ทุนจีนบุกตลาดพระเครื่อง ‘นักท่องเที่ยวสู่ผู้ค้า’

ตลาดพระเครื่อง ห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน
คอลัมน์ : สัมภาษณ์พิเศษ 
ผู้เขียน : สุวัฑ แซงลาด, วรุฒ สุมทุมพฤกษ์

เจาะธุรกิจพระเครื่อง ศูนย์ใหญ่ห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน เซียนพระชื่อดังเผยตลาดรวม ยอดขายลด 30% ทุนจีนรุ่นใหม่ผันตัวจากลูกค้าเป็นเอเย่นต์ เน้นพระใหม่-พระเหรียญ ช่วงพีกสุดเหมาทัวร์ท่องเที่ยวแห่ช็อป ชี้เศรษฐกิจซบ ยิ่งเป็นโอกาสได้เปรียบของทุนต่างชาติทั้งมาเลย์-สิงคโปร์

ถนนงามวงศ์วาน ย่านชานเมืองของกรุงเทพฯ เป็นที่ตั้งของห้างพันธุ์ทิพย์พลาซ่า ปัจจุบันกลายเป็น “ตลาดพระเครื่อง” จุดหมายสำคัญของนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะคนจีนที่มีความเชื่อและศรัทธาในพระเครื่องและวัตถุมงคลของไทย ทำให้ต่างชาติเห็นโอกาสและนำไปสู่การลงทุนเปิดร้านพระเครื่องในห้างดังกล่าวเป็นจำนวนมากขึ้น ซึ่งลูกค้าหลักก็เป็นชาวจีนด้วยกันเอง โดยมีการเช่าซื้อขายผ่านหน้าร้าน และช่องทางออนไลน์

ตลาดซื้อขายลดลง 30%

นายพิศาล เตชะวิภาค รองนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย ฉายา “ต้อย เมืองนนท์” เซียนพระชื่อดัง เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ภาพรวมตลาดพระเครื่องในปัจจุบันอยู่ในสภาวะที่ซบเซา เห็นได้ชัดในปี 2567 มีการซื้อขายลดลงราว 30 % ต่างจากช่วง 3-4 ปีก่อนหน้านี้ที่บูมมาก แต่ไม่ถึงขั้นวิกฤตที่ร้านเช่าพระต้องหยุดชะงักหรือเลิกกิจการ

เพราะคนในวงการที่เป็นกลุ่มคนที่ชื่นชอบเรื่องการสะสมพระเครื่อง หรือเซียนพระ ต่างต้องการที่จะขับเคลื่อนวงการให้มีความเคลื่อนไหวต่อเนื่อง ด้วยการพยายามซื้อ-ขายกันอย่างปกติ แม้ส่วนใหญ่จะเป็นการซื้อ-ขายกันเอง โดยคาดหวังในอนาคตของที่ซื้อไปจะมีมูลค่าเพิ่มแล้วนำมาขายต่อในตลาดได้อีก เพราะพระเครื่องเป็นสินทรัพย์ที่ยังสามารถซื้อมาขายไปได้

ปัจจัยที่ทำให้ตลาดพระเครื่องซบเซานั้น “ต้อย เมืองนนท์” เชื่อว่า อาจมาจากสถานการณ์ตลาดโลกที่ส่งผลกระทบกับทุกวงการ ไม่เพียงแต่วงการพระเครื่องเท่านั้น เนื่องจากพระเครื่องหรือวัตถุมงคล เป็นของสำหรับคนที่มีกำลังซื้อไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน และไม่ได้จัดอยู่ในสินค้าที่เป็นปัจจัย 4 ที่ทุกคนต้องกินต้องใช้ หรืออุปโภคบริโภค ทำให้คนที่มีกำลังซื้อระมัดระวังเรื่องการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น จึงเป็นเหตุผลที่เม็ดเงินเข้ามาหมุนเวียนในวงการพระเครื่องลดน้อยลงตามสถานการณ์

ต้อย เมืองนนท์

จีนรุกตลาดนานแล้ว

ส่วนคนจีนที่เข้ามาสู่วงการพระเครื่องมีมานานแล้ว แต่อาจไม่ลึกซึ้งเท่าคนไทย หรือพุทธศาสนิกชนที่อยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งส่วนมากนิยมเล่นพระจากสมัยก่อนที่นึกถึงพุทธคุณ ความศักดิ์สิทธิ์ อภินิหาร และที่มาของประวัติศาสตร์

