เส้นทาง 2 บริษัทฮ่องกง ก่อร่างจาก 0 มีแค่ไอเดีย…เติบใหญ่สู่บริษัทระดับโลก

Photo by Dale DE LA REY / AFP
ธนพงศ์ พุทธิวนิช : เรื่อง

หลายคนคงเคยได้ยินว่า คนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยฝันอยากมีธุรกิจของตัวเองมากกว่าทำงานประจำเป็นลูกจ้าง แต่มีไม่กี่คนที่ไปถึงฝั่งฝันได้ดังหวัง คำถามที่น่าสน คือ แล้วพวกที่ประสบความสำเร็จ พวกเขาทำกันได้อย่างไร

สำหรับธุรกิจที่สำเร็จและกลายเป็นบริษัทระดับโลก คำตอบข้างต้นคงสามารถหาอ่านได้จากแหล่งข้อมูลทั่วไป เรื่องราวของบริษัทที่ครองตลาดโลกอย่างแอปเปิล (Apple), ไมโครซอฟท์ (Microsoft), กูเกิล (Google), แอมะซอน (Am-azon) ไปจนถึงดิสนีย์ (Disney) ล้วนเริ่มต้นมาจากจุดเล็ก ๆ ริเริ่มงานกันในพื้นที่โรงรถเท่านั้น

นอกจากบริษัทยักษ์ใหญ่เหล่านั้นที่ก่อร่างสร้างตัวจนยิ่งใหญ่ได้ ธุรกิจหมวดหมู่อื่น ๆ ล้วนปรากฏบริษัทที่ผ่านเส้นทางคล้ายคลึงกันอยู่เสมอ เริ่มต้นจากแนวคิดเล็ก ๆ จากบุคคลไม่กี่ราย ล้มลุกคลุกคลานก่อนจะกลายเป็นเจ้าตลาดในสายธุรกิจที่พวกเขามีตัวตนอยู่

“ดีไลฟ์-ประชาชาติธุรกิจ” ชวนสำรวจธุรกิจจากเกาะฮ่องกงในแถบเอเชีย ซึ่งกลายมาเป็นธุรกิจระดับโลกในหมวดหมู่ที่อาจอยู่นอกสายตาของคนทั่วไป ซึ่งพวกเขาเริ่มต้นเส้นทางจากแค่ไอเดียทั่วไป หรือแทบไม่มีอะไรเป็นต้นทุนแบบจับต้องได้เลย มาสู่บริษัทหรืออาณาจักรทางธุรกิจระดับโลก

9GAG เฮฮาในหมู่เพื่อน สู่พื้นที่ระดับโลก

ยุคแห่งดิจิทัลในสมัยนี้ต้องยอมรับว่า ใครก็สามารถสร้างตัวตน พื้นที่ และฐานผู้ใช้บริการขึ้นมาได้จากศูนย์โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนก้อนโต เพราะในโลกดิจิทัลทุกวันนี้คนรุ่นใหม่ได้เปรียบจากที่มีแพลตฟอร์ม มีพื้นที่ออนไลน์ซึ่งเป็นเสมือนชุมชนขนาดใหญ่ ในที่นี้จึงมีกรณีตัวอย่างกิจการกลุ่มที่เกิดหลังยุคสื่อสังคมออนไลน์ (social media) เติบโตไปแล้วมากมาย

ในแง่ธุรกิจที่มีผลิตภัณฑ์เกี่ยวข้องกับ “ข้อมูล/คอนเทนต์” โดยตรง กิจการในกลุ่มสื่อจึงเกิดผู้เล่นรายใหม่หลายราย ในบรรดาสื่อรายใหม่ที่สร้างตัวขึ้นในโลกออนไลน์ ปรากฏการณ์ที่น่าสนใจมากเกิดขึ้นกับกลุ่มคนทำสื่อที่เรียกตัวเองว่า 9GAG คนที่ใช้งานสื่อสังคมออนไลน์จำนวนมากน่าจะคุ้นเคยกัน แต่ต้องยอมรับว่าคนจำนวนหนึ่งยังไม่รับรู้ถึงสถานะของกลุ่มผู้สร้างเนื้อหาเฮฮาช่วยคนอ่านฆ่าเวลาจะกลายเป็นธุรกิจสร้างคอนเทนต์สายบันเทิงจากฮ่องกงที่เข้าขั้นระดับโลกไปได้

