Super Soft Power สายสัมพันธ์สองประเทศ ไทย-ภูฏาน

ปลื้มปีติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรภูฏานอย่างเป็นทางการ ตามคำทูลเชิญของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน สะท้อนสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างราชวงศ์ทั้งสองประเทศ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรภูฏานอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 25-28 เมษายน 2568 ตามคำทูลเชิญของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน

การเสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรภูฏานอย่างเป็นทางการในครั้งนี้ นับเป็นการเยือนต่างประเทศอย่างเป็นทางการครั้งแรกในรัชสมัย ซึ่งจะเป็นการกระชับมิตรภาพและความร่วมมืออันใกล้ชิดระหว่างราชอาณาจักรทั้งสองให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น จากการมีมรดกทางวัฒนธรรมร่วมกันในความเลื่อมใสในบวรพระพุทธศาสนาและสายสัมพันธ์ระหว่างราชวงศ์ทั้งสอง รวมทั้งระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ

สายสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่าง 2 พระราชวงศ์ไทยและภูฏาน ได้หยั่งรากลึกมาอย่างยาวนาน และนับเป็นความผูกพันที่เหนือกว่าความสัมพันธ์ทางการทูตทั่วไป ที่ผ่านมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จฯ เยือนภูฏานหลายครั้ง ทั้งการเสด็จฯ เยือนอย่างเป็นการส่วนพระองค์และทางการ

โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในขณะดำรงพระอิสริยยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้เสด็จฯ เยือนภูฏานอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 23-26 มิถุนายน 2534 ในฐานะพระราชอาคันตุกะของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ซิงเย วังชุก สมเด็จพระราชาธิบดีพระองค์ที่ 4 แห่งภูฏาน (สมเด็จพระราชบิดาของสมเด็จพระราชาธิบดีพระองค์ปัจจุบัน)

ADVERTISMENT

นอกจากพระบรมวงศานุวงศ์ของไทยเสด็จฯ เยือนภูฏานหลายครั้งแล้ว พระบรมวงศานุวงศ์ของภูฏานก็ได้เสด็จฯ เยือนประเทศไทยหลายครั้งเช่นกัน โดยเฉพาะสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก พระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรภูฏาน ที่ได้เสด็จฯ เยือนประเทศไทยทั้งทางการ และเป็นการส่วนพระองค์ นับจนถึงปัจจุบัน รวมจำนวน 8 ครั้งด้วยกัน

ในวันที่ 25 เมษายน 2568 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินถึงท่าอากาศยานนานาชาติเมืองพาโร ราชอาณาจักรภูฏาน โดยประทับเครื่องบินพระที่นั่ง ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงปฏิบัติหน้าที่ นักบินที่ 1 และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงปฏิบัติหน้าที่นักบินผู้ช่วย

สมเด็จพระราชาธิบดีและสมเด็จพระราชินีแห่งภูฏานเฝ้ารับเสด็จ พร้อมถวายผ้าแพรคล้องพระหัตถ์ตามธรรมเนียมท้องถิ่นในการรับเสด็จ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี โดยเป็นผ้าแพรสีขาวทำจากผ้าไหม เรียกว่า “คาดาร์” (Khadar) ในภาษาซงข่า ใช้มอบให้แขกสำคัญในพิธีกรรมทางศาสนา และแขกสำคัญผู้มาเยือน เป็นสัญลักษณ์ของความปรารถนาดีจากผู้ให้ไปยังผู้รับ

ทั้งนี้ ขณะที่ประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินไปยังโรงแรมเพมาโกะ ทิมพู (Hotel Pemako Thimphu) ซึ่งเป็นโรงแรมที่ประทับ ตลอดเส้นทางที่เสด็จพระราชดำเนินผ่านมีนักเรียนและประชาชนชาวภูฏานเป็นจำนวนมากมาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ รวมทั้งมีการจัดแสดงทางวัฒนธรรมของภูฏานถวายให้ทอดพระเนตร เป็นการถวายพระเกียรติและถวายการต้อนรับตามธรรมเนียมท้องถิ่นของภูฏาน

 

จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังป้อมทาชิโช กรุงทิมพู โดยสมเด็จพระราชาธิบดีและสมเด็จพระราชินีแห่งภูฏานทรงจัดพิธีรับเสด็จอย่างเป็นทางการ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งภูฏาน เสด็จขึ้นแท่นรับการถวายความเคารพ กองทหารเกียรติยศถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี และเพลงชาติราชอาณาจักรภูฏาน เสร็จแล้ว ทรงพระดำเนินตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ

ต่อจากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังลานเทนเดรลทัง เสด็จขึ้นพลับพลาที่ประทับทอดพระเนตรวีดิทัศน์ความเป็นมาของโครงการฝึกอบรมเกียลซุงและโครงการจิตอาสาเดซุง การแสดงขบวนพาเหรดโดยสมาชิกโครงการ และทอดพระเนตรการแสดงทางวัฒนธรรม และพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคลโดยคณะบรรพชิตภูฏาน

ในวันที่ 26 เมษายน 2568 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนิน ไปยังสถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปดอร์เดนมา (Buddha Dordenma) เพื่อร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคล โดยคณะสงฆ์ฝ่ายภูฏานและคณะสงฆ์ไทย ฝ่ายละ 73 รูป

จากนั้นเสด็จออก ณ โรงแรมที่ประทับเพมาโกะ ทิมพู ทรงรับสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ซิงเย วังชุก สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งภูฏาน พระองค์ที่ 4

พร้อมทั้งเสด็จพระราชดำเนิน ไปยังโครงการหลวงเดเชนโชลิง (Dechencholing Royal Project) เพื่อทอดพระเนตรนิทรรศการความร่วมมือระหว่างมูลนิธิโครงการหลวงของไทย กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของภูฏาน และทอดพระเนตรนิทรรศการโครงการเดชุง (De-suung) และโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (One Gewog One Product : OGOP) โดยมี สมเด็จพระราชินีแห่งภูฏาน เฝ้าฯ รับเสด็จ

ในช่วงเย็น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ โรงแรมที่ประทับเพมาโกะ ทิมพู พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ ดาโช เชริง โตบเกย์ (Dasho Tshering Tobgay) นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรภูฏาน และนางตาชี โดมา (Mrs. Tashi Doma) ภริยา เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท

ในช่วงค่ำ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากโรงแรมที่ประทับเพมาโกะ ทิมพู ไปยังพระราชวังลิงคานา (Lingkana Palace) กรุงทิมพู เพื่อทรงร่วมในงานถวายพระกระยาหารค่ำ เป็นการส่วนพระองค์ กับสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน และสมเด็จพระราชินีแห่งภูฏาน

ในวันที่ 27 เมษายน 2568 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนิน ไปยังพระราชวังลิงคานา เพื่อทอดพระเนตรการแสดงศิลปวัฒนธรรมของภูฏาน ได้แก่ การแสดงศิลปะการยิงธนู กีฬาพื้นบ้าน และงานหัตถกรรมผ้าและสิ่งทอของราชอาณาจักรภูฏาน

ในโอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงแสดงพระปรีชาสามารถด้านกีฬา ในการทรงร่วมยิงธนู อันเป็นกีฬาพื้นบ้านของราชอาณาจักรภูฏาน ถือเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตและวัฒนธรรมพื้นบ้านที่สร้างความใกล้ชิด ความรัก สามัคคีของชุมชน สามารถเล่นได้ตลอดทั้งปี มีเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นแตกต่างจากประเทศอื่น

จากนั้น เสด็จฯไปยังตลาดกลางประจำกรุงทิมพู (Kaja Throm) ทรงรับฟังการบรรยายสรุปและทอดพระเนตรนิทรรศการของโครงการอาสาสมัครเดซุง และร้านค้าจำหน่ายพืชผลทางการเกษตร โดยมี สมเด็จพระราชาธิบดีและสมเด็จพระราชินีแห่งภูฏาน ทรงนำทอดพระเนตร
นิทรรศการต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด

การเสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรภูฏานในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการกระชับสัมพันธไมตรีระหว่างสองพระราชวงศ์ที่มีความผูกพันกันอย่างแน่นแฟ้นแล้ว ยังเป็นการเสริมสร้างมิตรภาพและความเข้าใจอันดีระหว่างสองราชอาณาจักรและประชาชนให้เพิ่มพูนยิ่งขึ้นไปในทุกระดับด้วย