เกียวโตไทยแลนด์ เมืองเก่า อยุธยา มิชลิน ไกด์ ชวนชิม ททท. ชวนเที่ยว

พลพัต สาเลยยกานนท์ : เรื่อง

“พระนครศรีอยุธยา” เป็นเมืองประวัติศาสตร์ เป็นจังหวัดท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของประเทศไทย ครั้งหนึ่งรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีหลายสมัย ประกาศจะบูรณาการและยกระดับให้เป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก

ด้วยการแปลงโฉมให้เป็น “เกียวโตอินไทยแลนด์” โดยมีโมเดล “เกียวโต” ประเทศญี่ปุ่นเป็นต้นแบบ เพราะจุดเด่นด้านท่องเที่ยวคืออยู่ใกล้เมืองหลวง และมีโบราณสถานเกือบทั่วทุกจุดของจังหวัด

ก่อนยุคโควิด-19 “เกียวโตอินไทยแลนด์” มีนักท่องเที่ยวมากถึง 6.7 ล้านคน แยกเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1.8 ล้านคน นักท่องเที่ยวท้องถิ่น 4.9 ล้านคน ทำรายได้ต่อหัว 1.7 แสนบาท

มาวันนี้ “พระนครศรีอยุธยา” ยังคงต้องมนต์เสน่ห์ แม้นักท่องเที่ยวจะจางหายไปเพราะโรคแพร่ระบาด แต่สิ่งปลูกสร้างในอดีตและวัฒนธรรมด้านอาหารยังคงถูกกล่าวถึง ทำให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่อยากเดินทางมาเที่ยวและสัมผัสด้วยตัวเอง เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ

ช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา สิ่งหนึ่งที่ทำให้ทั่วโลกรู้จักวัฒนธรรมอาหารของไทย โดยเฉพาะอาหารริมทาง (สตรีตฟู้ด) จนได้รับการยกระดับการติดดาวจาก “มิชลิน ไกด์” ให้ร้านอาหารริมทางเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากยิ่งขึ้น ส่งเสริมการเดินทางในระดับไมโครบิสซิเนส

ล่าสุด “มิชลิน ไกด์” ได้ประกาศให้จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นหมุดหมายใหม่ในการคัดสรรร้านอาหารติดดาว ฉบับที่ 5 (ฉบับล่าสุด) โดยคู่มือฉบับดังกล่าว มีกำหนดการตีพิมพ์เผยแพร่ในปลายปีนี้ ในชื่อ “มิชลิน ไกด์ กรุงเทพมหานคร พระนครศรีอยุธยา เชียงใหม่ ภูเก็ต และพังงา 2565” (The MICHELIN Guide Bangkok, Phra Nakhon Si Ayutthaya, Chiang Mai, Phuket & Phang-Nga 2022)

ในอดีตเมื่อครั้งที่อยุธยายังเป็นเมืองหลวงของไทย เวลานั้นเป็นที่รู้จักในนาม “สยาม” ชาวต่างชาติหลากหลายเชื้อชาติได้เข้ามาตั้งรกรากและมีอิทธิพลต่อวิวัฒนาการอาหารไทย ซึ่งสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้กะทิและเครื่องเทศในแกง ซึ่งได้รับอิทธิพลจากอินเดียและเปอร์เซีย ต่อยอดพัฒนาเป็นแกงไทยจานเด่น อาทิ แกงมัสมั่น, การใช้ไข่และไข่แดงในการทำขนมไทย ซึ่งได้รับอิทธิพลจากโปรตุเกส อาทิ ทองหยิบและทองหยอด

ในวันนี้อยุธยาเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวยอดนิยม เนื่องจากตั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ สะดวกในการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ทั้งทางรถไฟและทางเรือ นอกจากนี้ อยุธยายังมีสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมที่น่าสนใจให้เลือก

อาทิ การไหว้พระตามวัดสำคัญ ๆ เพื่อความเป็นสิริมงคล, การเที่ยวชมหมู่บ้านชาวต่างชาติ อาทิ หมู่บ้านญี่ปุ่น หมู่บ้านโปรตุเกส และหมู่บ้านฮอลันดา รวมถึงพิพิธภัณฑ์เฉพาะทาง เช่น พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่น เกริก ยุ้นพันธุ์ และพิพิธภัณฑ์เรือไทย, การนั่งเรือชมทัศนียภาพและวิถีชีวิตริมสองฝั่งแม่น้ำ ฯลฯ