แต่การเช่าหรือซื้อขายพระของคนจีนจะมุ่งเน้นเป็นตลาดพระใหม่ ซึ่งเริ่มแรกของการเข้าสู่วงการนี้เพราะมีคนคอยแนะนำ และเข้ามาในรูปแบบของนักท่องเที่ยว ต่อมาจึงมีการเช่าพระ แต่ไม่ใช่พระราคาสูงจำนวนหลักหมื่นหลักแสน เป็นการเช่าราคาหลักร้อยหลักพันบาทเท่านั้น

ADVERTISMENT

จะว่าไปแล้ว คนจีนเริ่มเข้ามาในวงการพระเครื่องเมื่อช่วงปี 2540 ตอนนั้นเข้ามาจำนวนมาก คนจีนเก่งเรื่องการค้าขาย แต่ช่วงแรกต้องพึ่งพาคนไทย มาขอเช่าพระที่มีการปลุกเสก ต่อมาได้ตั้งตัวเป็นเอเย่นต์ เปิดร้านพระเครื่อง แต่ยังไม่สามารถดูพระเก่าได้ ต้องใช้เวลาศึกษา ซึ่งพระที่เซียนพระเล่นกันจริง ๆ ไม่ได้มีแค่พระเกจิ หรือมีเฉพาะเหรียญพระใหม่ที่เพิ่งสร้างขึ้นมาเท่านั้น วงการพระเครื่องลึกซึ้งกว่านั้น และประเทศไทยมีของที่สะสมมาตั้งแต่รุ่นปู่ ย่า ตา ยาย เป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าและมีราคา

กล่าวถึงข้อดี-ข้อเสียของทุนจีนกับวงการพระเครื่อง “ต้อย เมืองนนท์” ให้ความเห็นว่า สมัยก่อนพวกเขาเข้ามาเช่าพระ คนไทยเรามีรายได้มีกำไร คนจีนมารับเช่าพระแล้วนำไปปล่อยที่ประเทศเขา แต่ระยะหลังคนไทยมีรายได้น้อยลง เพราะคนจีนเข้ามาเริ่มทำเองโดยไม่ผ่านนายหน้า บางรายทำพระหรือปั๊มพระเครื่องเองได้ด้วย

พันธุ์ทิพย์ศูนย์ใหญ่

สำหรับสัดส่วนคนจีน และชนชาติอื่น ๆ ที่มาเปิดร้านในห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน ปัจจุบันมีประมาณ 20-30 ร้านค้า บางโซนของพื้นที่ชั้น 3 ส่วนใหญ่เป็นร้านค้าของคนจีน เน้นทำกิจการเป็นโซนจำหน่ายพระใหม่ หรือพระเกจิอาจารย์ ในรูปแบบปลุกเสกวัตถุมงคลเหรียญและพระบูชา โดยมีลูกค้าคือคนจีนด้วยกันเองและซื้อขายด้วยเงินหยวน

นอกจากทุนจีนแล้ว ยังมีทุนจากชาติอื่น ๆ มาลงทุนเป็นเจ้าของร้านค้าอีกนับ 100 ร้านค้า อาทิ ชาวสิงคโปร์ และมาเลเซีย เป็นต้น

ขณะที่ความนิยมหรือพฤติกรรมการซื้อของคนจีนกับคนไทยไม่เหมือนกัน เนื่องจากเซียนพระหรือนักสะสมที่เป็นคนไทยจะมีมุมมองว่า ถ้าเป็นตลาดพระจะมองถึงพระเก่าที่มีคุณภาพ มีชื่อเสียง พระที่ซื้อมาแล้วขายออกไปได้ แต่กับร้านค้าต่างชาติเขาคิดว่า แค่ขายไปแล้วก็จบ

อย่างไรก็ตาม คนจีนที่เน้นซื้อมาขายไปหรือปล่อยออกก็มีบางร้าน เพราะอยู่ไทยมานาน มีประสบการณ์ค้าขาย เข้าใจการหมุนเวียนในตลาดพระ จึงติดตามดูพระเกจิอาจารย์ รวมถึงงานปลุกเสกที่มองว่า ราคาพระจะดีขึ้น สิ่งเหล่านี้ถือว่า คนจีนมีความพยายาม