9GAG
9GAG

9GAG เริ่มต้นจากโปรเจ็กต์เฉพาะกิจของชาวฮ่องกงชื่อ เรย์ ชาน (Ray Chan) ที่จับมือร่วมกับเพื่อนอีก 4 คน พวกเขาอายุ 20 กว่า ๆ ด้วยกันทั้งสิ้น พวกเขาตั้งเว็บไซต์ซึ่งเดิมทีแล้วต้องการสร้างเอาไว้แก้ปัญหาในหมู่เพื่อนกันเองนั่นคือ ต้องการแหล่งค้นหาภาพตลก ๆ และส่งต่อกันในหมู่เพื่อน

กลุ่มผู้ร่วมก่อตั้งรวบรวมเงินทุนกันได้ราว 1,270 ดอลลาร์สหรัฐในปี ค.ศ. 2008 เฉลี่ยแล้วใช้เงินคนละ 250 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 8,000-8,500 บาทโดยไม่มีใครรู้ว่า เมื่อเวลาผ่านไปแบรนด์ที่พวกเขาสร้างขึ้นมาจะกลายเป็นผู้สร้างเนื้อหาตลกแหล่งใหญ่ที่สุดอีกแห่งในโลกอินเทอร์เน็ต

อาจกล่าวได้ว่า 9GAG เติบโตในช่วงเวลาไล่เลี่ยกับสื่อสังคมออนไลน์อย่างเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ เริ่มก่อตัวขึ้นมาเป็นแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์อันดับต้น ๆ ของโลก เวลานั้นผู้ใช้งานแพลตฟอร์มเริ่มแชร์เนื้อหาจากเพจ 9GAG ที่พวกเขาพบในแพลตฟอร์ม จนถึงปัจจุบันเพจ 9GAG มีผู้ติดตาม 42 ล้านราย เว็บไซต์ของพวกเขามีผู้ใช้งานมากกว่า 100 ล้านคนต่อเดือน

ก้าวย่างการเติบโตของ 9GAG

เดิมทีแล้วเรย์ทำงานเป็นผู้จัดการโปรเจ็กต์ในชุมชนออนไลน์สำหรับกลุ่มคนที่รักหนังสือ ซึ่งภูมิหลังนี้ก็ช่วยให้เขาเข้าใจและเริ่มเห็นโอกาสว่าพื้นที่ออนไลน์จะช่วยตอบโจทย์บางอย่างให้เขาได้ทดลองเว็บไซต์ 9GAG เปิดให้ผู้ใช้งานใส่ภาพและวิดีโอของตัวเองขึ้นไป และยังสามารถค้นหาว่าเนื้อหาใดที่กำลังเป็นกระแสและได้รับความนิยมอยู่

ส่วนเนื้อหาที่เว็บไซต์คัดเลือกมาแสดงก็เป็นเนื้อหาที่มีอัตราผู้ใช้ปฏิสัมพันธ์ด้วยสูง ขณะเดียวกัน ในแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ก็มีทีมงาน 9GAG ราว 7 คนคัดเลือกเนื้อหาเอาไปเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเนื้อหาของพวกเขาเป็นยุคแรก ๆ ของวัฒนธรรมที่เรียกว่า “มีม” (meme) คนที่คุ้นเคยกับสื่อสังคมออนไลน์อาจเคยเห็นภาพมีมที่เป็นลักษณะภาพและมีข้อความแสดงอารมณ์ความรู้สึกเชิงตลกขบขันหรือเสียดสี

หลังเริ่มต้นเมื่อปี 2008 กลุ่ม 9GAG ได้รับความนิยมมากขึ้นตามลำดับ พวกเขาสร้างแอปพลิเคชั่นของตัวเอง เริ่มหารายได้ผ่านโฆษณา พวกเขาอาจไม่ได้มีรายได้เทียบเท่าสตาร์ตอัพสายเทคโนโลยีซึ่งก่อตัวขึ้นและมาแรงในช่วงเวลาเดียวกัน หากมองในแง่เม็ดเงินลงทุนและทรัพยากรที่พวกเขามีพนักงานราว 50 คน แม้จะไม่สามารถระบุตัวเลขรายได้แบบชัดเจน แต่ด้วยจำนวนผู้ใช้งานเว็บ 12-18 ล้านคนต่อวัน รายได้ต่อปีของพวกเขาถูกประเมินว่าอยู่ที่ราว 6-8 ล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นอย่างน้อย

