมือถือ ซึ่งโลกทุกวันนี้เป็นไปไม่ได้ที่เด็กจะไม่สัมผัสเทคโนโลยี แต่จะดูแลอย่างไรไม่ให้ดวงตาเกิดปัญหา จึงอยากเสนอสูตร 20 20 20 คือทุก 20 นาทีของการใช้สายตาควรพัก 20 วินาที ละสายตาจากมือถือมองออกไปข้างนอก เบรกไปทำอย่างอื่น คลายการเพ่ง หากเพ่งนานเกินไปอาจเกิดอาการตาแห้งได้ โรคตาแห้งนั้นเกิดขึ้นเนื่องจากปกติคนเรากะพริบตา 8-12 ครั้งต่อนาที แต่การดูจอมือถือทำให้เกิดการเพ่งนาน ไม่กะพริบตา ทำให้ตาแห้งซึ่งหากตาแห้งแล้ว เราสามารถใช้น้ำตาเทียมยอดได้ โดยสุขลักษณะที่ดีในการใช้มือถือ คือควรนั่งตรงที่ไม่โดนลม กะพริบตา ถ้าเคืองตา ใช้น้ำตาเทียมได้ ใช้แล้วไม่หายต้องไปหาหมอ น้ำจะเป็นตัวกันไม่ให้กระจกตาขูดกับดวงตา เมื่อเรากะพริบตาน้ำจะออกมาหล่อเลี้ยงดวงตาทำให้กระจกตาไม่ขูดกับดวงตา
รศ.นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวต่อว่า เด็กสายตาสั้นเดี๋ยวนี้เป็นเพราะพฤติกรรม และกรรมพันธุ์ หากพ่อแม่ที่สายตาสั้นเกิน 500 ลูกมีโอกาสสายตาสั้น พ่อหรือแม่สั้น 1 คน ลูกมีโอกาสสายตาสั้น 30% ถ้าทั้งพ่อและแม่สายตาสั้น ลูกมีโอกาสสายตาสั้น 60% หากเด็กอายุก่อน 13 มีอาการทางสายตา แนะนำผู้ปกครองอย่าพาไปร้านแว่น ให้พาไปพบแพทย์ก่อน เพราะสามารถเป็นสายตาสั้นเทียมได้
“ปัจจุบันเด็ก ๆ มีกิจกรรมกลางแจ้งลดลง เสี่ยงต่อการสายตาสั้น ฝากพ่อแม่ปรับพฤติกรรมลูก ๆ จัดเวลาให้มีกิจกรรมกลางแจ้ง ตกลงเรื่องเวลาการเล่นมือถือ เด็กเกิดอาการประสาทตาไม่พัฒนาได้ พ่อแม่ต้องสังเกตพฤติกรรมการมองของลูก ว่าลูกมีอาการ หรี่ตามอง ชอบไปดูทีวีใกล้ ๆ ชอบเอียงตามอง หากมีพฤติกรรมเหล่านี้ต้องพาไปพบแพทย์ และในกลุ่มเด็กที่เป็นโรคดาวน์ซินโดรม เขาไม่สามารถบอกเราได้ว่ามีอาการอย่างไร พ่อแม่ต้องหมั่นสังเกต ยิ่งพ่อแม่ให้ความสนใจน้อยจะยิ่งเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ยาก” รศ.นพ.ศักดิ์ชัย กล่าว
รศ.นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวถึงโรคต้อต่าง ๆ ว่า ต้อเนื้อจะไม่ทำให้ตาบอด จะเคืองตาบ่อย รักษาด้วยการลอกได้ แต่ลอกแล้วจะขึ้นใหม่อีกแน่นอน ส่วนใหญ่หมอจะลอกให้เฉพาะเคสหนัก ด้าน ต้อกระจก เกิดจากเลนส์ตาหมดอายุการใช้งาน ผู้สูงวัยจะเป็นเพราะใช้เลนส์ตามานาน เลนส์หมดอายุการใช้งาน เมื่อเราอายุเยอะขึ้นถึงอย่างไรก็ต้องเป็นต้อกระจก ส่วนต้อหินนั้นเป็นสาเหตุตาบอดอันดับ 1 ซึ่งเมื่อบอดแล้วจะบอดเลยเอาคืนไม่ได้ ต้อหินเกิดเองได้ตามอายุ ตาจะแข็งเหมือนหิน ประสาทตาเมื่อเสียไปแล้วรักษาไม่ได้ ถ้าตรวจเจอเร็ว แพทย์จะหยุดการเป็นแต่ประสาทตาที่เสียไปแล้วรักษาไม่ได้ ต้องพบแพทย์สม่ำเสมอ ต้อหินนั้นเกิดจากกรรมพันธุ์ได้ เมื่ออายุ 45 ปีขึ้นไป ความดันตาจะขึ้นตามอายุ ความเสี่ยงของการเป็นต้อหินเกิดได้จากการใช้ยาสเตียรอยด์ การเป็นเบาหวาน แนะนำว่าเมื่ออายุเกิน 45 ปี ควรไปวัดความดันตาปีละครั้ง เพราะโรคนี้สามารถเป็นโดยไม่แสดงอาการได้
