ในหลวงเสด็จเยาวราช ชาวไทยเชื้อสายจีนปีติซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ

“ชาวจีนตั้งแต่สมัยโบราณกาลได้อพยพมายังประเทศไทย และได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ที่ทรงเปิดโอกาสให้พวกเขาได้ทำมาค้าขายและอยู่ในประเทศนี้อย่างร่มเย็นเป็นสุข” ถ้อยความข้างต้นกล่าวโดยนายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี ประธานกรรมการหอการค้าไทย-จีน ทั้งยังเป็นประธานกรรมการจัดงาน ผู้ริเริ่มการจัดนิทรรศการ “ใต้ร่มพระบารมีสดุดีมหาจักรีวงศ์” ที่จะมีขึ้นในวันศุกร์ที่ 6 ธันวาคม 2562 ร่วมกับสมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย และชาวไทยเชื้อสายจีนอีกกว่าร้อยองค์กร เนื่องในโอกาสปีแห่งพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีทุกพระองค์ที่ทรงมีต่อชาวจีนมาโดยตลอด


ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว จะเสด็จฯพร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ไปยังพื้นที่ตั้งชุมชนคนไทยเชื้อสายจีน เพื่อทรงเปิดนิทรรศการดังกล่าวและทรงเยี่ยมเยียนราษฎรชาวไทยเชื้อสายจีนที่มาเฝ้าฯรับเสด็จตลอด 2 ข้างทาง ถนนเยาวราช ถนนราชวงศ์ ถนนเจริญกรุง ถนนพระรามที่ 4 และถนนมิตรภาพไทย-จีน

“ดีไลฟ์-ประชาชาติธุรกิจ” ได้ลงพื้นที่เพื่อสังเกตการณ์การเตรียมความพร้อม และพูดคุยสอบถามความรู้สึกของคนไทยเชื้อสายจีนในพื้นที่ ซึ่งในการลงพื้นที่ครั้งนี้ได้เห็นว่ามีเหล่าจิตอาสาของพระราชา ร่วมกับกรุงเทพมหานคร พร้อมใจกันเก็บกวาดถนน ขุดลอกท่อระบายน้ำ ปรับภูมิทัศน์ตกแต่งบริเวณโดยรอบ และขึ้นป้ายเฉลิมพระเกียรติตามเส้นถนนเยาวราชกันอย่างแข็งขัน

นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี ประธานกรรมการจัดงานครั้งนี้ เล่าความรู้สึกว่า “ผมรู้สึกปลาบปลื้มใจเป็นอย่างมาก เพราะการเสด็จฯมาของพระองค์ท่านในครั้งนี้นับเป็นประวัติศาสตร์ครั้งแรกในรอบ 70 ปี ที่พระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรไทยได้เสด็จฯมาเยี่ยมเยียนชาวไทยเชื้อสายจีน ครั้งสุดท้ายที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เสด็จฯมาในฐานะพระอนุชาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 8”

ถึงแม้ว่าในตอนที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เสด็จฯมาในฐานะพระอนุชาของรัชกาลที่ 8 นั้น จิตติยังเด็กมาก แต่ทั้งครอบครัวรวมถึงตัวเขาเองล้วนสัมผัสได้ถึงความรักความห่วงใยที่พระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ทรงมีต่อชาวไทยเชื้อสายจีน ไม่ต่างจากชาวไทยแท้เลย

นอกจากนั้น จิตติยังเล่าถึงความประทับใจที่มีต่อองค์พระมหากษัตริย์ รัชกาลที่10 ในช่วงการเตรียมกิจกรรมที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ว่า พระองค์ทรงกำชับให้ไม่มีการวางแผงกั้นใด ๆ ตลอดทั้งเส้นถนนเยาวราช เพราะมีความตั้งพระทัยที่จะได้ใกล้ชิดกับประชาชนของพระองค์อย่างมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

นอกจากบริเวณซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ (วงเวียนโอเดียน) ที่เป็นพื้นที่หลักในการจัดงานนิทรรศการแล้ว มูลนิธิเทียนฟ้าก็เป็นอีกสถานที่สำคัญในการที่พระองค์จะได้เสด็จฯมาสักการะเจ้าแม่กวนอิมผู้เป็นหนึ่งในที่พึ่งทางใจของชาวไทยเชื้อสายจีนทั่วทุกสารทิศ

นายชาญวิทย์ หิรัญอัศว์ ประธานกรรมการมูลนิธิเทียนฟ้าแสดงความรู้สึกว่า “ผมรู้สึกซาบซึ้งและดีใจ เพราะในชีวิตหนึ่ง ผมอาจจะมีโอกาสได้เข้าเฝ้าฯพระองค์ท่านแค่ครั้งเดียว”

ความผูกพันระหว่างราชวงศ์จักรี กับมูลนิธิเทียนฟ้ามีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ดังที่ชาญวิทย์เล่าว่า สมัยก่อนคนจีนที่อพยพมายังประเทศไทยมีจำนวนมาก ส่วนมากมาทำงานเป็นกุลี จับกัง แบกหาม เวลาป่วยไข้ไม่สบายก็ไม่มีที่จะรักษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงเห็นพระทัย จึงรับสั่งให้สร้างโรงพยาบาลเทียนฟ้าขึ้นมา และยังทรงมอบเงินให้ประมาณ 80 ชั่ง ซึ่งเป็นจำนวนเงินมหาศาลในสมัยนั้น