จังหวัดพระนครศรีอยุธยาหรือ “อยุธยา”…ได้รับยกย่องให้เป็น “เมืองมรดกโลก” โดยองค์การยูเนสโกตั้งแต่ปี 2534 ภายใต้ศักยภาพที่โดดเด่น และมีลักษณะเฉพาะตัว ในฐานะจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวเชิงโบราณสถานและอาหารสำหรับคนทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นเสน่ห์ที่เกิดจากการหลอมรวมกลิ่นอายแห่งอดีตเข้ากับความทันสมัยของโลกยุคใหม่อย่างลงตัว

เกว็นดัล ปูลเล็นเนค ผู้อำนวยการฝ่ายจัดทำคู่มือ มิชลิน ไกด์ ทั่วโลก กล่าวว่า อยุธยาเป็นหนึ่งในเพชรเม็ดงามด้านวัฒนธรรมอาหารไทย การที่เมืองซึ่งเต็มไปด้วยมนต์ขลังและร่องรอยทางประวัติศาสตร์แห่งนี้เคยเป็นศูนย์กลางทางการทูตและการค้าระดับโลก ทำให้ได้รับอิทธิพลจากหลายชาติ อาทิ โปรตุเกส ญี่ปุ่น อินเดีย เปอร์เซีย ฯลฯ ล้วนมีบทบาทต่ออาหารไทยในท้องถิ่น

นอกจากนี้ ยุทธศาสตร์ที่ตั้งซึ่งล้อมรอบด้วยแม่น้ำ 3 สายยังส่งผลให้อยุธยาเป็นแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ ทั้งปลาน้ำจืด กุ้งแม่น้ำ ตลอดจนผักและผลไม้สด

“เรารู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่คู่มือมิชลิน ไกด์ ประเทศไทย ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวปลายปีนี้ จะได้มีโอกาสแนะนำอยุธยาในฐานะเมืองที่มีบรรยากาศธุรกิจร้านอาหารมีความโดดเด่นเฉพาะตัว บนพื้นฐานของการผสานความเก่าและใหม่เข้าด้วยกันได้อย่างน่าประทับใจ”

อยุธยามีทั้งร้านอาหารเก่าแก่สุดคลาสสิก, ร้านอาหารใหม่ ๆ ในอาคารเก่าที่ผ่านการดัดแปลงปรับปรุงอย่างเก๋ไก๋ หรือในอาคารใหม่ที่ออกแบบให้มีรูปลักษณ์ทันสมัย, ร้านกาแฟและคาเฟ่ที่มีมุมสวย ๆ ให้ถ่ายภาพหลากหลายมุม ไปจนถึงร้านเด็ดในตลาดบกและตลาดน้ำพื้นบ้าน

ทางเลือกด้านอาหารที่หลากหลายเหล่านี้ ประกอบกับภูมิหลังทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ยาวนาน คือเสน่ห์ที่แตกต่าง สามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศอยากกลับมาเยือนอยู่เสมอ

ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า มิชลิน ไกด์ ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการเดินทางในยุคหลังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยจะช่วยส่งเสริมรายได้ ทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยในภาคท่องเที่ยวได้ไม่น้อยกว่า 20% รวมถึงการเพิ่มการพักค้างของนักท่องเที่ยวในจังหวัดได้อีกด้วย ทั้งยังสอดคล้องกับแผนการพัฒนาเศรษฐกิจแบบ BCG model

“เราอาจจะเจอทำเลทองหรือเพชรเม็ดงามด้านอาหาร จากการเปิดหมุดหมายใหม่ของมิชลิน ไกด์ ในพระนครศรีอยุธยา ปี 2565 เราอาจได้เห็นก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยาได้มิชลิน สตาร์ เหมือนที่มิชลิน ไกด์ เคยให้อาหารสตรีตฟู้ดอย่างร้านเจ๊ไฝก็เป็นได้”

ความร่วมมือระหว่าง “มิชลิน ไกด์” กับ “ททท.” ยังคงเดินหน้าต่อเนื่อง เพราะเชื่อว่า “อาหาร” ทำให้คนอยากออกเดินทาง

แม้โควิดยังไม่หมดไป แต่ประเทศไทยประกาศแล้ว เราพร้อมจะเปิดประเทศ (restart) ภายใน 120 วันนับจากนี้ เพื่อขานรับช่วงไฮซีซั่นของนักท่องเที่ยวทั่วโลก