ช่วงพีกเหมาทัวร์มาซื้อ

ทุนจีนส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่อายุ 20-30 ปี เฉลี่ยไม่ถึง 40 ปี ช่วงแรกที่เข้ามาไม่ได้มองเรื่องค้าขาย พอเป็นนายหน้าก็เริ่มเห็นโอกาสจึงลงทุนเปิดร้านเอง ช่วงนี้ถือว่าตลาดจีนเบาลงแล้ว ขณะที่ก่อนหน้านี้เป็นช่วงพีกของตลาดพระใหม่ เพราะมีคนจีนเหมาทัวร์มาเช่าพระที่ห้างพันธุ์ทิพย์เป็นจำนวนมาก แม้ราคาจะไม่สูงแต่เป็นการขายที่เน้นปริมาณ เฉลี่ยซื้อกันคนละ 5-10 องค์ เป็นการซื้อฝากญาติหรือเพื่อนที่จีน

“คนจีนเปลี่ยนสถานะจากนักเช่าพระขาจร มาเป็นเจ้าของร้านค้า หรือบางคนตั้งตัวเป็นเอเย่นต์สร้างพระ ส่งออกเอง เพราะคนไทยใจดี เวลามีพิธีหรืองานปลุกเสกวัตถุมงคลจะเชิญพวกเขา เพราะกลัวเขาไม่มาเช่าพระ พอเขาเห็นและรู้วิธีการทำพระก็จดจำไปทำเอง บางทีคนไทยก็แนะนำให้รู้จักกับอาจารย์ชื่อดัง พวกเขาก็มาหาเอง โดยไม่พึ่งพาคนไทยแล้ว”

“ล่าสุดเริ่มมีคนจีนหันมาจับตลาดพระเก่าแล้ว และมีความได้เปรียบในเรื่องของเงินทุน หากเป็นของมีมูลค่าสูงก็ตัดสินใจซื้อหรือเก็งกำไรได้เร็วกว่า อยากให้นักสะสมพระคนไทยระวังเรื่องการเปิดโอกาส เพราะอนาคตอาจไม่แน่นอน” ต้อย เมืองนนท์ กล่าวทิ้งท้าย

ต้น ท่าพระจันทร์

จีนสบช่อง เศรษฐกิจซบ

นายณัฐพงษ์ ชวาลรัตนสกุล แฟนพันธุ์แท้พระเหรียญปี 2008 เจ้าของร้านพระเครื่องในห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน ฉายา “ต้น ท่าพระจันทร์” กล่าวว่า ในอดีตการซื้อขายพระเครื่องในไทยจะหนักไปทางคนมาเลเซียกับคนสิงคโปร์เป็นส่วนใหญ่ เพราะมีพื้นที่ติดภาคใต้ ซึ่งมีเกจิชื่อดัง อาทิ พระหลวงปู่ทวด เป็นต้น

ก่อนโควิด-19 ประมาณ 2-3 ปี คนจีนเริ่มเข้ามาวงการพระเครื่องแล้ว และรู้แหล่งการซื้อในราคาที่ถูกกว่าคนชาติอื่น กลุ่มนี้เลยหันมาตั้งร้านซื้อ-ขายเหรียญวัตถุมงคลที่เมืองไทยแล้วส่งไปให้ลูกค้าที่เมืองจีน

ยิ่งเศรษฐกิจในไทยไม่ดี คนจีนจะได้ประโยชน์ เพราะคนไทยมีข้อจำกัดในเรื่องกำลังซื้อ ที่คนจีนอุดหนุนกันเอง เพราะกลัวคนไทยหลอกขายพระปลอม และเกี่ยวกับภาษาการสื่อสารด้วย

ปัจจุบันมีประมาณ 20% ของร้านพระเครื่องในห้างพันธุ์ทิพย์ที่เป็นของคนจีน และไม่เปิดขายให้คนไทยด้วย

โดยเขาได้อธิบายถึงเหตุผลที่ทำให้คนจีนเลือกที่จะซื้อ-ขายพระเครื่องกับคนจีนด้วยกัน แต่ไม่เลือกซื้อกับคนไทย ดังนี้ หนึ่ง กลัวโดนคนไทยหลอกขายพระปลอม สอง เป็นเรื่องเกี่ยวกับการสื่อสาร คุยภาษาจีนด้วยกันเอง ง่ายกว่าคุยภาษาไทยอยู่แล้ว สาม กฎหมายเมืองไทยยังไม่ครอบคลุม และเปิดช่องให้คนต่างชาติเข้ามาค้าขายได้ง่าย ดังนั้น จะเห็นได้ว่า 20% ของร้านพระเครื่องในพันธ์ทิพย์เป็นของคนจีนด้วยกัน ไม่ได้เปิดไว้ขายคนไทย ซึ่งคนไทยยังไงก็ไม่ซื้อกับคนจีนอยู่แล้ว