“ทุกคนที่มูลนิธิตื่นเต้นดีใจมากที่จะมีโอกาสได้เข้าเฝ้าฯพระองค์” ประธานกรรมการมูลนิธิเทียนฟ้ากล่าวทิ้งท้าย

นอกจากพูดคุยกับประธานกรรมการจัดงานนิทรรศการและประธานกรรมการมูลนิธิเทียนฟ้าแล้ว เรายังมีโอกาสได้พูดคุยกับคนในพื้นที่ ซึ่งล้วนแต่มีความพร้อมในการเฝ้าฯรับเสด็จกันอย่างเต็มเปี่ยม

นางสาวพัชรา โลหัชวาณิชย์ แห่งร้าน “ดีบุกเซ่งง้วน” ถนนเจริญกรุง ผู้อยู่อาศัยแถวนี้มาอย่างยาวนาน เล่าว่า เธออยู่ที่นี่มานานกว่า 60 ปี นี่เป็นครั้งแรกที่จะได้มีโอกาสเฝ้าฯรับเสด็จพระมหากษัตริย์ ก่อนหน้านี้ เธอมีโอกาสได้เฝ้าฯรับเสด็จ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เป็นประจำทุกปี ซึ่งเธอรู้สึกปลื้มปีติทุกครั้งในการรอรับเสด็จทุกพระองค์

“พวกเราชาวบ้านก็ต้องดีใจที่จะมีโอกาสได้เห็นพระมหากษัตริย์อย่างใกล้ชิดขนาดนี้ถือว่าเป็นบุญวาสนา” เธอกล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้มต่อการเสด็จฯมาของพระมหากษัตริย์ในครั้งนี้

ร้าน “รังนกใต้เยาวราช” ตรงหัวมุมถนนผดุงด้าว นับเป็นอีกร้านหนึ่งที่อยู่ในพื้นที่เยาวราชมาอย่างยาวนาน นายบุญถิ่น เจษฎาวณิชย์ ผู้ดูแลกิจการต่อจากคุณพ่อเขาเล่าให้ฟังว่า เมื่อราว 60 ปีที่แล้ว คุณพ่อของเขามีโอกาสได้ไปออกร้านที่งานหนึ่ง ณ สวนอัมพร และท่านภูมิใจมากที่ครั้งหนึ่งในชีวิตได้มีโอกาสทูลเกล้าฯถวายรังนกแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9

นายบุญถิ่นยังเล่าประสบการณ์ที่เคยได้เฝ้าฯรับเสด็จในครั้งก่อน และความรู้สึกในครั้งนี้ด้วยรอยยิ้มว่า “ผมเคยมีโอกาสได้เห็นพระองค์ท่านทรงปั่นจักรยานผ่านมาในโครงการ ‘Bike for Dad’ เมื่อสักปีสองปีที่แล้ว แต่ตอนนั้นมีคนมาเฝ้าฯรับเสด็จเยอะมาก จึงมีโอกาสได้เห็นพระพักตร์ของพระองค์ท่านเพียงแว้บเดียวเท่านั้น ในปีนี้ผมดีใจมากที่พระองค์จะเสด็จฯมาเยี่ยมเยียนพวกเราอย่างเป็นทางการ”

จากที่ได้พูดคุยกับผู้คนในพื้นที่ถึงความทรงจำของพวกเขาที่มีต่อราชวงศ์ในการเสด็จฯมาเยี่ยมเยียน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นภาพการเสด็จฯของ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ในการเปิดงานเทศกาลตรุษจีน ที่พระองค์ทรงกระทำมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี หรือเหตุการณ์เมื่อราว 7 ปีที่แล้วที่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้เสด็จฯมาเยาวราชเนื่องในโอกาสวันตรุษจีน เช่นเดียวกัน

ทั้ง 2 เหตุการณ์เป็นภาพจำที่ชาวเยาวราชมีความทรงจำอันน่าประทับใจต่อราชวงศ์ และในครั้งนี้ การที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 จะเสด็จฯมาเยี่ยมเยียนราษฎร ณ บริเวณดังกล่าวอย่างเป็นทางการ นับเป็นการเพิ่มความทรงจำที่ดีสำหรับชาวเยาวราชและยังช่วยกระชับความสัมพันธ์ที่มีต่อชาวไทยเชื้อสายจีน และผู้ที่อยู่อาศัยในบริเวณเยาวราชได้อย่างแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

สำหรับรายละเอียดการเสด็จเยือนเยาวราชและชุมชนชาวไทยเชื้อสายจีน ในวันที่ 6 ธันวาคมนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมราชินี จะเสด็จฯทรงเปิดงานนิทรรศการ “ใต้ร่มพระบารมี สดุดีมหาจักรีวงศ์” ในเวลา 17.00 น. โดยมีจุดหมายหลักที่จะเสด็จเยือน 4 จุด ได้แก่

