
ผู้เขียน : ธีรดา ศิริมงคล
แม้ธุรกิจร้านอาหาร จะหวั่นวิตกว่า ปีนี้อาจเป็นปีเผาจริง แต่เทรนด์อาหารที่มาแรงอย่าง “แฮนด์โรล” สาหร่ายห่อข้าวที่กินง่าย ใช้วัตถุดิบเพียงไม่กี่อย่าง แต่มีความละเอียด กลับกลายเป็นที่ถูกอกถูกใจไฮโซและกลุ่มคนทำงานในเมืองอย่างน่าจับตา
ยิ่งด้วยไลฟ์สไตล์คนเมืองที่เป็นคนไทยส่วนใหญ่มีความเร่งรีบ ต้องการความสะดวก และรวดเร็ว อาหารร่วมสมัยประเภทดังกล่าวจึงเป็นเทรนด์เมนูใหม่ยอดนิยม มีแฮนด์โรลเกิดขึ้นมากมายในประเทศไทย แต่ถ้าจะนึกถึงแฮนด์โรลเจ้าแรก ในประเทศไทย ต้องนึกถึง “KANORI Hand roll bar” ร้านแฮนด์โรลสุดพรีเมี่ยม เน้นวัตถุดิบคุณภาพของ 3 พี่น้อง ตระกูล “กอบกุลสุวรรณ” ได้แก่ เบ๊นซ์-ปณิธาน, โบ๊ท-ปณิธิ และ เพลน-ปวิตรา กอบกุลสุวรรณ ซึ่งเปิดร้านครั้งแรกเมื่อปี 2566 และดำเนินธุรกิจเรื่อยมาจนถึงวันนี้

วันที่คนในสังคมจะนัดจอยกัน หรือนัดแฮงก์เอาต์มาชิมแฮนด์โรลที่ “KANORI Hand roll bar” ที่เจ้าของร้านประกาศชูความโดดเด่นด้วยการทำแฮนด์โรลที่สดใหม่ จากหน้าเคาน์เตอร์บาร์ พร้อมเสิร์ฟถึงมือแบบคำต่อคำ ด้วยวัตถุดิบพรีเมี่ยมที่คัดสรรพิเศษ
ข้าวปั้น “KANORI Hand roll bar” ปรุงด้วยสูตรเฉพาะของทางร้าน ห่อด้วยสาหร่ายที่มีความกรอบพิเศษ ซึ่งเป็น 1 ใน 3 องค์ประกอบหลัก ที่ถือเป็นหัวใจสำคัญ
3 พี่น้อง ตระกูล “กอบกุลสุวรรณ” เล่าให้ฟังว่า บรรยากาศโดยรวมของร้านก็มีความสำคัญ เช่น ร้านต้องดีไซน์แบบอบอุ่น ทันสมัย สบายตา เป็นบาร์สไตล์ญี่ปุ่นพร้อมเสิร์ฟแบบ “โอมากาเสะ” เชฟเสิร์ฟเป็นคำต่อคำ จึงทำให้ร้านสไตล์นี้ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะดูมีชีวิตชีวา
“โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นจะพอใจมาก รวมถึงกลุ่มคนทำงานที่เป็นซูชิเลิฟเวอร์ด้วย”
ปัจจุบัน KANORI มี 4 สาขา ได้แก่ สุขุมวิท 49, เอ็มควอเทียร์, เซ็นทรัล เอ็มบาสซี และล่าสุด สาขาไอคอนสยาม นอกจากบาร์แล้ว ที่นี่ยังมีห้องสำหรับลูกค้าที่ต้องการความเป็นส่วนตัวขนาด 5-6 ที่นั่ง ให้บริการด้วย
ฐานกลุ่มลูกค้าหลากหลาย
ส่วนแรงบันดาลใจนั้นมาจากตอนที่ “เพลน-ปวิตรา” ไปเรียนอเมริกา เจ้าตัวเอ่ยขึ้นพร้อมตาเป็นประกายว่า “เจอ Hand Roll Bar ที่โน่น ชอบมาก พอกลับไทยมาสักพักยังไม่มีใครทำ จึงลองเอาคอนเซ็ปต์ที่เห็นมาประยุกต์ แล้วพัฒนาสูตรให้เข้ากับลิ้นคนไทยมากขึ้น”
โดยเน้นความ Authentic Fusion เพราะ Hand Roll มีต้นกำเนิดจริงๆ มาจากอเมริกา แต่เป็นอาหารญี่ปุ่น ดังนั้นจะมีความ Fusion มาก ๆ อยู่แล้ว
“แต่เราเอามาทำ ให้เร็วขึ้น ง่ายขึ้น ไม่ต้องเน้นพิธีรีตอง แต่มีความละเอียด และเน้นความกรอบของสาหร่าย เพราะเป็นหัวใจหลักของ Hand Roll Bar”
พวกเราใช้เวลาปีครึ่ง ในการขยายร้านเป็น 4 สาขา เนื่องจากกระแสตอบรับดีมาก กลุ่มลูกค้าช่วงแรก ๆ เราจะเน้นกลุ่มวัยรุ่น กลุ่มวัยกลางคน
แต่ขณะนี้ เราพบว่า กลุ่มลูกค้าเราขยายตัวแล้ว มีทุกช่วงวัยทั้งเด็กอายุ 3 ขวบ จนไปถึงผู้ใหญ่อายุ 95 ปี เกินจากที่พวกเราคาดหวังเอาไว้มากๆ
เพราะถ้าเป็นประเภทโอมากาเสะ เด็กจะเข้าไม่ได้ ผู้ใหญ่บางกลุ่มก็อาจจะไม่ค่อยชอบ คือองค์ประกอบสภาพแวดล้อมมันตีกรอบมากเกินไป และราคาค่อนข้างสูง
เราเห็นจุดอ่อน-จุดแข็ง จึงปรับเปลี่ยนวัตถุดิบได้ทุกอย่าง เพิ่มข้าว ลดข้าวก็ได้ ทำเป็นวีแกนก็ได้ Hand Roll มีมานานแล้ว จุดเด่นของเราคือสาหร่ายกรอบมาก ข้าว วัตถุดิบดีสุด
สิ่งสำคัญที่สุด คือ พวกเราใส่ความจริงใจไปกับลูกค้าด้วย
“แม้ภาวะเศรษฐกิจไม่ค่อยดี แล้วร้านอาหารก็มีมาก การแข่งขันจึงสูง แต่พอดีเทรนด์ Hand Roll Bar กำลังมา เราเลยไม่กระทบ ราคาก็คุ้มค่าเมื่อเทียบคุณภาพ”

