รุ่งนภา พิมมะศรี : เรื่อง, ธนศักดิ์ ธรรมบุตร : ภาพ
เฌอปราง อารีย์กุล หรือ เฌอปราง BNK48 (บีเอ็นเคโฟร์ตี้เอท) ที่แฟน ๆ เรียกว่า “แคปเฌอ” เป็นหนึ่งสาวฮอตไอดอลคนรุ่นใหม่ ที่ไม่ว่าจะขยับตัวทำอะไรก็เป็นข่าว โดยพื้นฐานในฐานะเมมเบอร์ BNK48 ที่โด่งดังมากในยุคนี้ ก็ทำให้เธอต้องอยู่ในพื้นที่สื่อและเป็นที่จับจ้องมากอยู่แล้ว ยิ่งพ่วงตำแหน่ง “กัปตัน” หรือหัวหน้าวงด้วย ก็ยิ่งทำให้เธอถูกโฟกัสมากขึ้นไปอีก
จากภาพรวม BNK48 เกือบ 30 ชีวิต แยกย่อยรายบุคคล เฌอปราง คือ คนที่ “ไปไกล” กว่าคนอื่น ทั้งในแง่การได้รับโอกาส ผลงาน ชื่อเสียง ความนิยม และแน่นอนว่าได้เข้ามามาก ก็เสียไปมาก เป็นแรงเสียดทานระหว่างทางที่หนักหนามากเช่นกัน
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
หญิงสาววัย 22 กับบทบาท หน้าที่ ความรับผิดชอบ การแข่งขัน ความคาดหวังของผู้คน ความพอใจของคนรอบข้างที่เธอต้อง handle ไว้ เป็นสิ่งที่หลายคนมองว่า “หนักเกินตัว” แต่สาวน้อยคนนี้ก็จัดการมันได้
…ชีวิตของเฌอปรางเป็นชีวิตคนที่น่าสนใจและน่าทำความรู้จักมาก ๆ คนหนึ่งในยุคนี้ และนั่นคือเหตุผลของบทสนทนาต่อไปนี้
Q : ล่าสุดแสดงหนัง HOMESTAY ของค่าย GDH ตอนได้รับเลือก มันเป็นมายังไง รู้สึกยังไง
ตอนแรกได้รับการติดต่อให้ไปแคสต์ เฌอก็ โห แคสต์หนัง GDH เลยหรอ บ้าไปแล้ว รู้สึกว่าเป็นความท้าทายดี ถ้าได้ก็ดี เราก็ทำเต็มที่ที่สุดเท่าที่ทำได้ค่ะ พอรู้ว่าได้ก็ดีใจมาก อะเมซิ่งมาก ๆ พอแสดงจริง ๆ มันยากกว่าที่คิดมาก ๆ เฌอทำงาน BNK ด้วย ทำงานหนังด้วย และเรียนด้วย อารมณ์สะวิงทั้งวัน แต่ก็ดีใจที่ได้เรียนอะไรใหม่ ๆ ได้เปิดตัวเองมากขึ้น เข้าใจตัวเองมากขึ้น พอผ่านช่วงนั้นมาได้แล้ว รู้สึกแฮปปี้กับตัวเองง่ายขึ้น
Q : คาดหวังอะไรจากงานแสดงไหม
หนูไม่ค่อยคาดหวังกับอะไรขนาดนั้น ทำทุกวันให้เต็มที่เท่าที่เราทำได้ คาดหวังอย่างเดียว คือ ทำให้พี่โอ๋ (ภาคภูมิ-ผู้กำกับ) แฮปปี้กับสิ่งที่เราทำ เพราะเขาเลือกเรามารับบทนี้ เราต้องไม่ทำให้เขารู้สึกว่าตัดสินใจผิดที่เลือกเรามา เขาเหมือนพ่อหนูอีกคนหนึ่ง เป็นคนให้โอกาส second chance การได้แสดงหนัง GDH เป็นโอกาสใหญ่เทียบเท่ากับได้เข้า BNK เพราะตอนที่เขาเรียกไปแคสต์หนัง BNK ยังไม่มีเพลงคุกกี้ (ยังไม่ดัง) เขาเอาอะไรมาเลือก เฌอก็ดีใจมาก ๆ มันสุดยอดมาก เป็นโอกาสครั้งใหญ่ที่เปิดประตูด้านการแสดง ทำให้เฌอเติบโตขึ้นเยอะ
Q : อะไรบ้างที่เจอในการแสดงหนัง ที่รู้สึกว่ามันทำให้เราเติบโต
