5 เทรนด์ท่องเที่ยว 7 เทรนด์แต่งบ้าน ที่จะมาในปี 2021

รุ่งนภา พิมมะศรี : เรื่อง 
Pexels, Pixabay, ดีไลฟ์ : ภาพ

การกักตัวอยู่ในบ้านเป็นเวลานาน และการงดเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ คือวิถีชีวิตที่คนทั่วโลก “เป็นอยู่” ในปี 2020 ที่ผ่านมา ขณะที่การท่องเที่ยวคือสิ่งที่คนโหยหาและวางแพลน การใช้ชีวิตอยู่ในบ้านมากขึ้นคือความเป็นจริงที่เกิดขึ้น เมื่อผู้คนใช้เวลาอยู่ในบ้านมากขึ้น จึงทำให้บ้านมีความสำคัญและได้รับการใส่ใจมากกว่าเดิม ผู้คนสนใจซื้อของเข้าบ้านมากขึ้น สนใจตกแต่งบ้านมากขึ้น รวมถึงทำความสะอาดบ้านมากขึ้น

ปี 2021 ที่เพิ่งเริ่มต้นขึ้นนี้ การมองคาดการณ์อนาคตระยะใกล้ในเรื่องการท่องเที่ยวและการตกแต่งบ้านจึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจว่า หลังจากอึดอัดกับการกักตัวอยู่ในบ้าน ผู้คนมองหาการท่องเที่ยวแบบไหน ขณะเดียวกัน บรรยากาศการตกแต่งบ้านแบบไหนที่ผู้คนต้องการจะใช้ชีวิตอยู่ในนั้น หากต้องกักตัวกันต่ออีกปี “ดีไลฟ์-ประชาชาติธุรกิจ” จึงได้สรุปเทรนด์การท่องเที่ยว และเทรนด์การแต่งบ้านที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2021 มาไว้ในที่เดียว

5 เทรนด์ท่องเที่ยว

การท่องเที่ยวคือสิ่งที่คนต้องการ แต่การท่องเที่ยวแบบไหนล่ะที่เป็นเทรนด์ในปีที่เรายังเผชิญหน้าความไม่แน่นอนเรื่องโรคระบาด ?

มีข้อมูลจากการสำรวจของ Booking.com เมื่อเดือนกรกฎาคม 2020 โดยสอบถามกลุ่มตัวอย่างราว 20,000 คน จากหลายประเทศและเขตการปกครองทั่วโลก ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ที่ได้เดินทางทริปธุรกิจหรือทริปพักผ่อนในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา และมีแผนจะเดินทางในช่วง 12 เดือนข้างหน้า พบแนวโน้มหรือเทรนด์สำคัญเกี่ยวกับอนาคตการเดินทาง ดังนี้

1.เที่ยวแบบลุยเดี่ยว : การเที่ยวคนเดียวจะเป็นเทรนด์ที่มาแรงในอนาคต เพราะในช่วงที่ผ่านมาการเดินทางถูกตั้งกฎเกณฑ์ไว้มากมาย โรคระบาดทำให้ไม่สามารถเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศได้ ผู้คนจึงคิดถึงการเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น และเป็นแรงผลักดันให้ออกไปลุยเดี่ยวในปี 2021

การสำรวจในช่วงกลางปี 2019 หรือก่อนโควิด-19 ระบาด พบว่า ผู้เดินทางเพียง 17% ที่วางแผนเที่ยวแบบลุยเดี่ยว แต่ผลสำรวจหลังโควิดเกิดขึ้น ผู้เดินทางถึง 30% วางแผนจะเที่ยวคนเดียวมากขึ้นในอนาคต และ 42% ต้องการเดินทางมากขึ้นในอนาคตเพื่อชดเชยเวลาท่องเที่ยวที่เสียไปในปี 2020