เป็นตัวเลขรายได้ที่ไม่เลวทีเดียวสำหรับแพลตฟอร์มประเภทให้ผู้ใช้งานสร้างเนื้อหา แต่เจ้าตัวผู้ร่วมก่อตั้งเคยให้สัมภาษณ์ว่า เขาไม่ได้มองว่า 9GAG สำเร็จแล้ว เขามองมันว่ายังห่างไกลจากจุดนั้นเสียด้วย

9GAG มาได้ถูกที่ ถูกเวลา ด้วยเนื้อหาที่สอดคล้องกับความสนใจพื้นฐานของมนุษย์นั่นคือ เรื่องความสนุกสนานเฮฮา เสพความบันเทิงที่หาไม่ได้จากสื่อกระแสหลัก แต่ในยุคที่สื่อสังคมออนไลน์เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว 9GAG เองก็เผชิญหน้ากับความท้าทายเช่นกัน พวกเขามีคู่แข่งเป็นเว็บบอร์ด แพลตฟอร์มสังคมออนไลน์อื่น ๆ ก็ล้วนมีฐานผู้ใช้งานของตัวเอง

Hot Toys อาณาจักรของเล่นที่โลกซูฮก

น่าสนใจที่ธุรกิจซึ่งถือกำเนิดจากฮ่องกงและกลายเป็นแบรนด์ระดับโลกในวงการนั้น ๆ มีตัวตนอยู่หลายราย แต่ส่วนใหญ่แล้วก็เป็นที่รู้จักในวงแคบ อีกหนึ่งกรณีของธุรกิจจากฮ่องกงที่เริ่มจากแค่กิจการเล็ก ๆ แล้วกลายมาเป็นอาณาจักรของเล่นระดับโลก และบริษัทผู้ผลิตของเล่นของสะสมแถวหน้าของวงการได้ก็คือ Hot Toys (ฮอต ทอยส์)

ปัจจุบันบริษัท ฮอต ทอยส์ จำกัด คือผู้ผลิตและพัฒนาของเล่น ของสะสม ซึ่งมีชื่อเสียงที่สุดในรอบทศวรรษที่ผ่านมา พวกเขาสร้างของเล่นจากวัฒนธรรมร่วมสมัย ไม่ว่าจะเป็นตัวละครจากภาพยนตร์ การ์ตูน และหนังสือการ์ตูน โดยมีรายละเอียดเสมือนจริงมากที่สุดอันดับต้น ๆ ในตลาดก็ว่าได้

Hot Toys
Hot Toys

แต่กว่าจะเป็นอาณาจักรของสะสมระดับโลกได้ ธุรกิจนี้เริ่มมาจากอดีตนักออกแบบผู้เคยทำงานเขียนบทกับสถานีโทรทัศน์ทีวีบี (TVB) นามว่า โฮเวิร์ด จาง (Howard Chan) เขาหลงรักของเล่น ของสะสม และเปิดร้านขายสินค้าในฮ่องกง ความหลงใหลของเขาไปถึงขั้นใช้เงินสะสมทั้งชีวิตของตัวเองลงทุนสร้าง “แอ็กชั่นฟิเกอร์” (action figure) หรือหุ่นที่ขยับได้เสมือนร่างกายมนุษย์จริง ๆ ตัวแรกออกมาให้ได้ตามที่เขาอยากเห็น

โฮเวิร์ดถึงขั้นไปนอนในโรงงาน 3 คืน แค่ตรวจรายละเอียดชิ้นส่วนของเล่นชิ้นหนึ่งให้ออกมาตามที่เขาต้องการ ช่วงแรกเขาผลิตเป็นหุ่นทหารสวมชุดผ้าซึ่งเป็นที่นิยมในตลาด บริษัท ฮอต ทอยส์ เริ่มต้นขึ้นราวปี ค.ศ. 2000 ไม่นานหลังจากนั้นก็เริ่มพัฒนาเป็นตัวละครจากสื่อบันเทิงร่วมสมัย เป็นตัวละครจากภาพยนตร์ตะวันตกที่เขาชื่นชอบ