“ขณะนี้ทั้งประเทศมีหมอตาอยู่เพียง 2,000 คน สมัยก่อนรอต้อสุกเพราะหมอผ่ารักษาไม่ทัน ปัจจุบันไม่ค่อยใช้วิธีการผ่าแล้ว แต่จะรักษาโดยการใช้คลื่นเสียงไปละลาย สลายต้อ ถ้าตามัวจนกระทบการทำงาน หมอต้องประเมินว่าควรรักษาหรือสามารถรอได้ เพราะในชีวิตเปลี่ยนเลนส์ตาได้ 1 ครั้ง การเปลี่ยนเลนส์ อยู่ได้ 100 ปี” รศ.นพ.ศักดิ์ชัย กล่าว
รศ.นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวต่อว่า ปัญหาอื่น ๆ ของดวงตา เช่น จอประสาทตาเสื่อม จะเป็นคล้ายมีหยากไย่ในดวงตาเกิดขึ้น เพราะมีตะกอนวุ้นในตาลอยบังแนวแสง หากมีแค่จุดลอยถือว่าความเสี่ยงต่ำ แต่หากมีจุดลอยแล้วมีคล้าย ๆ ไฟแลบ อาจจะมีความเสี่ยงที่จะอันตรายได้ ส่วนอาการตาบอดสี หรือพร่องการเห็นสี จะมีอาการแยกสีเขียวกับแดงยาก จากการสำรวจพบว่ามักเจอในผู้ชาย 7% คนกลุ่มนี้รักษาหายยากเพราะเป็นกรรมพันธุ์ แต่หากรู้ว่าเป็นตั้งแต่อายุยังน้อย เราสามารถเลือกการเรียน หรือทำงาน ที่อาการนี้จะไม่ส่งผลกระทบถึงได้ และอาการสายตาสั้น สายตาเอียง สามารถรักษาด้วยการทำเลสิกได้
“สุดท้ายนี้อยากแนะนำเรื่องการรับประทานวิตามินเสริมที่ช่วยเรื่องด้วงตาว่า วิตามินเอที่จะช่วยเรื่องดวงตานั้นอยู่ในผักใบเขียว ผักผลไม้ที่มีสีส้ม-เหลือง ซึ่งเรากินกันปกติอยู่แล้ว ดังนั้นไม่จำเป็นต้องรับประทานวิตามินเพิ่ม ปัจจุบันคนขาดสารอาหารน้อยลง หากรับประทานวิตามินเข้าไปโดยที่ร่างกายไม่ต้องการก็จะไม่เกิดการดูดซึมอยู่ดี”
นอกจากนี้ภายในงาน “Healthcare Mini” วันสุดท้ายนี้ยังมีบริการตรวจสุขภาพฟรี! จาก 3 โรงพยาบาลชั้นนำของประเทศ ไม่ว่าจะเป็น โรงพยาบาลจักษุ รัตนิน ชวนมาตรวจสุขภาพคัดกรองโรคตา จัดมาเต็มถึง 200 เคส โรงพยาบาลตากสิน เปิดบริการตรวจสุขภาพประจำปี 15 รายการฟรี! และ CareCover Clinic ‘แคร์คัฟเวอร์ สหคลินิก’ ฟรี ชวนมากายภาพบำบัด และตรวจสุขภาพเบื้องต้น พิเศษสุด วันนี้มีบริการให้ปรึกษาอาการป่วยหรือโรคประจำตัวเบื้องต้น กิจกรรมเวิร์กช็อปเคล็ดลับการดูแลดวงตาด้วยสมุนไพร โดยโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร พร้อมจัดบูทให้มาช็อปสมุนไพรดูแลดวงตา โดยในวันนี้บรรยากาศยังคงคึกคักมีประชาชนเดินทางมาร่วมงานตลอดทั้งวัน