การแสดงเปิดประตูเรื่องความรู้สึกของเฌอ เพราะเฌอเป็นคนค่อนข้างปิดตัวเองมาตั้งแต่เด็ก เป็นคนเก็บความรู้สึกเก่ง การแสดงมันเป็นการปลดล็อกตรงนี้ออกมา ใช้ให้ถูกที่ถูกทางมากขึ้น
Q : ตัวละครที่รับบทในหนังมีอะไรเหมือนต่างกับเฌอปรางอย่างไรบ้าง
ครึ่ง ๆ มีประมาณ 60-70 เปอร์เซ็นต์ที่เหมือนเฌอ ความคล้ายกันคือ ความเป็นคนมุ่งมั่น จริงจัง ความที่ไม่ใช่เด็กเก่ง แต่ก็พยายามทำให้มันดีที่สุด ก็เป็นประมาณเดียวกัน เหมือนกันไหม ไม่เหมือนซะทีเดียว บางอย่างพายเป็นคนตรงกว่าเฌอ จะพูดยังไงดี คือพายชอบผู้ชายคนนี้ก็อยากจีบเขาก่อน ซึ่งเฌอไม่ใช่แบบนั้น สำหรับเฌอใช่คือใช่ ไม่ใช่คือไม่ใช่ เราจะไม่พูดประโยคแปลก ๆ แบบที่พายพูด อย่าง “ก็มินไม่เคยขอ” เฌอก็แบบ เอ้อออ ไม่… ฉันจะไม่พูดประโยคแบบนี้
Q : ถ้าเป็นเฌอปราง เจอคำถามที่พายเจอ จะตอบยังไง
ก็ไม่ใช่ เฌอก็จะพูดตรง ๆ ว่า อ๋อ ยังไม่เคยขอนะ จะขอเหรอ เฌออาจจะถามตรง ๆ แต่ว่าจะไม่ใช้ประโยคแบบ “ก็ไม่ใช่นิ จะเป็นได้ไงก็มินไม่เคยขอ” โน… ไม่อ่อยเบอร์นั้น เฌอรู้สึกขนลุกขนพองมาก ตอนที่พูดประโยคนั้น ให้ตายเถอะที่ต้องพูดประโยคแบบนี้ แต่ก็บอกตัวเองว่า นั่นคือพาย ไม่ใช่เฌอปราง ท่องอยู่อย่างนี้ ถ้าเป็นเฌอ ไม่ขอก็ไม่ขอ หรืออยากเป็นเหรอ ก็บอก บางทีเราจะพูดตรง ๆ ว่า ถ้าไม่ใช่แฟน แล้วอยากเป็นไหม ก็จะถามกลับเลยตรง ๆ แต่ไม่ใช่แบบ “ก็มินไม่เคยขอ” (ทำเสียงอ่อน) โน…
Q : ในการทำงานเราแย้งบ้างไหม ทั้งงาน BNK และหนัง
กับพี่โอ๋แล้วก็แย้งบ้าง เช่น แบบว่า พี่โอ๋หนูว่าพูดแบบนี้มันหนูไม่ถนัดปากเลย ขอปรับตรงนี้นิดหนึ่งได้ไหม ส่วน BNK แย้งตลอดเวลา แต่เป็นเรื่องเล็ก ๆ รายละเอียด เช่น อันนั้นยังไม่ได้นะคะ พี่ทำไมยังไม่พรินต์หน้านี้ ส่วนในการทำเพลงไม่ค่อยยุ่ง เพราะว่าหนูไม่เก่งในการร้องเพลง แต่ถ้าเรื่องการอยู่กับวง การคิดกิจกรรมอีเวนต์ก็ค่อนข้างมีความเห็น เช่น พี่คะ หนูว่าตรงนี้มันยังไม่ค่อยดี เมื่อไหร่เราจะได้รายละเอียดตรงนี้เพิ่ม หรือจะกระตุ้นน้อง ๆ ยังไง ก็มีการนำเสนออะไรหลายอย่าง
Q : ทำอะไรบ้างในฐานะกัปตัน
ส่วนใหญ่จะเป็นคนกลางรับหน้าสื่อ พูดโดยรวม พูดนำในคอนเสิร์ต คอยดีล คอยประสานงาน ดูภาพรวมว่าเราจะพัฒนาอะไรได้บ้าง เท่าที่เราทำได้
Q : ในหนังสารคดี Girls Don’t Cry ที่เราบอกว่า คนอยู่ข้างล่างก็ไม่เข้าใจความรู้สึกคนอยู่ข้างบน ความรู้สึกคนข้างบนเป็นยังไง
