มติชน x พันธมิตร แถลงข่าวจัดใหญ่ ‘Thailand Healthcare 2025’ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย – คนรุ่นใหม่รักสุขภาพ

ฉลองปีที่ 17 ‘เครือมติชน’ แท็กทีมพันธมิตรสุขภาพ จัดงาน ‘Thailand Healthcare 2025’ ธีม ‘A Better Life : สร้างสุขทุกช่วงวัย’ ยก 3 เมืองสุขภาพ 60 รายการตรวจรักษา จาก 30 โรงพยาบาลชั้นนำของประเทศ พร้อม 2 จุดตรวจพิเศษตา – ฟัน, 3 รถตรวจสุขภาพเคลื่อนที่ มะเร็ง – ปอด – ฟัน, ฟัง 30 เสวนาที่ดีที่สุดจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ, ครั้งแรกกับ 4 ทอล์กฮีลใจแห่งปี, 4 เวิร์กชอปงานคราฟต์ พร้อมชอปสินค้าเพื่อสุขภาพจาก 60 ร้านค้า  และกิจกรรมเพื่อการกุศล Healthcare Charity 2025 มาไว้ถึงงาน วันที่ 26-29 มิ.ย. 68 ที่ชั้น 5 สามย่านมิตรทาวน์

‘เครือมติชน’ พร้อมด้วยพันธมิตรด้านสุขภาพทั้งภาครัฐและภาคเอกชน จัดงานแถลงข่าวฉลองครบรอบปีที่ 17 งานแฟร์สุขภาพอันดับ 1 ของประเทศ Thailand Healthcare 2025 ภายใต้ธีม ‘A Better Life : สร้างสุขทุกช่วงวัย’ งานในครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในพิธีแถลงข่าว พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและผู้แทนจากพันธมิตรหลายภาคส่วนเข้าร่วม ห้อง The Mitr-ting Room ชั้น 5 สามย่านมิตรทาวน์ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ

นำโดย นพ.อัครฐาน จิตนุยานนท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข, พญ.เสาวนีย์ เกิดดอนแฝก ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน), ดร.ศราวุธ เลิศพลังสันติ รองผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ, ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร เลขาธิการมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ในพระอุปถัมภ์ฯ, พญ.สุเนตร ชื่นกิจมงคล รองผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ, นางสาวศิริพร ศรีสันต์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายสื่อสารการตลาดและภาพลักษณ์องค์กร โรงพยาบาลกรุงเทพ, นพ.ศุภกร พิทักษ์การกุล รองผู้อำนวยการด้านการแพทย์ สถาบันมะเร็งแห่งชาติ และพันธมิตรด้านสุขภาพทั้งภาครัฐและเอกชน

โดยมี นางสาวปานบัว บุนปาน ประธานกรรมการ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) นายปราปต์ บุนปาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) และ นายชลิต กิติญาณทรัพย์ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายหารายได้, นายสรพันธุ์ บุนปาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท งานดี จำกัด, นางสาวดิษนีย์ นาคเจริญที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการ, นายสุรพล พิทยาสกุล รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายโฆษณาและการตลาด, นายวุฒิเทพ เตชะภัทร บรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์ข่าวสด, นางสาวสุดใจ ชาญชาตรีรัตน์ บรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ, นายมณฑล ประภากรเกียรติ ผู้อำนวยการสำนักพิมพ์มติชน และนายสุพัด ทีปะลา บรรณาธิการบริหาร กองบรรณาธิการมติชน ให้การตอนรับ

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีที่ 17 แล้วในการจัดกิจกรรมเฮลท์แคร์ ที่ผ่านมามติชนเป็นพัทธมิตรที่เข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุขมาตลอด โดยเฉพาะธีมปีนี้ตรงกับนโยบายของกระทรวง ที่ท่านสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข กล่าวว่าเราจะมีการบริการด้านสาธารณสุขให้กับประชาชนทุกช่วงวัย ปีที่แล้วเราให้ความสำคัญกับผู้สูงวัย เพราะที่จริงแล้วเมื่อเราจะดูแลใครสักคน ต้องดูทุกคน การแก้ปัญหาผู้สูงอายุต้องไปแก้ที่เด็ก การจะมีสุขภาพแข็งแรงต้องเริ่มตั้งแต่เด็ก ผู้ใหญ่ วัยทำงานจนมาถึงผู้สูงอายุ การที่เจะมีสุขภาพดีต้องเริ่มที่หลายอย่าง ทั้งความรู้ส่วนบุคคลกับการดูลทางระบบสาธารณสุขต้องสอดคล้องกัน ธีมงานนี้จึงมีความสำคัญมาก การทำให้แต่ละคนได้รู้ว่าการดูแลสุขภาพในช่วงวัยของตัวเองต้องทำอย่างไร แล้วเราจะเชื่อมโยงกับระบบสาธารณสุขอย่างไร

งานนี้จึงมีใน 2 ส่วนหลักคือ การจัดบริการด้านสาธารณสุข และอย่างที่ 2 คือการโชว์ให้รู้ว่าระบบสาธารณสุขของประเทศไทยทั้งภาครัฐฯ และเอกชน มีอะไรดีๆ ที่เราสามารถไปแข่งขันกับชาวโลกได้ เรามีจุดแข็งด้านกระทรวงสาธารณสุขอยู่หลายประการ เราไม่ได้ดูแลรักษาอย่างเดียว แต่ทำอย่างไรให้สุขภาพเป็นตัวสร้างเศรษฐกิจด้วย เรามีสมุนไพรที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ตนเชื่อว่าการสร้างสุขภาพต้องเริ่มที่ทุกคน

ADVERTISMENT

“หากพูดถึงเรื่องสุขภาพจะมีอยู่คำหนึ่งที่พูดเมื่อใดก็ถูกเมื่อนั้น คือการปกป้องกันกว่าการรักษา เราอยากให้คนสุขภาพดีมาโรงพยาบาล เรารู้ว่าจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร สำคัญมาก หลายเรื่องหมอทำแทนไม่ได้ ทั้งเรื่องอาหารการกิน การออกกำลังกาย การป้องกันโรค สำคัญมาก และตอนนี้คนไทยห่วงเรื่องอะไร เรื่องโควิดขณะนี้คนป่วยเยอะแต่ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง แต่เรื่องที่เราควรกังวลที่โรค NCDs หรือ non-communicable diseases เป็นกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เพราะเราพบว่าคนที่มาโรงพยาบาล 75 % เป็น NCDs เพราะฉะนั้นถ้าเราจะมีสุขภาพที่ดีเราต้องทราบว่าจะทำอย่างไรไม่ให้เราเป็นโรคพวกนี้ NCDs เกิดจากตัวเราเอง ปัจจัยเสี่ยง มีทั้งป้องกันได้และป้องกันไม่ได้ และแต่บุญแต่กรรม เพราะถ้ามาจากพันธุกรรมรับมา ท่านแก้ไม่ได้ สิ่งที่เราป้องกันได้คือปรับไลฟ์สไตล์ให้เหมาะสม เพราะตอนนี้ไลฟ์สไตล์ของคนไทยไม่เอื้อต่อการป้องกันโรค การกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์ ความเครียดจากการทำงาน สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้เกิดโรค NCDs ตอนนี้มีเด็กที่เป็นมากขึ้นด้วย NCDs ยังเป็นโรคที่ทำให้เศรษฐกิจของประเทศสูญเสีย ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนสูญเสีย เป็นตัวก่อโรคทั้งโรคหัวใจ มะเร็ง หลอดเลือดสมอง เชื่อว่าถ้าทุกคนมางานนี้ก็จะทราบว่าควรปฎิบัติตัวอย่างไรในการป้องกันโรค จะทำให้เกิดประโยชน์แก่สังคมในภาพรวม” นพ.โอภาส กล่าว

นางสาวปานบัว บุนปาน ประธานกรรมการ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า ที่มาของการจัดงาน Thailand Healthcare เริ่มต้นมาจากเครือมติชนมีหนังสือพิมพ์ฉบับพิเศษ 1 ฉบับที่ชื่อว่า “Health Care” เพื่อเป็นการสร้างความรู้ด้านสุขภาพให้กับภาคประชาชน จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ นั้น ได้สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ชอบช่วยเหลือสาธารณะ จนเป็นดีเอ็นเอ (DNA) ที่สืบต่อกันมา เนื่องจากเครือมติชนเห็นข้อจำกัดด้านการเข้าถึงระบบสุขภาพ จึงได้ร่วมกับพันธมิตร ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน จัดงาน Thailand Healthcare ขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 17 แม้กระทั่งช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 ก็มีการปรับรูปแบบจัดงานผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยงานมหกรรมสุขภาพที่จัดขึ้นทุกปีนี้ สร้างผลกระทบทางบวกให้กับประชาชน เป็นงานแฟร์สุขภาพอันดับ 1 ของประเทศที่ประชาชนรอคอย

“เมื่อช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เราได้จัดงานภายใต้แนวคิดการดูแลผู้สูงวัย ท่ามกลางสังคมผู้สูงอายุ แต่เมื่อเรากลับไปพิจารณาจริงๆ พบว่าเราสามารถป่วยได้ทุกวัย โดยเฉพาะวัยทำงาน วัยที่ไม่ได้เตรียมตัวจะป่วย ดังนั้น คณะทำงานก็ได้กำหนดแนวคิดของปีนี้ว่า A Better Life : สร้างสุขทุกช่วงวัย เพื่อดูแลภาพรวมสุขภาพของคนทุกวัยให้ได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง เน้นการจัดงานที่สดใส ดึงดูดให้คนทุกวัยเข้ามาร่วมกิจกรรม เพราะเรื่องสุขภาพเป็นเรื่องที่เราทุกคนต้องสนใจ ต้องสร้างความตระหนักรู้และสร้างการรับมือให้กับประชาชน ให้เรียนรู้การใช้ชีวิตและการเจ็บป่วยอย่างมีความสุขและจัดการได้” นางสาวปานบัว กล่าว

นางสาวปานบัว กล่าวต่อว่า งาน Thailand Healthcare 2025 ได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรมากกว่า 30 หน่วยงาน โดยไฮไลต์หลักที่น่าสนใจ ได้แก่ เมืองสุขภาพ, เมืองสาธารณสุข ที่ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงสาธารณสุข และ เมือง 30 บาท รักษาทุกที่ ได้รับการสนับสนุนจาก สปสช. จึงอยากเชิญชวนให้ทุกคนมาร่วมในงานกิจกรรมครั้งนีั ซึ่งจะได้รับการตรวจคัดกรองสุขภาพฟรีตลอดทั้งงาน โดยเครือมติชนตั้งเป้าตรวจสุขภาพตลอดการจัดงาน 4 วัน อย่างน้อย 4,000 – 5,000 คน เพื่อดูแลสุขภาพของประชาชนให้ได้มากที่สุด

นางสาวปานบัว กล่าวด้วยว่า ไฮไลต์ที่สำคัญไม่แพ้สุขภาพกายคือ การดูแลสุขภาพใจ ซึ่งมีการขยายพื้นที่จัดงานไปยังโรงแสดงภาพยนตร์ เพื่อจัดกิจกรรมเวิร์กชอป (Workshop) สุขภาพใจ “Healing Theater : ห้องฮีลใจ” เพื่อให้ทุกคนได้โอบกอดตัวเอง เพราะเราเชื่อว่าทุกสิ่งในชีวิตจัดการได้ นับเป็นครั้งแรกที่ได้จัดเวิร์กชอปสุขภาพใจ โดยเปิดพื้นที่ให้ผู้เขียน ผู้แปลหนังสือสุขภาพใจ ได้ออกแบบเวิร์กชอปฮีลใจ จึงคาดหวังอย่างยิ่งว่าจะได้รับความสนใจ เพราะเรื่องจิตใจสำคัญไม่แพ้สุขภาพกาย

“Thailand Healthcare 2025 จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ อย่างเต็มที่ โดยเราหวังว่าทุกอย่างที่ตั้งใจออกแบบไปจะเกิดประโยชน์กับภาคประชาชนอย่างแท้จริง ภายใต้แนวคิด A Better Life สร้างสุขทุกช่วงวัย” นางสาวปานบัว กล่าว

ขณะที่ พญ.เสาวนีย์ เกิดดอนแฝก ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบ้านแพ้ว กล่าวว่า เครือมติชนและโรงพยาบาลบ้านแพ้วเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกันมาตลอด 17 ปี โดยโรงพยาบาลจักษุบ้านแพ้ว ได้ออกหน่วยตรวจสุขภาพตาเพื่อผู้สูงอายุ การรักษาและผ่าตัดต้อกระจกโดยไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ปีนี้จัดงานด้วยแนวคิด “A Better Life : สร้างสุขทุกช่วงวัย” จึงได้เพิ่มโปรแกรมขึ้นมา เช่น 1.การตรวจคัดกรองสายตาเพื่อทำการเลสิคโดยไม่มีค่าใช้จ่าย 2.การคัดกรองโรคหัวใจ ด้วยการตรวจสุขภาพหลอดเลือด และ 3.การเอกซเรย์ช่องอกด้วย AI สามารถรู้ความเสี่ยงทางสุขภาพได้ใน 3 นาที ทั้งหมดนี้ประชาชนสามารถนำผลการรัดกรองในงาน ไปรับการรักษาต่อได้ที่โรงพยาบาลบ้านแพ้ว สาขาสาทร ที่เราตั้งใจเปิดสาขาในกรุงเทพมหานครเพื่อดูแลสุขภาพคนในเมือง นอกจากนั้นยังมีการตรวจสุขภาพอื่นๆ อีกด้วย จึงขอเชิญชวนประชาชนทุกคนเข้ามาร่วมในงานกิจกรรม Thailand Healthcare 2025 ครั้งนี้

ด้าน ดร.ศราวุธ เลิศพลังสันติ รองผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC) กล่าวว่า หากนวัตกรรมจะไม่ถึงมือผู้ใช้เลย ถ้าหากไม่มีคนมาร่วมสนับสนุน แนวคิดการจัดงานในปีนี้ ‘สร้างสุขทุกช่วงวัย’ ซึ่งตรงกับ สวทช. ของเรา เรามองว่าสังคมสูงวัย ไม่ได้มีเพียงแค่ผู้สูงอายุวัยเท่านั้น แต่รวมถึงทุกช่วงวัยด้วย นวัตกรรมที่ทาง สวทช. นำมาแสดง มีทั้งของผู้สุงวัยและคนวัยทำงาน อาทิ อุปกรณ์เฝ้าระวังการผลัดตกหกล้ม นวัตกรรมนี้เราต้องการให้ผู้ป่วยพึ่งพาตนเองได้ ช่วยเหลือตัวเองได้ ไม่ลำบากผู้ดูแล ไปจนถึงนวัตกรรม ป้องกันการลืมทานยา เราได้ออกแบบนวัตกรรมที่เข้าถึงง่าย เพราะเข้าใจว่า หากการลืมทานยา 1 มือ อาจเป็นปัญหาต่อการรักษาได้เช่นเดียวกัน จึงนำ Ai มาช่วยเหลือในนวัตกรรมนี้

“ภายในงานทางสวทช. มีการออกบูธ การขึ้นเวทีเสวนา และมีสินค้าแจกมากมาย ทำให้ประชาชนเข้าถึงนวัตกรรมได้ง่ายขึ้น สวทช. ยินดีที่มีส่วนร่วมในการนำนวัตกรรมไทย ได้เข้ามาช่วยเหลือสังคมไทย” ดร.ศราวุธ กล่าว

ดร.ภญ.สุภาภรณ์ ปิติพร เลขาธิการมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ในพระอุปถัมภ์ฯ กล่าวว่า ความพิเศษของภายในงานนี้ มีกิจกรรมที่สอดคล้องกับงานในเรื่องสมุนไพร ที่ขยายจากผู้สูงอายุไปจนถึงวัยเด็กๆ จะเห็นได้ว่าสิ่งที่เราคุ้นชินในวัยเด็ก เรามักจะปลูกฝังไปถึงตอนโต เราจะหาสิ่งที่เราได้สัมผัสในช่วงเด็กเสมอ หากคนรุ่นใหม่เข้าใจเรื่องสมุนไพร ก็จะเป็นสิ่งที่พัฒนาประเทศได้ และดูแลสุขภาพคนอื่นได้

ดร.ภญ.สุภาภรณ์ กล่าวต่อว่า ปีนี้เรามีสวนสมุนไพร ที่นำมาจากจังหวัดปราจีนบุรี เป็นสวนสมุนไพรเคลื่อนที่ อาทิ หูเสือด่าง เป็นพืชที่อ่อนโยน สามารถสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหยและแก้ไข้หวัดได้ เป็นนวัตกรรมสามารถทำเองได้ในครัวเรือน, บัวบก เรานำพันธุ์ดีแข็งแรงมาจากจังหวัดอุบลราชธานี สรรพคุณบำรุงสมองในทุกช่วงวัย มีงานวิจัยรองรับ และน้ำบัวบกยังแก้ร้อนในในสภาวะโลกร้อนอีกด้วย, หญ้าปักกิ่ง สมุนไพรที่เพิ่มภูมิคุ้มกันต่อร่างกายเราได้ และอัญชันพันธุ์ดี ปัจจุบันแสงสีฟ้าทำให้เด็กๆ มีปัญหาเรื่องสายตา น้ำอัญชัน ข้าวอัญชัน จะสามารถช่วยเหลือเรื่องการบำรุงสายตาได้ และมีสาธิตการทำสมุนไพร เพื่อสร้างประสบการณ์สามารถทำเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน

“อีกทั้งภายในงานเรามีหนังสือแจก ชื่อว่า ‘สมุนไพรสู้ภัยเบาหวาน’ แจกวันละ100 เล่ม มีเนื้อหาเกี่ยวกับการทำพืชสมุนไพรที่กินได้สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน” ดร.ภญ.สุภาภรณ์ ปิดท้าย

ซึ่งงาน Thailand Healthcare 2025 จะมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันพฤหัสบดีที่ 26 มิถุนายน – วันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00-20.00 น. ที่ชั้น 5 สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ โดยในปีนี้ได้ให้ความสำคัญกับปัญหาสุขภาพของคนทุกช่วงวัย ที่มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ความเครียดจากการใช้ชีวิต  รวมถึงพฤติกรรมสุขภาพที่ไม่เหมาะสม การดูแลสุขภาพเชิงรุกใน “ทุกช่วงวัย” ที่สำคัญคือ วัยรุ่น วัยทำงาน และวัยสูงอายุ นับเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้คุณภาพชีวิตคนไทยดีขึ้น

การมีคุณภาพชีวิตที่ดียังจะช่วยลดความเสี่ยงและประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว เริ่มจากวัยรุ่นที่จำเป็นต้องส่งเสริมพัฒนาการด้านต่างๆ ตลอดจนสุขภาพกายและใจ ต่อมาเป็นวัยทำงาน นอกจากการส่งเสริมสุขภาพกายและสุขภาพจิตแล้ว ยังจำเป็นต้องให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันโรคที่พบบ่อยในวัยทำงาน สนับสนุนการสร้างพฤติกรรมสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน และการสร้างความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน (Work-Life Balance)

ที่สำคัญเนื่องจากประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์ (Aged Society) จำเป็นอย่างยิ่งที่หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนต้องหันมาให้ความรู้เกี่ยวกับการแพทย์และการดูแลผู้สูงอายุที่ถูกต้อง ส่งเสริมสุขภาพร่างกายและจิตใจของผู้สูงวัยอย่างเหมาะสม กระตุ้นให้เกิดการตระหนักรู้ในเรื่อง “สังคมผู้สูงอายุ” รวมทั้งการสร้างความหวัง พลังใจ การป้องกันการเกิดโรคต่างๆ ที่ส่งผลต่อสุขภาพ เช่น โรคความดัน มะเร็ง หัวใจ เบาหวาน หลอดเลือด ไต ฯลฯ รวมทั้งโรคแทรกซ้อนต่างๆ เพราะผู้สูงวัยนับว่ามีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนเปลี่ยนแปลงประเทศไทยในปัจจุบัน โดยประกอบด้วยไฮไลต์ที่สำคัญและน่าสนใจ คือ

3 เมืองสุขภาพสุดยิ่งใหญ่

บริการตรวจสุขภาพฟรี จาก 3 เมืองสุขภาพ 30 โรงพยาบาลชั้นนำระดับประเทศ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ได้แก่ เมืองสุขภาพ เมืองสาธารณสุข และครั้งแรกกับเมือง 30 บาทรักษาทุกที่ (สปสช.) รวมกว่า 60 รายการ

2 จุดตรวจพิเศษ ตา – ฟัน

พบกับบริการแบบจัดเต็มครั้งแรกของโรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) กับการตรวจสุขภาพตา ตรวจประเมินสภาพตาก่อนทำเลสิก, ตรวจคัดกรองโรคหัวใจ ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) และตรวจอัลตราซาวด์หัวใจ (Echo), นวัตกรรม AI ตรวจคัดกรองมะเร็งปอดและความผิดปกติของหัวใจ และตรวจวัดความแข็งตัวของหลอดเลือดแดง (ABI) เพื่อคัดกรองโรคหลอดเลือดแดงตีบตัน นอกจากนี้ ยังมีจุดตรวจพิเศษจากคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ที่ยกทัพมาให้บริการทันตกรรมและเช็กสุขภาพฟันประเมินความเสี่ยงการเกิดฟันผุ อุดฟัน ขูดหินปูน และถอนฟัน อีกด้วย

3 รถตรวจสุขภาพเคลื่อนที่ มะเร็ง – ปอด – ฟัน

เสริมทัพให้บริการตรวจสุขภาพด้วยรถตรวจสุขภาพเคลื่อนที่ เพื่อศักยภาพสูงสุดในการตรวจรักษา ได้แก่ มูลนิธิถันยรักษ์ ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีให้บริการตรวจแมมโมแกรมและอัลตราซาวด์ (มะเร็งเต้านม) นอกจากนี้ ยังมีรถทันตกรรมเคลื่อนที่ของ สปสช. ที่มาร่วมให้บริการ ตรวจ, ถอน, อุด, ขูด,เคลือบฟัน ปิดท้ายด้วยบริการ X-Ray ปอดด้วยรถตรวจสุขภาพเคลื่อนที่โดย รพ.เจริญกรุงประชารักษ์ เรียกว่า จัดใหญ่จัดเต็มกว่าปีที่ผ่านมาแบบเท่าตัว

8 ไฮไลต์เสวนาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

1 ปี มีเพียง 1 ครั้งที่ผู้เข้าร่วมงานจะได้ฟังเสวนาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญชั้นนำระดับประเทศ โดยในปีนี้ได้นำเสนอ 8 ไฮไลต์เด่นที่ห้ามพลาด อาทิ ‘ทรงตัวให้ไหว หยุดภัยโรคบ้านหมุน’ โดย ‘พญ. เกศริน กิตติวรรณวงศ์’ แพทย์ชำนาญการ โรคหู โสต ประสาท การได้ยิน และการทรงตัว โรงพยาบาลกรุงเทพ ดุสิต เวชการ จำกัด (มหาชน) พร้อมแขกรับเชิญพิเศษ ‘แมว-จิรศักดิ์ ปานพุ่ม’

โรคหลอดเลือดสมองกับการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต โดย ‘นพ.ชาญพงค์ ตังคณะกุล’ ผู้อำนวยการศูนย์โรคหลอดเลือดสมอง โรงพยาบาลกรุงเทพอินเตอร์เนชันแนล, ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน Coronary Heart โดย นพ.คมปิยะ กนกพัชรกุล อายุรแพทย์ โรคหัวใจ รพ.หัวใจบ้านแพ้ว

‘สวยไม่เสี่ยง ย้อนวัยแบบไหนปลอดภัยที่สุด’ โดย ‘นพ.ฉัตรพล คงเฟื่องฟุ้ง’ (ว.34324) ศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง แพทย์ผู้บริหาร คลินิกและโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะทาง ไอดีแอล และโรคหลอดเลือดสมอง อันตรายเงียบที่คุณต้องรู้ โดย ‘รศ.นท.ดร.นพ.สรยุทธ’ ชำนาญเวช สาขาวิชาประสาทศัลยศาสตร์ ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นต้น

4 ทอล์ก ดูแลใจ @ฮีลลิ่ง เธียเตอร์

ครั้งแรกกับทอล์กดูแลใจ @ฮีลลิง เธียเตอร์ พื้นที่ของการพูดคุย รับฟัง และเรียนรู้วิธีเยียวยาใจ ร่วมสำรวจความรู้สึก ความเชื่อ ความเจ็บปวด และความหวัง ผ่านเหล่าวิทยากรที่จะมาโอบกอดคุณ ด้วยเรื่องราวแง่คิดในหนังสือของสำนักพิมพ์ Broccoli เพื่อสร้างพื้นที่ปลอดภัยในตัวเอง บนพื้นที่ที่เราไม่ต้องเข้มแข็งตลอดเวลา ไม่ต้องสมบูรณ์แบบ ไม่ต้องฝืนเป็นใคร…นอกจากตัวคุณเอง

นอกจากนี้ ยังมีไฮไลต์สุดพิเศษที่ไม่ควรพลาด ทั้งกิจกรรมเวิร์กชอปเพื่อสุขภาพฮีลทั้งกายและฮีลทั้งใจ ชอปสินค้า นวัตกรรม และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพกว่า 60 บูธ ยังมีสมุนไพรฉบับคนรักสุขภาพ นำโดยโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ที่ยกมาให้ในงานโดยเฉพาะ และไม่พลาดกิจกรรม Healthcare Charity 2025  รายได้มอบแก่สาธารณกุศล

เรียกได้ว่า มางานเดียวได้ครบทุกมิติเรื่องสุขภาพ นอกจากนี้ยังตอกย้ำถึงเสียงตอบรับอย่างดีต่อเนื่องตลอด 16 ปี จากแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญ ภาครัฐ ภาคธุรกิจ ภาคประชาสังคม ตลอดจนประชาชน เพราะเชื่อว่าที่นี่ คือ งานบริการสุขภาพนอกโรงพยาบาลที่ดีที่สุด จึงอยากแนะนำว่าไม่ควรพลาด

‘Thailand Healthcare 2025’ ภายใต้ธีม ‘A Better Life : สร้างสุขทุกช่วงวัย’ จัดใหญ่จัดเต็ม 4 วันรวด ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 26 มิถุนายน ถึง วันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน 2568 ที่ชั้น 5 สามย่านมิตรทาวน์  เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้า MRT สถานีสามย่าน ทางออกที่ 2