ความชื่นชอบและไอเดียของโฮเวิร์ดในการสร้างรายละเอียดของเล่นให้ออกมาเสมือนจริงที่สุด คือ องค์ประกอบสำคัญในผลิตภัณฑ์ของฮอต ทอยส์ ทำให้สินค้าของโฮเวิร์ดได้รับความนิยมในเวลาต่อมา ปี 2003 โฮเวิร์ดพยายามขอลิขสิทธิ์ตัวละครดัง ๆ มาผลิตเป็นของเล่นในยุคที่ยังไม่ค่อยมีใครพบเห็น ไม่ค่อยรู้จักของเล่นที่เรียกว่า “ฟิเกอร์” (หุ่น) สามารถขยับได้เสมือนจริง และมีรายละเอียดใกล้เคียงของจริง เขาเจรจาธุรกิจและพยายามจับมือพันธมิตรทำงานร่วมกับบริษัทอื่น ๆ โฮเวิร์ดพิสูจน์ตัวเองด้วยผลลัพธ์ที่ออกมา ใครก็ตามเห็นแล้วจะรู้ได้ทันทีว่าเป็นชิ้นงานสร้างสรรค์ที่ต้องอาศัยความทุ่มเทใส่ใจในรายละเอียดอย่างมาก

แบรนด์ฮอต ทอยส์ สร้างผลงานที่ได้รับการยอมรับจากแฟน ๆ และคนในวงการ บริษัทของเขาเติบโตกลายเป็นต้นแบบของผู้ผลิตของเล่นคุณภาพสูง รายละเอียดเหมือนจริง และขยับได้ใกล้เคียงกับอวัยวะของมนุษย์มากทีเดียว

แบรนด์ฮ่องกงผู้สร้างมาตรฐานใหม่ให้วงการ

เมื่อใดก็ตามที่พูดถึงของเล่น ของสะสมสำหรับผู้ใหญ่อันเป็นตลาดที่กำลังขยายตัวในวงกว้างมากขึ้น ฮอต ทอยส์คือแบรนด์ที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการของสะสมอย่างแท้จริง งานแฟร์เกี่ยวกับวัฒนธรรมร่วมสมัยหมวดสื่อบันเทิงต่าง ๆ ล้วนมีผลงานของโฮเวิร์ดปรากฏอยู่เสมอ ปี 2020 ถึงจะเป็นช่วงที่สถานการณ์ทั่วไปชะลอตัว แต่เขาก็ยังมีสินค้าใหม่ ๆ ออกมาเสมอ

นอกจากองค์ประกอบเรื่องคุณภาพและความเสมือนจริงแล้ว กุญแจสำคัญ สำหรับการผลิตสินค้าของโฮเวิร์ด คือ เข้าใจความต้องการของผู้บริโภคซึ่งก็มาจากความชื่นชอบส่วนตัว โฮเวิร์ดชอบตัวละครจากภาพยนตร์ หรือในหมู่วัฒนธรรมร่วมสมัย กลุ่มคนที่คลั่งไคล้สิ่งเหล่านี้เมื่อเสพความบันเทิงแล้วมักอยากสัมผัส อยากได้ตัวละครนั้นมาวางไว้ในพื้นที่ของตัวเอง

สิ่งที่โฮเวิร์ดผลิตขึ้นภายใต้แบรนด์ “ฮอต ทอยส์” พลิกโฉมวงการของเล่นด้วยจุดเด่นที่เน้นเรื่องความสมจริง ในตลาดทุกวันนี้ไม่มีใครทำงานสายนี้โดยได้ผลลัพธ์ที่มีคุณภาพเหนือกว่าฮอต ทอยส์ พวกเขาจึงกลายเป็นเบอร์ต้น ๆ ของตลาด และถือได้ว่าวางมาตรฐานใหม่ให้กับวงการเลยก็ว่าได้

เชื่อว่าธุรกิจหลายประเภทย่อมมีบริษัทลักษณะนี้โลดแล่นอยู่เสมอ ตัวอย่างที่เกิดขึ้นเป็นอีกหนึ่งเครื่องบ่งชี้ว่า ในยุคดิจิทัลไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็ตาม ไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่ไหนของโลก หากมีพลังขับเคลื่อนในตัวมากเพียงพอ ทุกคนมีโอกาสก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นรายใหม่ได้เสมอ