เขาไม่ได้มาเจอสื่อ เขาไม่ได้มานั่งทำทุกอย่างตลอดเวลา เขาไม่เข้าใจหนู หนูก็ไม่เข้าใจเขาเหมือนกัน มันไม่มีใครเข้าใจกันร้อยเปอร์เซ็นต์ มันเป็นเรื่องปกติ แค่เรานึกถึงใจเขาใจเรานิดหนึ่ง เฌอก็พอจะเห็นใจ พอจะนึกภาพออกว่ามันเป็นยังไง เขายิงคำถามที่ล้อขึ้นมาให้หนูพูดประโยคนั้นด้วยแหละ ที่มีคนพูดว่า “คนอยู่ข้างบนไม่เข้าใจความรู้สึกคนที่อยู่ข้างล่าง” มันก็เหมือนกัน เราแค่อยู่คนละมุมมองกันเฉย ๆ ไม่ได้มีประเด็นอะไรที่จะเจาะถึงใคร
Q : การเป็นกัปตันมันมีอะไรบ้างที่หนักหรือยากกว่าเมมเบอร์คนอื่น
มันไปสุดไม่ได้ เพราะหนูรู้สึกว่ากัปตันจะต้องคิดถึงวงมาก่อน การปฏิบัติตัวทุกอย่าง เราก็ต้องทำเพื่อวง ถ้าเฌอพลาด มันจะเหมือนพลาดทั้งวง ไม่รู้ว่าสำคัญตัวเองเยอะเกินไปหรือเปล่า แต่ว่าด้วยความที่อยู่ในสื่อ ภาพลักษณ์โดยรวม ถ้าคนเป็นหัวหน้าพลาด มันเหมือนทุกอย่างพลาดไปด้วย เพราะฉะนั้น ถ้าหนูปฏิบัติตัวดีไว้ก่อน มันน่าจะช่วยอะไรได้เยอะกว่า แต่หนูก็ไม่ได้บอกว่าหนูทำให้น้องหรือวงดูดีเพราะหนูนะ
Q : สนิทกับใครบ้างรึยังในวง จากที่เคยพูดว่าไม่ได้สนิทกับใคร เพราะเป็นกัปตัน
ไม่ได้สนิทกับใคร แต่ไม่เชิงว่าไม่ได้สนิทกับใครเพราะหนูเป็นกัปตันนะ คือหนูเป็นแบบนี้อยู่แล้ว ตั้งแต่เด็ก ก็ไม่ได้สนิทไม่ได้ติดเพื่อน ในวงเฌอก็เอ็นดูทุกคน ช่วยเหลือใครได้ เฌอก็ช่วย พอจะทำอะไรได้ เฌอก็ทำให้ เท่าที่ไม่เดือดร้อนเรา หรือไม่เดือดร้อนคนรอบตัวเรา ถามว่าสนิทมั้ย คำว่าสนิทคือยังไง สำหรับเฌอ เฌอปฏิบัติตัวกับน้องในวงแบบที่ปฏิบัติกับน้องชายเฌอเองแท้ ๆ
Q : เราปฏิบัติกับทุกคนได้เท่าเทียมกันไหม
ก็ไม่เชิง เฌอแค่รู้ว่าใครทำอะไรตรงไหน เท่าที่เราให้โอกาสใครได้ เราก็จะให้ ใครเหมาะสมตรงไหน เราก็พยายามนำเสนอชื่อ ถ้าเขาถามความเห็น เฌอก็มีรายชื่อในหัวว่าใครเหมาะจะทำอะไรตรงไหน เพราะเราอยากให้ออกมาดีที่สุดเหมือนกัน
Q : ประสบการณ์ที่เราได้ไปญี่ปุ่น ทั้งไปทำงานและไปตอนเลือกตั้งใหญ่ เป็นยังไงบ้าง
เลือกตั้งใหญ่มันใหญ่โตมาก มันเป็นงานระดับประเทศของเขา ตื่นตาตื่นใจและอะเมซิ่งกับมันมาก สุดยอดจริง ๆ คือหนูเคยเฝ้ามองมันมาตลอด แล้วพอได้ไปก็แบบ ว้าว มันสุดยอดมาก เมมเบอร์เยอะมาก การทำงานเบื้องหลังเขาละเอียดมาก ทุกอย่างถูกวางแผนมาอย่างดี เพื่อให้วันนั้นมันโฟลวที่สุด วันประกาศผลคือลุ้นมาก
สำหรับตัวเฌอก็ขอบคุณมาก ๆ ที่แฟน ๆ ส่งไปได้ขนาดนั้นค่ะ ดีใจมาก มันสูงมาก สูงกว่าที่คิดไว้เยอะเลย ติด 1 ใน 100 โห บ้าไปแล้ว เฌอก็ได้เรียนรู้การทำงาน ได้เข้าใจความรู้สึกเมมเบอร์มากขึ้น การเป็นเมมเบอร์ 48 Group มีการแข่งขันตลอดเวลา แต่เราก็ยังเป็นหมู่เป็นมวล เป็นกลุ่มก้อนที่จะอยู่ด้วยกัน จะพัฒนาไปด้วยกัน เราเป็นเหมือนโรงเรียน ที่มีคนที่โดดเด่นออกมาและมีคนที่เป็นเด็กธรรมดา แต่เราจะทำยังไงให้ทุกคนที่อยู่ในโรงเรียนมีความสุข อันนั้นคือสิ่งที่เรามอง