จุดหมายที่ 1 : วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร

จุดหมายที่ 2 : ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา (วงเวียนโอเดียน)

จุดหมายที่ 3 : มูลนิธิเทียนฟ้า

จุดหมายที่ 4 : วัดมังกรกมลาวาส (วัดเล่งเน่ยยี่)

ส่วนกิจกรรมหลักภายในงานจะมี 4 ส่วน ได้แก่

ส่วนที่ 1 : นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจบูรพกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี ที่ทรงให้ชาวจีนได้พึ่งใต้ร่มพระบารมีแผ่นดินสยาม เล่าเรื่องราวผ่านการฉายภาพเสมือนจริงบนจอแอลอีดีรูปแบบอุโมงค์ ความยาวเรื่องประมาณ 5 นาที กำกับโดยผู้กำกับชื่อดัง ปรัชญา ปิ่นแก้ว ซึ่งภาพยนตร์ชุดนี้จะเป็นการเล่าเรื่องราวการเปลี่ยนแปลงและความเชื่อมโยงของพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ในราชวงศ์จักรีกับชาวไทยเชื้อสายจีน เป็นเรื่องราวของความสัมพันธ์และความเป็นมาก่อนที่จะมาเป็นสำเพ็งและเยาวราชอย่างในทุกวันนี้

ในงานแถลงข่าวการจัดนิทรรศการ ปรัชญาได้แสดงความรู้สึกพร้อมกับให้ข้อมูลนิทรรศการว่า “งานนี้เป็นงานที่ผมได้รับเกียรติเป็นอย่างสูง และเป็นงานที่แตกต่างจากที่ผมเคยทำมา เพราะเป็นการเล่าเรื่องราวผ่านมุมมองของอุโมงค์จอโค้งขนาดใหญ่ที่มีความกว้างประมาณ 9 เมตร ยาว 20 เมตร และมีความสูง 4 เมตร”

ส่วนที่ 2 : นิทรรศการพระราชกรณียกิจในรัชกาลที่ 10 นานัปการซึ่งผูกมิตรสัมพันธ์กับชาวจีนมาโดยตลอด

ส่วนที่ 3 : ขบวนพาเหรดการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย-จีน การแสดงคณะมังกร คณะสิงโต จากสมาคมวูซูแห่งประเทศไทย และขบวนเฉลิมพระเกียรติจากองค์กรชาวไทย-จีน

ส่วนที่ 4 : หลังจากพิธีการ จะมีกิจกรรม “เยาวราชสตรีตฟู้ดส์” เป็นการรวบรวมร้านอาหารอร่อยขึ้นชื่อทั้งในกรุงเทพฯและบนถนนเยาวราช มาให้บริการประชาชนที่เดินทางเข้าเที่ยวชมงานนิทรรศการ

ทั้งนี้กิจกรรมในส่วนที่ 1 และส่วนที่ 2 จะยังคงดำเนินต่อไปในวันเสาร์และวันอาทิตย์ที่ 7-8 ธันวาคม 2562 เวลา 10.00 น. ถึง 22.00 น. เพื่อให้ประชาชนทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวได้เที่ยวชมโซนนิทรรศการ ณ บริเวณซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯถึงแยกเฉลิมบุรี

พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงความพร้อมการจัดงานว่า ทั้งในส่วนงานถวายความปลอดภัยและงานอำนวยความสะดวกและการจราจรนั้น ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้เตรียมความพร้อม เตรียมแผนการปฏิบัติ และจัดการกำลังพลในการถวายความปลอดภัยและอำนวยการจราจรไว้เรียบร้อยแล้ว หากประชาชนต้องการสอบถามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 1197 ตลอด 24 ชม. หรือติดตามทางเว็บไซต์ trafficpolice.go.th และแอปพลิเคชั่น M-Help Me เพื่อรับข้อมูลเกี่ยวกับการปิดเส้นทางการจราจรตามถนนทั้ง 5 สาย รวมถึงคำแนะนำทางเลี่ยงเพื่อความสะดวกในการเดินทาง


สำหรับประชาชนที่จะเฝ้าฯรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และชื่นชมพระบารมีอย่างใกล้ชิด ให้สวมใส่เสื้อสีเหลืองเฝ้าฯรับเสด็จได้ ณ บริเวณซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา และบริเวณ 2 ข้างถนนเยาวราช (วงเวียนโอเดียน-สี่แยกราชวงศ์), ถนนราชวงศ์ (สี่แยกราชวงศ์-สี่แยกเสือป่า), ถนนเจริญกรุง (สี่แยกเสือป่า-ตัดถนนข้าวหลาม), ถนนพระรามที่ 4 (แยกหมอมี-แยกหัวลำโพง) และถนนมิตรภาพไทย-จีน ในวันศุกร์ที่ 6 ธันวาคม 2562 ตั้งแต่เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป และสามารถรับชมการถ่ายทอดสดในช่วงพิธีการผ่านทางสถานีโทรทัศน์ NBT ได้ตั้งแต่เวลา 17.00 น.