ชื่นใจ ณ คาซัคสถาน มนต์เสน่ห์เล็ก ๆ ที่ซ่อนอยู่รอบตัว

ทันทีได้ยินชื่อ สาธารณรัฐคาซัคสถาน เรียกว่า ไม่มีภาพจินตนาการเกี่ยวกับประเทศนี้แม้แต่น้อย

เท่าที่หาข้อมูลจากกูเกิลก็แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับประเทศนี้คร่าว ๆ เพียงว่า เคยเป็นหนึ่งในสาธารณรัฐของสหภาพโซเวียต และประกาศเอกราชจากสหภาพโซเวียตเมื่อปี 1991 พร้อมเข้าร่วมกับกลุ่มเครือรัฐเอกราชในการด้านปกครองเป็นสาธารณรัฐ ประธานาธิบดี โดยมีนายนูร์สุลต่าน นาซาร์บาเยฟ เป็นประธานาธิบดีคนแรกและยังดำรงตำแหน่งถึงปัจจุบัน ส่วนลักษณะทางภูมิศาสตร์นั้นมีพรมแดนติดกับรัสเซียและสาธารณรัฐประชาชนจีน ไม่มีทางออกทางทะเล มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 9 ของโลก แต่มีประชากรเพียง 17 ล้านคนเท่านั้น

เมื่อการเดินทางเริ่มต้นขึ้น บินตรงจากกรุงเทพฯถึงกรุงอัสตานา เมืองหลวงใหม่ของคาซัคสถาน ด้วยระยะเวลาการเดินทางประมาณ 7 ชั่วโมง ทันทีที่เครื่องบินลงจอด ก็สัมผัสกับท่าอากาศยานกรุงอัสตานาที่ใหม่มาก เพราะเพิ่งเปิดให้ใช้ได้ไม่นาน สัมผัสจากกลิ่นสีที่ยังคละคลุ้งทั่วสนามบินสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลต์ อันดับต้น ๆ ของเมืองนี้ที่บรรดานักท่องเที่ยวต้องไปสัมผัสที่แรก ๆ คือ หอคอยไบเทเร็ก (Bayterek Tower) ที่มีความสูง 97 เมตร ตัวเลข 97 แทนปี ค.ศ.1997 ซึ่งเป็นปีแห่งการสถาปนากรุงอัสตานาเป็นเมืองหลวงใหม่ ภายในลูกทรงกลมด้านบนมีแท่นสามเหลี่ยมทองคำที่พิมพ์ฝ่ามือของประธานาธิบดีนา ซาร์บาเยฟ ซึ่งคนท้องถิ่นเชื่อว่าหากนำมือวางทาบไปบนฝ่ามือของผู้นำท่านนี้แล้วอธิษฐานจะทำให้สมหวัง จึงไม่แปลกที่มีคนต่อคิวยาวทีเดียว

อีกไฮไลต์คือ อนุสาวรีย์อีไลคาซัคสถาน (Kazakh Eli Monument) มีความสูง 91 เมตร เป็นสัญลักษณ์แสดงความเป็นเอกราชของชาวคาซัคสถานในปี 1991

สถานที่ต่อมาคือ อาคารพีระมิดสันติภาพ ที่มีความสูง 62 เมตร ออกแบบโดย เซอร์นอร์แมน ฟอสเตอร์ (Sir Norman Foster) สถาปนิกชื่อดังชาวอังกฤษ โดยฐานมีขนาด 62 X 62 ตารางเมตร แสดงถึงศูนย์กลางของศาสนาทุกศาสนา ซึ่งที่นี่เป็นที่จัดประชุมสมัชชาของศาสนาโลกทุก 3 ปี

ต่อด้วย มัสยิดฮัซเร็ตสุลต่าน กลางกรุงอัสตานา รองรับคนได้ถึง 5,000 คน ถือเป็นศูนย์กลางของศาสนาอิสลาม ตามด้วยอีกไฮไลต์ที่ขาดไม่ได้คือ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ที่รวบรวมแหล่งข้อมูลประวัติศาสตร์ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันของชาวคาซัคสถาน ภายในมีการจัดแสดงโบราณคดีของประเทศมากมาย โดยเฉพาะแบบจำลองมนุษย์ทองคำแท้