Q : หลังจากที่ลงสมัคร ก่อนที่จะถึงวันจริง เราต้องทำอะไรบ้าง
มีทีมงานญี่ปุ่นมาถ่ายโปสเตอร์และถ่ายวิดีโอเลือกตั้งที่ไทย เราต้องบอกเป้าหมายว่าเราจะทำอะไร เราอยากได้อันดับที่เท่าไหร่ เฌอก็เป็นห่วงเป็นแฟน ๆ นะ คือเราก็เคยเป็นแฟนคลับคนหนึ่ง เราเข้าใจความรู้สึกนี้ เราก็อยากสนับสนุนเขาเท่าที่ได้ แต่ตอนนั้นเฌอเป็นแฟนคลับที่ไม่มีกำลังทรัพย์ที่จะทำอะไรมาก เวลาพูดเรื่องพวกนี้ เฌอก็รู้สึกแบบ… (ซึ้ง เสียงสั่น น้ำตาคลอ) มันก็คือแฟนคลับจ่ายเงินให้เราไปได้โอกาสตรงนี้ ซึ่งมันเป็นล้าน เขามอบให้เราด้วยความรักจริง ๆ เฌอก็ขอบคุณที่เขามอบโอกาสให้เรา แล้วเราไม่อยากทำให้เขาผิดหวังในตัวเรา ก็ทำเท่าที่บริบทเราได้ ไม่ได้รู้สึกว่าจะต้องกดดัน ได้ก็ดี ก็เป็นความภูมิใจของแฟนคลับที่เขาช่วยส่ง ตื่นเต้นและดีใจมากที่ครั้งหนึ่งในชีวิต เรามีผู้คนสนับสนุนมากขนาดนั้น ว้าว… เป็นล้านจ้า ดีใจมาก รู้สึกปลื้มในแฟนคลับ รู้สึกว่าเขาเก่งจังเลย เขาร่วมแรงร่วมใจกันได้เบอร์นี้ สุดยอดมาก ขอบคุณมาก ๆ นะคะ
Q : ฟีดแบ็กที่ญี่ปุ่นเป็นยังไงบ้าง หลังจากนั้น
เมมเบอร์ทุกคนก็รู้จักเฌอ ด้วยความที่ทางนั้นเขาเลือกให้เป็นเซ็นเตอร์ของ WRD48 ได้เต้นเพลงคุกกี้อยู่ข้างหน้าเมมเบอร์บางคนที่เขาเป็นตำนานสำหรับเฌฮ ก็ตกใจมาก ถือว่า BNK48 ได้รับการยอมรับจากทางญี่ปุ่นพอสมควร ไปที่นู่นก็มีโอกาสได้ออกข่าว ออกหนังสือพิมพ์ ออกรายการโทรทัศน์ คือหน้าหนูออกหนังสือพิมพ์เท่ากับหน้าเขา …โอ้ว แม่เจ้า ไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้จะได้ทำอะไรแบบนี้
Q : อะไรที่เหนื่อยหรือหนักที่สุดตั้งแต่มาเป็น BNK48
เอาจริง ๆ รู้สึกเหนื่อยใจที่สุดเวลาโดนบอกว่า เราได้สิ่งนี้มาเพราะเราเป็นกัปตัน หรือเราได้สิ่งนี้มาเพราะว่าเขาดัน อันนี้จะรู้สึกแบบ… (ทำหน้าเหนื่อยใจ) ก็เขาเลือกเราแล้ว จะให้เราเอาโอกาสที่เป็นของเราไปให้คนอื่นเหรอ เราก็อยากถามกลับไปเหมือนกัน ก็เขาเลือกให้เราทำอ่ะ เวลาที่โดนพูดอะไรประมาณนี้ หรือประมาณว่าเมมเบอร์ไม่พอใจเรา ก็จะรู้สึกว่าแบบ… จะให้เราทำยังไงเหรอ จะให้เราเอาโอกาสของเราไปให้คุณ แล้วถ้าเราให้ เขาจะเลือกคุณหรือเปล่า อันนี้ก็ไม่รู้ ก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน ก็ได้แต่ส่งเสริมทุกคนเท่าที่เราทำได้ อย่างเรื่องงานแสดง โอกาสอย่างนี้ได้มาแล้วจะให้คนอื่นยังไงอ่ะ ถามจริงเหอะ