ขณะที่ตัวเลขเฉพาะนักเดินทางชาวไทยมีสัดส่วนอยู่สูงกว่าตัวเลขภาพรวม โดยผู้เดินทางชาวไทย 40% วางแผนเที่ยวคนเดียวมากขึ้นในอนาคต และ 51% ต้องการเดินทางมากขึ้นในอนาคตเพื่อชดเชยเวลาที่ไม่ได้ท่องเที่ยวในปี 2020

2.ไม่ต้องหรู ขอเพียงได้ผ่อนคลายก็พอ : หลังจากทริปต่าง ๆ ถูกยกเลิกทำให้ผู้คนรู้สึกว่าแค่ได้ออกเดินทางท่องเที่ยวก็เกินพอแล้ว แม้ผลสำรวจจะแสดงให้เห็นว่าผู้เดินทางปรารถนาที่จะได้เดินทางอีกครั้ง แต่มีเพียง 13% เท่านั้นที่วางแผนเพื่อไปทริปพักผ่อนสุดหรู (เช่น การพักในวิลล่า หรือโรงแรม 5 ดาว) ส่วนผู้เดินทางส่วนใหญ่ 51% วางแผนทริปเพื่อได้ใช้เวลาผ่อนคลายและหลีกหนีความวุ่นวายต่าง ๆ แสดงให้เห็นว่าการได้พักผ่อนคือความปรารถนาที่แท้จริงของผู้เดินทางในปีใหม่นี้ ในสถานการณ์แบบนี้ เพียงแค่ได้ออกท่องเที่ยวก็ถือว่าเป็นความหรูแล้ว โดยไม่ต้องนอนโรงแรม 5 ดาว

3.ท่องเที่ยวเพื่อพบปะเชื่อมสัมพันธ์อีกครั้ง : ในปี 2020 ผู้คนจำนวนมากถูกแยกอาศัยกับครอบครัวและเพื่อนเป็นเวลานาน จึงพบผลสำรวจว่า 61% ของผู้เดินทางทั่วโลกวางแผนใช้การเดินทางในอนาคตเป็นโอกาสพบปะและเชื่อมสัมพันธ์กับคนที่รักอีกครั้ง ในช่วงเวลาที่ต้องอยู่ไกลกันนั้น ผู้เดินทาง 36% บอกว่า การได้พูดคุยเรื่องทริปกับเพื่อน ๆ และครอบครัวในระหว่างที่อยู่ไกลกัน คือหนึ่งในแรงบันดาลใจหลัก ๆ ที่ทำให้อยากเดินทางอีกครั้ง

4.วางแผนสั้น ๆ เที่ยวสนุกช่วงสุดสัปดาห์ : เนื่องจากผู้เดินทางจำนวนมากกังวลกับความไม่แน่นอนที่อาจส่งผลต่อทริปท่องเที่ยวเหมือนที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา ทำให้ความต้องการที่จะเที่ยวแบบแพลนทริปเร่งด่วนสำหรับการเที่ยวในช่วงเวลาสุดสัปดาห์เพิ่มมากขึ้น

53% ของผู้ตอบแบบสำรวจทั้งหมดต้องการทริปพักผ่อนที่วางแผนในระยะสั้นลงและใช้เวลาเที่ยวสั้นลง โดยเป็นการเที่ยวช่วงสุดสัปดาห์ซึ่งวางแผนล่วงหน้าก่อนวันเดินทางไม่นาน เพื่อลดความผิดหวังที่อาจจะเกิดขึ้นจากสถานการณ์ที่คาดการณ์ไม่ได้ และ 28% ของผู้ตอบแบบสอบถามคิดถึงการท่องเที่ยวช่วงสุดสัปดาห์มาเป็นอย่างแรก หลังมีการยกเลิกมาตรการจำกัดการเดินทาง ถ้าดูเฉพาะผู้เดินทางชาวไทยที่ตอบแบบสอบถาม ตัวเลขทั้ง 2 นี้มากกว่าตัวเลขในภาพรวม โดยอยู่ที่ 62% และ 44% ตามลำดับ ผลสำรวจนี้แสดงให้เห็นว่าผู้คนมีความต้องการอย่างมากที่จะหลบไปพักใจจากความเป็นจริง แม้จะเป็นเวลาเพียงไม่กี่วันก็ตาม

