ผ้ามัดย้อมลานสกา ภูมิปัญญาไทยบนเวทีโลก by คิง เพาเวอร์

พัฒนพันธุ์ วงษ์พันธุ์ : เรื่อง

พูดกันถึงภูมิปัญญาที่สั่งสม รุ่นสู่รุ่น ส่งต่อกันมา คนไทยไม่น่าเป็นรองชาติใด ๆ boxing day วันแกะกล่องของขวัญของชาวคริสต์ ซึ่งตรงกับวันที่ 26 ธันวาคมของทุกปี นอกจากมอบของขวัญให้กัน คนอังกฤษจะแห่แหนกันไปเชียร์ทีมฟุตบอลทีมโปรดฟาดแข้ง ปีนี้แมตช์แข่งขันที่ทุกคนเฝ้ารอคอยใน boxing day คือ เลสเตอร์ซิตี้กับลิเวอร์พูล ทั้ง 2 ทีมมีแฟนฟุตบอลชาวไทยเหนียวแน่นทั้งคู่

เลสเตอร์ฯ อดีตแชมป์พรีเมียร์ลีก เจ้าของคือ “คิง เพาเวอร์” ส่วนลิเวอร์พูลคือหนึ่งในทีมขวัญใจคนไทย ผลแพ้-ชนะฟุตบอลคู่นี้ยังมีความสำคัญมีผลต่อการแย่งตำแหน่งแชมป์ แม้สุดท้ายจะเป็นฝ่ายหลังที่เฮลั่น

 

สำหรับคนไทย ไฮไลต์คืนนั้นไม่ได้อยู่เพียงผลแข่งขัน แต่น่าจะเป็นภาพนักฟุตบอลเลสเตอร์ฯ ลงสู่สนามด้วยชุดวอร์มที่เป็นผลผลิตของภูมิปัญญาไทย

ภาพที่ว่าถูกถ่ายทอดสดสู่สายตาแฟนฟุตบอลไปทั่วโลก

เสื้อวอร์มที่นักเตะเลสเตอร์ฯสวมใส่เป็นรุ่นพิเศษ เป็นการ collaborate ด้วยเทคนิคการย้อมสี ระหว่างสีเหลืองทอง (ท่อนล่างของตัวเสื้อ) โดยชุมชนคีรีวง อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช เสมือนตัวแทนภาคใต้ และสีฟ้าคราม (ท่อนบน) จากฝีมือชุมชนตะเคียนปม อ.ทุ่งหัวช้าง จ.ลำพูน ในฐานะตัวแทนภาคเหนือ

ตัวเสื้อปักโลโก้สโมสรบริเวณหน้าอก ปักธงชาติไทยที่แขนซ้าย ธงชาติอังกฤษที่แขนขวา และผลิตออกมาไม่กี่สิบตัวเท่านั้น

คิง เพาเวอร์ มีเจตนาชัดเจน ต้องการอวดผลงานชิ้นนี้สู่ชาวโลก นำพาความเป็นไทยไปสู่สากลตามเป้าหมายที่กลุ่มบริษัทตั้งไว้

ต้องไม่ลืมว่าวันนี้พรีเมียร์ลีกอังกฤษคือ การแข่งขันฟุตบอลที่มีผู้ติดตามทั่วโลกจำนวนมหาศาล หลายร้อยล้านคน

ก่อนการแข่งขัน ค่ำคืนนั้น คิง เพาเวอร์ ได้เปิดตัวสินค้าคอลเล็กชั่นใหม่ฝีมือคนไทยอย่างเป็นทางการ หยิบยกการสนับสนุนสินค้าไทยที่ใช้สีธรรมชาติเป็นสื่อกลาง กระตุ้นให้เกิดการฉุกคิดเรื่องของสิ่งแวดล้อม ลด ละ การทำลายธรรมชาติ ที่ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจ

“เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน และเป็นคอลเล็กชั่นที่ 4 ที่เราได้นำสินค้าชุมชนของไทยมาอวดสายตาชาวโลกอีกครั้ง”

“เราตั้งใจผลิตคอลเล็กชั่นพิเศษจากฝีมือคนไทยทุกปี หมุนเวียนเปลี่ยนชุมชนไปตามภาคต่าง ๆ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ดีไซน์ใหม่ ๆ โดยเข้าไปสนับสนุนชาวบ้านในเรื่องของการผลิต ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ช่วยกันคิด ออกแบบ พัฒนาสินค้าให้ตรงใจผู้บริโภค และตอบโจทย์กับตลาดต่างประเทศ เพื่อสานต่อเจตนารมณ์ในการช่วยเหลือชุมชนให้สามารถสร้างอาชีพได้อย่างยั่งยืนจากความถนัดของตัวเอง” ต๊อบ-อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ และประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้ เล่าถึงที่มาด้วยเสียงทุ้มนุ่ม

ย้อนไปสามปีก่อน คอลเล็กชั่นแรกคือ “ผ้าคราม” จากสกลนคร ต่อมาคือ “จก” จากแม่แจ่ม เชียงใหม่ ส่วนคอลเล็กชั่นที่แล้วคือ การย้อมผ้าพื้นเมืองของลำพูน