ล่าสุด KANORI Hand roll bar ส่งเซ็ต Premium Five เสิร์ฟทั้งหมด 5 โรล เริ่มด้วย Ankimo โรลสาหร่ายกรอบกับมูสตับปลาอังกิโมะ เป็นฟัวกราส์จากท้องทะเล อันดับที่ 32 ใน 50 อาหารชั้นเยี่ยมที่ดีที่สุดในโลก จากผลสำรวจ CNN


คำที่ 2 Madai Plum โรลปลามาได (กะพงแดงญี่ปุ่น) เสิร์ฟด้วยซอสบ๊วยและใบโอบะ โรลนี้จะหอม สดชื่น ติดเปรี้ยวเล็ก ๆ ตัดเลี่ยนได้ดี และ KANORI Roll ซิกเนเจอร์ของทางร้าน มีล็อบสเตอร์, Uni, ทูน่าบดกับต้นหอม และไข่ปลาแซลมอน (Ikura) เป็นโรลซีฟู้ดในคำเดียว


โรลที่ 4 Awabi โรลหอยเป๋าฮื้อ ราดซอสตับหอยเป๋าฮื้อที่เข้มข้น ปิดท้ายด้วยเมนูใหม่ The Unagi โรลปลาไหลน้ำจืด แล่แล้วย่างจนหนังกรอบ หอมกลิ่นเบิร์น ราดด้วยซอสสูตรพิเศษ บวกกับความกรุบกรอบของสาหร่าย ฟินสุด
สะท้อนถึงความชอบของกลุ่มคนเมืองในปัจจุบันที่คลั่งไคล้เมนูอาหารญี่ปุ่นที่เป็นคำๆ ทำให้ร้านอยู่ได้ เหมือนคิวแถวยาวเหยียดของร้านซูชิสายพานในห้าง