แต่หนูก็เข้าใจว่ามันก็มีแหละ ความอิจฉาความอะไร มันก็เป็นสัจธรรม เป็นธรรมชาติของมนุษย์ เป็นธรรมชาติการเลือกสรรนะคะ ถ้าจะพูดตรง ๆ มันเป็นธรรมชาติ ไม่งั้นจะมีคนที่อยู่รอด หรือคนที่ไม่รอดได้ยังไง มันต้องมีทั้งสองอย่างอยู่แล้ว แต่เฌอก็ต้องขอบคุณที่เขายังอยู่กับวง ยังฟอลโลว์สิ่งที่เฌอพูดอยู่บ้างเวลาเรียกรวม ไม่ได้คิดว่าสิ่งที่เฌอทำมันไม่ดีแล้วต่อต้านออกมาอย่างเด่นชัด
Q : อนาคตเราที่เคยตั้งเป้าไว้ว่าอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ ตอนนี้ยังอยากเป็นอยู่ไหม
ตอนนี้ก็ยังอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ แต่ตอนนี้เริ่มเบนเข็มแล้ว พอเรามาทำตรงนี้ด้วย เรียนวิทยาศาสตร์ด้วย เราก็อยากทำอะไรที่ส่งเสริมทั้งสองอย่างไปด้วยกัน ใช้ชื่อเสียงเท่าที่เราพอจะทำได้ส่งเสริมสิ่งที่เราชอบด้วย เช่น ทำให้คนสนใจวิทยาศาสตร์มากขึ้น หรือทำให้คนรู้ว่าวิทยาศาสตร์มันไม่ยาก และไม่ต้องเก่งมากที่สุด เพราะเฌอก็ไม่ใช่คนที่เก่งที่สุด แต่เฌอช่างสงสัย และเฌอใช้ความพยายามกับมันมาก
Q : เป้าหมายสูงสุดในสายวิทยาศาสตร์และสายบันเทิงของเฌอคืออะไร
เป้าหมายสูงสุดในสายวิทยาศาสตร์ คือ ได้จบปริญญาเอก ซึ่งทำได้หรือไม่ได้ก็ไม่รู้นะ แต่พยายามจะทำ ส่วนเป้าหมายในทางบันเทิง ตอนแรกตั้งเป้าว่าหลังจากจบ BNK48 ก็จะไม่อยู่แล้ว แต่หลังจากนี้ขอดูก่อน ถ้ามีก็อยากทำ
เอาจริง ๆ เฌอไม่เคยคิดว่าตัวเองจะเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นได้มากขนาดที่เข้ามาเป็น BNK48 เฌอรู้สึกว่าการได้ทำตรงนี้มันเป็นประโยชน์ ก็อยากมีผลงานให้เขาติดตามและเป็นแรงบันดาลใจว่า เราก็ไม่ยอมแพ้เหมือนกัน เราก็จะพยายามในทุก ๆ สิ่งที่เราทำได้ เท่าที่โอกาสเข้ามา เราก็อยากให้ทุกคนทำให้ดีที่สุด พยายามใช้โอกาสให้เต็มที่ที่สุดเท่าที่สังขารเราจะไหว ไม่อยากให้ทุกคนเสียดายเวลา หรือเสียดายโอกาสที่ตัวเองได้เกิดมา จะวิชาไหนฝั่งไหนก็ได้แล้วแต่ ทำสิ่งที่ตัวเองชอบ อย่างเฌอ เฌอเข้ามา BNK เพราะเฌอชอบมัน แล้วพอมันต่อยอดได้หลายอย่าง มันทำให้เฌอ explore อะไรหลายอย่างในชีวิต และยิ่งมันส่งเสริมสิ่งที่เฌอชอบมาก่อนหน้านี้ได้ ก็ยิ่งแฮปปี้ที่จะทำไปเรื่อย ๆ ยิ่งเห็นว่ามันดีกับเขา เป็นแรงบันดาลใจให้เขา มันก็ยิ่งดีที่จะให้เขาหยิบส่วนนี้ของเราไปเป็นแรงบันดาลใจ ส่วนอะไรที่ไม่ดีก็ไม่ต้องเอาไปนะคะ