5.เที่ยวด้วย อร่อยด้วย : ความปรารถนาที่จะออกไปสำรวจโลกกว้างของผู้เดินทางไม่ได้ลดลง แต่คนส่วนใหญ่ 53% หลีกเลี่ยงการเดินทางไปต่างประเทศ เนื่องด้วยมาตรการจำกัดการเดินทางที่ยังคงเข้มงวด การเที่ยวในประเทศจึงเป็นวิถีใหม่สำหรับผู้เดินทาง โดยการได้ไปตระเวนชิมอาหารเลิศรสเป็นสิ่งที่คนอยากทำเป็นอันดับต้น ๆ ผู้ตอบแบบสำรวจ 36% อยากลิ้มรสอาหารท้องถิ่นระหว่างเดินทาง และ 38% ต้องการออกไปทานอาหารนอกบ้านบ่อยขึ้น เพราะมีเงินเก็บจากการงดทริปต่างประเทศ

ผลสำรวจในข้อนี้ หากแยกเฉพาะผู้เดินทางชาวไทย พบว่า 77% หลีกเลี่ยงการเดินทางไปต่างประเทศ 52% อยากลิ้มรสและดื่มด่ำกับเมนูขึ้นชื่อในท้องถิ่นระหว่างทริป ส่วนอีก 36% อยากออกไปทานอาหารนอกบ้านบ่อยขึ้นเพราะมีเงินเก็บจากการงดทริปต่างประเทศ

7 เทรนด์แต่งบ้าน

ในปี 2021 เราอาจจะต้องกักตัวกันต่อ บ้านจะเป็นทั้งที่อยู่อาศัย ที่ทำงาน ที่หลบภัย ที่สังสรรค์วงเล็ก ๆ สำหรับครอบครัวหรือเพื่อนสนิท เราจึงควรทำให้บ้านเป็นที่อยู่ได้นาน ๆ แล้วไม่รู้สึกอึดอัด ไม่รู้สึกเบื่อ และให้ความรู้สึกสนุกสนานได้ด้วย เมื่อถึงเวลาที่เราต้องการความสนุก ดังนั้นจะจัดและตกแต่งอย่างไรให้บ้านตอบโจทย์ได้ทั้งหมดนี้ นี่คือเทรนด์การจัดและตกแต่งบ้าน คาดการณ์โดยบรรดานักออกแบบตกแต่งภายใน ซึ่งได้แก้โจทย์มาให้เราคร่าว ๆ แล้ว

1.พื้นที่ดั้งเดิมเพิ่มเติมความสะดวกสบาย : ตัวแทนจากบริษัทออกแบบ Modsy บอกกับ The Insider ว่า ผู้คนใช้เวลาอยู่บ้านมากขึ้นและต้องการเพิ่มความสะดวกสบายสำหรับการใช้งานพื้นที่เดิมที่มีอยู่ อย่างเช่น หากคุณมีห้องนั่งเล่นที่ดูเคร่งขรึมเป็นทางการ ก็อาจจะพยายามคิดหาวิธีทำให้ห้องนั่งเล่นที่ใช้งานมาหลายปีนั้นเป็นพื้นที่ที่ดึงดูดใจมากขึ้นและใช้งานได้หลายฟังก์ชั่นมากขึ้น เขาคาดว่า บรรยากาศหรือกลิ่นอาย Pottery Barn ซึ่งได้รับความนิยมมากในช่วงปี 1990 เป็นสไตล์หนึ่งที่จะกลับมาเป็นที่นิยม