หลังจากชมสถานที่สำคัญ ๆ แล้ว ลองเดินดูตลาดท้องถิ่น สัมผัสวิถีชีวิต ศิลปวัฒนธรรม และไลฟ์สไตล์ของชาวคาซัคสถานบ้าง เริ่มที่ตลาดEvrazia ท้องถิ่น ตลาดนี้แบ่ง 3 ชั้น ชั้น 1 คล้ายตลาดสดของไทย มีผลไม้สด ผักสด หลากสีจัดวางเรียงรายให้เลือกซื้อ ใครที่ชอบถั่วและผลไม้แห้ง ห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะผลไม้แห้งที่นี่ทั้งถูกและรสชาติดี ส่วนชั้นอื่น ๆ ขายของแห้ง สินค้าที่ระลึก ไปจนถึงเครื่องสำอาง เสื้อผ้า กระเป๋า

ตามด้วยการล่องเรือชมทัศนียภาพรอบเมืองอัสตานา ซึ่งใช้เวลาประมาณ 45 นาที หลังจากนั้นก็เดินสัมผัสบรรยากาศริมน้ำ ซึ่งรายรอบด้วยตลาดพื้นเมืองเล็ก ๆ คล้ายกับตลาดนัดของไทย จำหน่ายสินค้าแฮนด์เมด ทั้งจาน ชาม เครื่องประดับต่าง ๆ ในเวลายามเย็นของประเทศนี้ มีผู้คนออกมาเดินเล่นหนาตา เพราะเป็นประเทศที่มีฤดูร้อนช่วงเวลาสั้น ๆ แค่ 4 เดือน ระหว่างเดือนมิถุนายนถึงเดือนกันยายนเท่านั้น ดวงอาทิตย์จะตกประมาณ 22.00 น. ผู้คนส่วนใหญ่จึงชอบใช้ชีวิตอยู่นอกบ้านและออกมาใช้พื้นที่สาธารณะสำหรับการ ทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกับครอบครัว

นอกจากนี้ สิ่งที่สัมผัสได้คือ ประชากรคาซัคสถานส่วนใหญ่ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ภูมิใจในชนชาติและประเทศของตัวเองค่อนข้างสูง สะท้อนจากการแต่งชุดประจำชาติออกมาเดินตามสถานที่ต่าง ๆ ทั่วกรุงอัสตานา

ส่วนเรื่องความเจริญของประเทศนี้ยังกระจุกตัวอยู่เฉพาะเมืองหลัก ๆ เท่านั้น เพราะหากนั่งรถออกไปจากกรุงอัสตานาจะเห็นว่าประชากรส่วนใหญ่ยังมีวิถีชีวิต แบบเดิม เช่น ยังเลี้ยงม้า หรือใช้ม้าเป็นพาหนะอยู่

ปิดท้ายทริปด้วยการช็อปปิ้งในห้างสรรพสินค้า ข่าน ชาเทียร์ (Khan Shatyr) ศูนย์รวมความบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดในคาซัคสถาน ซึ่งชื่อของห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ แปลว่า เต็นท์ของข่าน หากมองจากรูปลักษณ์ภายนอกแทบไม่เชื่อว่านี่คือห้างสรรพสินค้า เพราะออกแบบเหมือนเต็นท์ของท่านข่านในยุคโบราณ ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของชาวคาซัคสถาน เป็นชนเผ่าเร่ร่อนในทะเลทรายมาก่อน

ภายในห้างปรับอุณหภูมิให้คงที่ อุ่นสบายตลอดทั้งปี แม้เป็นฤดูหนาวที่ข้างนอกหนาวถึงขั้นติดลบ 40-50 องศาเซลเซียส โดยผนังทำจากวัสดุพิเศษสามารถป้องกันอากาศหนาวจากภายนอกได้ เป็นวัสดุโปร่งแสงเพื่อให้แสงแดดส่องทะลุเข้ามาให้ความสว่างภายในได้

หากใครได้ไปเยือนประเทศนี้ อย่าแปลกใจถ้าจะมีบรรดาเด็ก ๆ และผู้ใหญ่ขอเข้ามาถ่ายรูปเซลฟีด้วย เรียกว่าต่อคิวยาว เหมือนเราเป็นซุปตาร์ทีเดียว เนื่องจากประเทศนี้ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวสักเท่าไร คนท้องถิ่นจึงขอเซลฟีเป็นที่ระลึก


เรียกว่า ทุกมุม ทุกเรื่องราวของที่นี่ มีเสน่ห์เล็ก ๆ ซ่อนอยู่รอบ ๆ ตัวให้ได้ยิ้มชื่นใจกลับมา