และล่าสุดคอลเล็กชั่นที่ 4 คือ From Leaves to Lively Thai Dye Collection ความร่วมมือระหว่างกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ และชุมชนบ้านคีรีวง อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช ภายใต้โครงการกิจกรรมเพื่อสังคม “คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย” ภายใต้แนวคิด enchanted wonderland หรือมนต์เสน่ห์แห่งดินแดนมหัศจรรย์ เพื่อเชิดชูภูมิปัญญา และคุณค่าทางวัฒนธรรมของผ้ามัดย้อมธรรมชาติ ที่เลือกใช้วัสดุในการย้อมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของทางภาคใต้

ทีมงานคิง เพาเวอร์ อธิบายเพิ่มเติมว่า สินค้าในคอลเล็กชั่นที่เปิดตัวออกมานั้นได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ของภาคใต้ ตัดเย็บจากผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นผ้าผืน และเสื้อผ้าสำเร็จรูป โดยใช้เทคนิคการมัด หรือพับด้วยวัสดุที่มีความทนทาน อย่างเช่น แผ่นไม้ ก้อนหิน แล้วมัดด้วยเชือกฟาง เชือกกล้วย หรือหนังยางให้แน่น เพื่อกันสีซึมผ่าน หลังจากนั้น จึงนำไปย้อมสีธรรมชาติตามต้องการ ออกมาเป็น 4 สีหลัก สีสันที่ออกมายังสะท้อนถึงภูมิปัญญาไทยจริง ๆ

“คีรีวงเป็นพื้นที่ชาวบ้านเห็นคุณค่าของทรัพยากรธรรมชาติที่อยู่ในพื้นที่นั้น ๆ มีภูมิปัญญาการยอมผ้าแบบชาวบ้านอยู่โดยใช้วัสดุท้องถิ่นจริง ๆ”

ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมน้ำด่าง น้ำย้อมสี การฟอกผ้า การทำลวดลาย ซึ่งเสื้อแต่ละตัว หรือโปรดักต์แต่ละชิ้นจะออกมามีลายไม่เหมือนกัน ดูแล้วไม่เปอร์เฟ็กต์ แต่ในความไม่เปอร์เฟ็กต์ของมันจะมีเอกลักษณ์ซึ่งไม่เหมือนตัวอื่น ๆ มีความงดงามของมันเอง การไล่โทนสีของส่วนต่าง ๆ ของผ้าที่แตกต่างกัน และสวยงามแปลกตา

ใครจะนึกบ้างว่าเราสามารถย้อมผ้าให้เป็นสีเทาอมน้ำเงินโดยใช้น้ำจากใบคราม

สีส้มอมชมพูจากใบมังคุด แทนที่จะเป็นสีม่วงอย่างที่เราเข้าใจกัน

หรือสีเหลืองจากใบหูกวาง ที่เป็นเหลืองเอิร์ทโทน

เช่นเดียวกับฝักสะตอที่ทำให้ผ้ากลายเป็นสีน้ำตาลอ่อน

ต่างจากคอลเล็กชั่นก่อน ๆ ที่ออกไปทางสีฟ้า น้ำเงิน หรือคราม แต่ครั้งนี้จะออกแนวเอิร์ทโทน มีความเป็นยูนิเวอร์แซล และโมเดิร์น สามารถนำไปมิกซ์แอนด์แมตช์ กับการแต่งกายในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว ที่สำคัญสวมใส่ได้ทั้งผู้หญิงผู้ชาย

ผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติสไตล์โมเดิร์น สีสันสดใส ทีมครีเอทีฟและดีไซเนอร์ของทั้งคิง เพาเวอร์ และเลสเตอร์ซิตี้ นำมาตัดเย็บเป็นเสื้อยืดทีเชิร์ตแขนสั้น-แขนยาว เสื้อเชิ้ต หมวก กระเป๋าสะพายหูรูด กระเป๋าสะพายไหล่ กระเป๋าใส่เอกสาร ลูกบอล และพวงกุญแจ รวม 17 แบบ ละลานตาไปหมด

“คอลเล็กชั่นนี้เทรนดี้ขึ้น สีสดใส น่ารัก ดูไม่เป็นสินค้าพื้นเมืองมากนัก ได้รับการดูแล ปรับปรุงดีไซน์ และพัฒนาจากปีก่อน ๆ”

ทั้งหมดนี้เริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา ในอังกฤษมีจำหน่ายที่แฟนสโตร์ คิง เพาเวอร์ สเตเดียม สนามของทีมเลสเตอร์ฯ ซึ่งมีแฟนฟุตบอลหมุนเวียนเข้ามาซื้อสินค้าโดยเฉพาะวันแข่งขันที่มากันแน่นขนัด

ส่วนในประเทศไทยวางจำหน่ายที่คิง เพาเวอร์ รางน้ำ, ตึกมหานคร, ศรีวารี, พัทยา, ภูเก็ต, ภายในสนามบินดอนเมือง, สุวรรณภูมิ, ภูเก็ต, อู่ตะเภา และทุกช่องทางการตลาดของคิง เพาเวอร์


ล่าสุดได้ยินว่าทีมงานคิง เพาเวอร์ กำลังมองไปถึงคอลเล็กชั่นใหม่ ๆ ในอนาคตไว้บ้างแล้ว มารอดูกันว่าภูมิปัญญาของไทยจากที่ไหนจะมีโอกาสอวดโฉมบนเวทีโลกเป็นคิวถัดไป