ในแง่ของความผันผวนของเศรษฐกิจต้องยอมรับว่าส่งผลสำหรับคนไทย แต่ถ้ามองในมุมมองของคนจีนอาจส่งผลน้อยมาก ยิ่งเศรษฐกิจเมืองไทยไม่ดี คนจีนจะได้ประโยชน์จากธุรกิจซื้อขายพระเครื่องเพิ่มมากขึ้น เพราะคนไทยมีกำลังซื้อในระดับหนึ่ง เมื่อเศรษฐกิจไม่ดีกำลังซื้อเมืองไทยน้อยลง พอกำลังซื้อคนไทยน้อยลง ราคาย่อมต่ำลง ต้องยอมรับว่าตลาดที่เมืองจีนเป็นตลาดที่ใหญ่กว่าเมืองไทยเยอะ มันก็จะมีส่วนต่างตรงนี้เพิ่มมากขึ้น เพราะคนที่อยู่จีนบางคนไม่ได้มาซื้อพระกับคนไทยโดยตรง

ทุนจีนเข้ามาทำให้เศรษฐกิจไทยดีขึ้น

โดยต้น ท่าพระจันทร์ได้แสดงข้อดีของการที่มีทุนจีนเข้ามาเปิดร้านขายพระเครื่องไว้ ว่ามีส่วนช่วยให้ตลาดพระเครื่องคึกคักกว่าเดิม โดยส่วนมากแล้ว คนจีนซื้อแล้วแทบไม่มีการขายคืน ต่างจากคนไทยที่มักนำมาคืน แล้วร้านต้องจ่ายราคาส่วนลดให้ 20% พร้อมหักอีก 10% ตามกลไกตลาด ขณะที่คนจีนซื้อแล้วซื้อเลย ซื้อเฉพาะรุ่นที่ตลาดนิยมอยู่แล้ว เล่นพระที่คนไทยรู้จัก และสามารถนำไปขายต่อคนจีนด้วยกันได้

ต้น ท่าพระจันทร์ยังบอกอีกว่า หากร้านคนจีนหายไปทั้งหมด แล้วเหลือแต่ร้านของคนไทย ห้างพันธุ์ทิพย์จะคึกคักน้อยลงแน่นอน ซึ่งต้น ท่าพระจันทร์มองว่า คนจีนเหล่านี้มีส่วนช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจไทยพอสมควร และยังเป็นรองคนไทยอยู่มาก เพราะบทบาทของพวกเขาเป็นได้เพียงพ่อค้าคนกลางเท่านั้น ยังไม่สามารถสร้างพระได้เอง รวมถึงไม่สามารถกำหนดราคาพระเครื่องในตลาดได้อีกด้วย ทำให้ยังไม่มีอำนาจในการต่อราคากับคนไทย

ความท้าทายเมื่อจีนเข้ามาในวงการพระเครื่อง

‘เอ็ม อินทรชิต’ หรือ ‘ไตรทศ ชัยชนะ’ เซียนที่เปิดร้านพระเครื่องในพันธุ์ทิพย์งามวงศ์วานเล่าว่า สาเหตุที่มีคนจีนมาเปิดร้านพระเครื่องมากมายในพันธุ์ทิพย์ เป็นเพราะคนจีนมองเห็นพุทธคุณของพระเครื่องเหมือนกันกับคนไทย เพราะนับถือศาสนาพุทธเหมือนกัน

อย่างไรก็ตาม เอ็ม อินทรชิตแสดงความเป็นกังวลต่อตลาดพระเครื่องไว้ว่า หากได้รับความนิยมจากคนจีนมากเกินไป ก็อาจจะไม่เหลือพระเครื่องไว้สำหรับปล่อยบูชาให้คนไทยได้เช่า พร้อมกันนั้น หากคนจีนมีความเชี่ยวชาญในการดูพระมากขึ้น ก็อาจมีอำนาจในการต่อรองกับคนไทยมากกว่าเดิม

ความศรัทธาไม่มีพรมแดน

นอกจากนี้ ยังมีเซียนพระผู้ไม่ประสงค์เปิดเผยตัวตน ระบุกับประชาชาติธุรกิจว่า ศรัทธาไม่มีพรมแดน เพราะคนไทยยังนับถือเจ้าแม่กวนอิมได้เลย ทำไมคนจีนจะนิยมบูชาพระเครื่องบ้างไม่ได้ ไหนจะทำให้การค้าจะคึกคักขึ้นอีกด้วย มีแต่ได้กับได้