
ลูกเราแค่ซนธรรมดา หรือกำลังมีภาวะสมาธิสั้น เปิดเช็กลิสต์แยกความแตกต่าง ผู้ปกครองสามารถสังเกตได้
“ลูกเราแค่ซน หรือกำลังมีภาวะสมาธิสั้น” เชื่อว่าคำถามนี้เกิดขึ้นในใจพ่อแม่หลายคน โดยเฉพาะเวลาที่เห็นลูกวิ่งซนทั้งวัน นั่งนิ่งได้ไม่เกิน 5 นาที พูดไม่หยุด หรือดูเหมือนขาดความตั้งใจเวลาเรียนหนังสือ
ในบางครั้งความซนก็คือความซน แต่บางทีอาจเป็นสัญญาณที่บอกว่าลูกกำลังต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งคุณพ่อ–คุณแม่สามารถเรียนรู้วิธีแยกความแตกต่างระหว่างสองสิ่งนี้ได้
โรงพยาบาลแบงค็อก เมนทัล เฮลท์ (BMHH) ให้ข้อมูลว่า การซนธรรมดา จะมีลักษณะวิ่งเล่น วุ่นวาย แต่หยุดได้เมื่อเตือน สามารถโฟกัสได้ถ้าเป็นเรื่องที่สนใจ และมีช่วงเวลาที่สงบได้บ้าง โดยเฉพาะตอนเหนื่อยหรือพัก
ขณะที่สมาธิสั้น (ADHD) จะมีอาการอยู่ไม่สุขตลอดเวลา แม้จะพยายามบอกให้สงบแล้วก็ตาม วอกแวกง่าย ทำงานไม่เสร็จ ลืมของเป็นประจำ ขัดจังหวะ ไม่รอคิว พูดแทรก ซึ่งอาการส่งผลต่อชีวิตประจำวัน เช่น การเรียน ความสัมพันธ์ หรือความมั่นใจในตัวเอง โดยสามารถเช็กลิสต์ได้ง่าย ๆ ว่าลูกกำลังมีภาวะสมาธิสั้นหรือไม่ ดังนี้
- ทำงานไม่เสร็จ ขาดความใส่ใจรายละเอียด
- วอกแวกง่าย แม้แต่เสียงเล็กน้อยก็ทำให้เสียสมาธิ
- ลืมของบ่อย ๆ ทำหายง่าย
- พูดมาก หยุดไม่ค่อยได้
- นั่งนิ่งยาก ต้องขยับตัวอยู่ตลอด
- ชอบขัดจังหวะ ไม่รอคิว หรือพูดแทรก
- เหมือนฟังไม่จบประโยค หรือไม่ฟังเลย
ถ้าลูกมีหลายข้อจากนี้ และเกิดขึ้นซ้ำ ๆ ทั้งที่บ้านและที่โรงเรียนต่อเนื่องเกิน 6 เดือน คุณพ่อ–คุณแม่อาจต้องเริ่มลองพาลูกเข้ามาปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
อย่างไรก็ตาม สมาธิสั้นนั้นสามารถรักษาได้ การช่วยเหลือลูกตั้งแต่เนิ่น ๆ จะทำให้ลูกมีพัฒนาการที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการฝึกพฤติกรรม การจัดสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสม หรือในบางกรณีอาจมีการใช้ยาเพื่อช่วยให้ลูกควบคุมตัวเองได้ดีขึ้น ร่วมกับกำลังใจจากครอบครัวซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุด