
โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เปิดตัวห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์อัตโนมัติแห่งอนาคต เพื่อยกระดับไปสู่การเป็นศูนย์กลางการแพทย์ที่ทันสมัย มีความแม่นยำสูง และเป็นไปตามมาตรฐานสากล
รศ.นายแพทย์ ดิลก ภิยโยทัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เป็นประธานเปิดกิจกรรม opening Lab ภายใต้หัวข้อ “Laboratory Service trend 2025” พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ว่า โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ได้เดินหน้าพัฒนาการวิเคราะห์ห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์อัตโนมัติแห่งอนาคต ที่เป็นห้องปฏิบัติที่เป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพเทคนิคการแพทย์ ช่วยให้การวินิจฉัยโรคมีความถูกต้องแม่นยำ รวดเร็ว สามารถเลือกใช้ยาได้ถูกต้องและลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลให้ผู้ป่วยได้ด้วย
อย่างไรก็ดี ภายใต้เจตนารมณ์ในการยกระดับโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ที่ต้องการไปสู่การเป็นศูนย์กลางการแพทย์ที่ทันสมัย มีความแม่นยำสูง และเป็นไปตามมาตรฐานสากล งานห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์จึงได้ดำเนินการติดตั้งระบบอัตโนมัติแบบครบวงจร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการทางห้องปฏิบัติการอย่างเต็มรูปแบบ
นอกจากนี้ ห้องปฏิบัติการยังได้รับการออกแบบให้สามารถเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างแผนกต่าง ๆ ภายในโรงพยาบาลผ่านระบบดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ รองรับปริมาณงานที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสนับสนุนกระบวนการวินิจฉัยและรักษาให้รวดเร็ว แม่นยำ และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
เช่นการนำระบบ “One Touch Solution Express” มาใช้สำหรับการลงทะเบียนอัจฉริยะผ่าน Mobile Application “LAB TUH” หรือผ่านตู้จัดคิวอัตโนมัติ (KIOSK) ช่วยลดเวลาลงทะเบียนไม่ถึง 40 วินาที ลดความแออัดหน้าห้องเจาะเลือดลงกว่าร้อยละ 50 และช่วยลดโอกาสเสี่ยงการแพร่ระบาดของเชื้อโรค เช่นโควิด 19 เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังนำเทคโนโลยีการขนส่งหลอดเลือดอัตโนมัติมาประยุกต์ใช้ ตั้งแต่การติดฉลากบนหลอดเลือดอัตโนมัติช่วยให้ทำงานรวดเร็วขึ้นภายในเวลาไม่ถึง 1 นาที ระบบการเรียกคิวอัตโนมัติช่วยเปรียบเทียบใบหน้ากับข้อมูลในระบบได้แม่นยำลดความเสี่ยงเจาะเลือดสลับคน ระบบสายพานขนส่งหลอดเลือดอัตโนมัติลดการสัมผัส และช่วยรักษาคุณภาพของเลือดระหว่างนำส่งตามมาตรฐานสากล เพราะมีท่อนำส่งที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ ระบบการตรวจวิเคราะห์คัดแยกอัตโนมัติและรายงานผลอัจฉริยะ ก่อนส่งทีมแพทย์ทำการรักษาต่อไป
การใช้เครื่องตรวจวิเคราะห์อัตโนมัติทางโลหิตวิทยาแบบครบวงจร
เพิ่มขีดความสามารถการตรวจวิเคราะห์ได้สูงถึง 400 รายต่อชั่วโมง การอ่านผลจากเครื่องสไลด์อัตโนมัติ ลดขั้นตอนการแปลผลที่ยุ่งยากซับซ้อน ทำให้การคัดกรองคนไข้ปกติและคนไข้ที่ผิดปกติ ออกจากกันอย่างมีประสิทธิภาพ
มีเครื่องตรวจวิเคราะห์ปัสสาวะทางเคมีและเครื่องตรวจวิเคราะห์ตะกอนปัสสาวะอัตโนมัติ จำแนกชนิดตะกอนได้ถึง 17 ชนิด ระบบถ่ายภาพแบบพิเศษ ช่วยแยกชนิดตะกอนที่มีความสำคัญต่อการตรวจวินิจฉัยโรคไต ส่งต่อไปยังคอมพิวเตอร์จุดต่าง ๆ ให้นักเทคนิคการแพทย์ออกผลได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
เช่นเดียวกับเครื่องตรวจวิเคราะห์อุจจาระอัตโนมัติ ที่ใช้เทคโนโลยี AI มาช่วยในการตรวจหาเชื้อปรสิต หรือเซลล์ที่มีความผิดปกติต่าง ๆ
ในการบันทึกภาพถ่าย และส่งข้อมูลเข้าระบบได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ การพัฒนาในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ในการขับเคลื่อนองค์กรด้วยองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อตอบโจทย์การให้บริการด้านสุขภาพในศตวรรษที่ 21 อย่างแท้จริง