มีคำแนะนำด้วยว่า เราสามารถเปลี่ยนบ้านและห้องเดิมให้รู้สึกว่าอยู่สบายมากขึ้นได้ โดยการเลือกโซฟาหรือเก้าอี้นวมที่หนานุ่ม เลือกเฟอร์นิเจอร์รูปทรงโค้งมน ขอบไม่คม และดีไซน์เรียบง่าย แต่ถ้าไม่อยากให้บ้านดูเรียบเกินไปก็ลองเลือกเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่มีการกลึงหรือแกะลายเล็กน้อย เช่น ลายแจกัน สำหรับโต๊ะรับประทานอาหาร ซึ่งเราไม่ได้นั่งเป็นเวลานานนัก แต่สำหรับห้องนั่งเล่นให้เลือกนวม ๆ นุ่ม ๆ เข้าไว้

2.พื้นที่อเนกประสงค์ ปรับการใช้งานได้หลากหลาย : การใช้เวลาในบ้านมากขึ้น รวมถึงมีคนที่อยู่บ้านจำนวนมากขึ้นด้วย บ้านจึงต้องถูกใช้เพื่อหลายกิจกรรมหลายวัตถุประสงค์ หากบ้านไหนมีพื้นที่กว้างขวางมากพอก็ดีไป แต่ถ้าบ้านใครไม่ได้ใหญ่โตมาก จำเป็นจะต้องมีพื้นที่อเนกประสงค์ที่ปรับใช้ได้กับหลายกิจกรรม

มีความเห็นใน Good Housekeeping ว่า เมื่อปีที่แล้วเราทุกคนใช้พื้นที่อยู่อาศัยของเราให้ตอบโจทย์การใช้งาน หลาย ๆ ห้องในบ้านถูกใช้เพื่อหลายวัตถุประสงค์ เราเพิ่มพื้นที่ทำงานในห้องนั่งเล่น เพิ่มห้องเรียนเข้าไปในห้องครัว และใช้ห้องนอนเป็นพื้นที่ออกกำลังกาย ในปีนี้ผู้คนจะหาวิธีปรับโฉมบ้านของตนใหม่ และหาพื้นที่อเนกประสงค์จริง ๆ สำหรับทำกิจกรรมต่าง ๆ อย่างเหมาะสม

 

3.ผนังสีเข้ม โทนสีสดใส : เว็บไซต์เกี่ยวกับการแต่งบ้านหลายเว็บมีข้อมูลที่คาดการณ์โดยคนวงการออกแบบและตกแต่งบ้าน ซึ่งพูดไปในทางเดียวกันว่า เฉดสีเข้มจะมาในปี 2021 นี้

ความเห็นหนึ่งจากตัวแทน Modsy บอกกับ The Insider ว่า เทรนด์สีเข้มที่กำลังจะมานี้ได้รับแรงบันดาลใจจากการที่คนไม่ได้ออกไปเชื่อมต่อกับโลกภายนอก เมื่อศูนย์กลางการใช้ชีวิตอยู่ที่บ้าน ผู้คนจึงปรารถนาจะสร้างสรรค์ให้บ้านสะท้อนบุคลิกตัวตนของเจ้าของมากขึ้น เห็นตัวอย่างจากช่วงยุควิกตอเรีย ซึ่งเป็นยุคทองของความบันเทิงภายในบ้าน ในยุคนั้นผู้คนนิยมตกแต่งบ้านด้วยสีเข้ม พวกเขาตั้งข้อสังเกตอีกว่า ร้านอาหารหรือโรงแรมมักจะมีกำแพงสีสันสดใส ดังนั้นผู้คนอาจพยายามสร้างบรรยากาศแบบนั้นในบ้านของตัวเอง

นักออกแบบคนนี้มีคำแนะนำเพิ่มเติมด้วยว่า การทาผนังสีเข้มในห้องนอนอาจมีผลต่อการนอนหลับ ส่วนการทาสีเข้มในห้องทำงานอาจมีผลต่ออารมณ์ขณะทำงาน ดังนั้นควรเลือกทาสีเข้มบนผนังห้องที่เราจะไม่ได้รับผลกระทบจากสีมากเกินไป เช่น ห้องนั่งเล่น และห้องรับประทานอาหาร

 

4.เลี้ยงต้นไม้ในบ้าน เติมสีเขียวเพิ่มความสดชื่น : ตัวแทนจาก Studio Munroe บอกกับ Good Housekeeping ว่า ปี 2021 นี้การปลูกต้นไม้และเลี้ยงต้นไม้ในร่มจะยังเป็นแกนหลักในการตกแต่งบ้านต่อไป เพราะเจ้าต้นไม้เหล่านี้ช่วยฟอกอากาศ เติมความสดชื่น นำความเป็นธรรมชาติเข้ามาในบ้าน อีกทั้งการดูแลต้นไม้ยังเป็นความสุขทางใจของคนในบ้านด้วย พัฒนาการ-การเติบโตของต้นไม้ที่นำเข้ามาในบ้านถือเป็นชัยชนะในหลายด้าน ทั้งความสวยงาม การใช้งาน และจิตใจของเจ้าของ

5.ใช้ไม้สีอ่อน มินิมอลแบบสแกนดิเนเวียและญี่ปุ่น : ข้อมูลใน The Insider คาดการณ์โดยตัวแทนจาก Modsy ว่า ผู้คนจะเลือกใช้ไม้สีอ่อนในการใช้สอยตกแต่งบ้านมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ หรือกรอบรูป ซึ่งพวกเขาคิดว่าการที่คนเลือกใช้โทนสีอ่อนมากขึ้นเป็นผลมาจากความชื่นชอบความมินิมอลในสไตล์ของชาวสแกนดิเนเวียและญี่ปุ่น ซึ่งการใช้ไม้สีอ่อนยังช่วยให้รู้สึกว่าห้องกว้างขึ้นด้วย

“ไม้สีนี้ยกระดับการออกแบบและง่ายต่อการออกแบบให้ดูทันสมัยขึ้นเล็กน้อย แม้จะอยู่ในพื้นที่ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและสะดวกสบาย”

“Marie Kondo สอนให้เราแก้ไขและเก็บรักษาเฉพาะสิ่งที่เรารัก และวัฒนธรรมนี้ของเรากำลังก้าวไปสู่ความยั่งยืนที่ยิ่งใหญ่ โดยสนับสนุนการผลิตสินค้าน้อยลง แต่ผลิตให้คุณภาพดีขึ้น” ตัวแทนของ Modsy กล่าว

ค่อนข้างตรงกันกับที่นิตยสาร Country Living คาดการณ์ว่า ปี 2021 จะมีคนจัดและตกแต่งบ้านด้วยสไตล์สแกนดิเนเวียนมากขึ้น

6.เลือกสิ่งของตกแต่งที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ : ตัวแทนจาก Modsy บอกว่า เพราะผู้คนเริ่มคำนึงมากขึ้นว่าการออกแบบตกแต่งบ้านส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากเพียงใด พวกเขาจึงเลือกของตกแต่งบ้านที่ทำมาจากวัสดุธรรมชาติ มีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น อย่างของตกแต่งบ้านที่เป็นเซรามิก ของตกแต่งที่ถักทอมาจากพืช ผ้าจากเส้นใยธรรมชาติซึ่งทำมาจากพืชที่ปลูกเพื่อทอผ้าโดยเฉพาะ ไม่ได้ตัดต้นไม้ทำลายธรรมชาติ


7.สิ่งทอที่เนื้อผ้าทนทานจะถูกเลือก : ตัวแทนจาก The Jackson Home Company แชร์กับ Good Housekeeping ว่า เนื่องจากคนอยู่บ้านมากขึ้น พวกผ้าและสิ่งทอต่าง ๆ (อย่างผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม ผ้าคลุมเตียง ผ้าคลุมโซฟา) ที่ใช้ในบ้านก็จะถูกใช้งานบ่อยขึ้น และต้องซักบ่อยครั้งขึ้น ดังนั้นผ้าที่เนื้อผ้าทนทาน ใช้งานได้นานและซักซ้ำได้บ่อย ๆ จะได้รับความนิยมมากขึ้น