โควิดระลอกใหม่ เขย่าโลกกีฬา บนทางแพร่งระหว่างสุขภาพ-ธุรกิจ-กีฬา

วันที่ 7 มกราคม 2565 - 15:17 น.

อาฮุย แผ่นดินใหญ่ : เรื่อง

ช่วงเวลาของบรรยากาศส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ จากปี 2021 ไปเป็น 2022 ท่ามกลางสถานการณ์โควิดระลอกของสายพันธุ์โอไมครอนที่กำลังสร้างปัญหาให้ทั่วโลกส่งผลกระทบต่อกิจกรรมหลายอย่าง แน่นอนว่าการแข่งกีฬากระแสหลักก็ต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคนี้และจำเป็นต้องปรับตัวครั้งสำคัญเช่นกัน

นับตั้งแต่ปลายปี 2021 เป็นต้นมา ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนเริ่มแพร่กระจายเข้ามาในหลายประเทศ สถานการณ์นี้สร้างปัญหาให้ประเทศแถบยุโรปและอเมริกาในระดับหนึ่งเลยทีเดียว ภาพข่าวจากต่างประเทศที่ฉายบรรยากาศก่อนหน้าการเข้ามาของสายพันธุ์โอไมครอน มักพบเห็นวิถีชีวิตของผู้คนในภูมิภาคที่จัดแข่งกีฬากระแสหลักตั้งแต่ฟุตบอล มาจนถึงอเมริกันเกมส์ทั้งหลายต่างเริ่มเปิดให้ผู้ชมเข้าสนามได้มาสักพักแล้ว หลายคนที่เข้ามาชมกีฬาหรือแม้แต่ผู้คนในท้องถนนทั่วไปจำนวนไม่น้อยก็ปลดหน้ากากอนามัยเสียด้วยซ้ำ

แต่แล้วเมื่อเกิดตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่งสูงปรากฏขึ้นอีกครั้งภายหลังจากรายงานการพบสายพันธุ์โอไมครอน หลังจากนั้นมาไม่นานนัก หลายประเทศเริ่มมีตัวเลขผู้ป่วยกลับมาเพิ่มสูงมากขึ้น สำหรับอังกฤษดินแดนแห่งกีฬายอดนิยมอย่างฟุตบอลก็พบตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา และจากสถานการณ์นี้ก็ทำให้หลายแมตช์ต้องเลื่อนออกไป

ไม่นานนักก็เริ่มมีรายงานว่าแทบเกินครึ่งของจำนวนสโมสรในพรีเมียร์ลีกพบผู้เล่นในทีมติดเชื้อกัน โดยรวมแล้วในเดือนธันวาคม พรีเมียร์ลีกเลื่อนแข่งไปไม่ต่ำกว่า 15 แมตช์แล้ว

ประเด็นที่น่ากังวลสำหรับการแข่งฟุตบอลพรีเมียร์ลีกช่วงนี้ผุดมาพร้อมกันทั้งเรื่องโรคระบาดและโปรแกรมหนักหน่วงที่สุดของฤดูกาล บางทีมต้องพบโปรแกรม 5 แมตช์ในรอบ 2 สัปดาห์ ขณะที่สวัสดิภาพของผู้เล่นในทีมก็แขวนบนเส้นด้าย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาอาการบาดเจ็บไปจนถึงความเสี่ยงเรื่องโรคระบาด แม้แต่ผู้จัดการทีมบางสโมสรยังยอมรับว่า พวกเขาเข้าใจสภาพจิตใจของลูกทีมที่แทบไม่กล้าลงสนามซ้อมเพราะกลัวว่าจะนำเชื้อกลับไปติดครอบครัว

ทีมอย่างวัตฟอร์ดที่พบปัญหาผู้เล่นติดเชื้อและเกมการแข่งต้องเลื่อนออกไปในช่วงต้นเดือนธันวาคม เพิ่งลงซ้อมแบบครบทีมได้เป็นครั้งแรกในรอบ 2 สัปดาห์ หลังพ้นคริสต์มาสไปแล้ว เพื่อเตรียมความพร้อมลงแข่งในเกมกลางสัปดาห์ก่อนเข้าสู่ช่วงปีใหม่

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้หลายทีมฉงนกันคือ พรีเมียร์ลีกเมินเคาะพักเบรกการแข่ง ภายหลังจากการประชุมกับผู้จัดการทีมในลีก ซึ่งแต่ละรายล้วนมีมุมมองต่อการรับมือสถานการณ์วิกฤตในช่วงปลายปีแตกต่างหลากหลาย มีทั้งที่มองว่า ควรปรับโปรแกรม และมีทั้งที่คิดว่าการพักเบรกและขยับโปรแกรมไปจะส่งผลร้ายในอนาคตเมื่อโปรแกรมจะมากระจุกในช่วงท้ายแทน

ทั้งนี้ การตัดสินใจข้างต้นก็อาจเปลี่ยนแปลงได้ไม่ว่าจะในอนาคตอันใกล้หรือในระยะยาว เพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์

เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่น่าปวดหัวสำหรับลีกอังกฤษที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดระลอกล่าสุด และพวกเขายังต้องหาแนวทางปรับตัวกันต่อไป สำหรับแฟนบอลก็คงต้องติดตามข่าวกันเป็นรายวัน เพราะอาจมีเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์ได้ทุกเวลา

หากข้ามฟากมาที่ฝั่งอเมริกันเกมส์ ศึกบาสเกตบอลเอ็นบีเอก็พบสถานการณ์ยากลำบากไม่แพ้กัน นับตั้งแต่กลางเดือนธันวาคมเป็นต้นมา กระทั่งสัปดาห์สุดท้ายของปี 2021 ตัวเลขผู้ติดเชื้อในสหรัฐยังไม่มีทีท่าว่าจะทุเลาลง

รายงานข่าวจากสื่ออเมริกันระบุว่า ช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปี ทุกทีมในเอ็นบีเอต้องรับมือกับเคสที่เกี่ยวข้องกับไวรัสโควิดแล้วอย่างน้อย 1 เคส และจนถึงเวลานี้เองก็มีผู้เล่นในเอ็นบีเอต้องเข้าสภาวะกักตัวตามมาตรการความปลอดภัยที่กำหนดให้ โค้ช, ผู้เล่น และสตาฟ ต้องกักตัวหากใกล้ชิดกับผู้มีผลตรวจเชื้อเป็นบวก รวมแล้วมากกว่าร้อยราย และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นอีก

สถานการณ์ผู้ติดเชื้อไม่เพียงส่งผลกระทบต่อผู้เล่น ศึกเอ็นบีเอมีเลื่อนเกมการแข่งขันไปบ้าง ตัวอย่างที่ชัดเจนคือกรณีของชิคาโก บูลล์ส ซึ่งลีกประกาศเลื่อนเกมแข่ง 2 เกมเพราะผู้เล่นของทีมร่วม 10 รายอยู่ระหว่างกระบวนการกักตัว

มาตรการของเอ็นบีเอก็เป็นที่ถกเถียงกันว่ารายละเอียดข้อปฏิบัติโดยเฉพาะเรื่องระยะเวลากักตัวกระทบต่อศักยภาพของทีมในการลงแข่ง ถึงสถานการณ์จะน่าเป็นห่วง แต่จนถึงช่วงปลายเดือนธันวาคม ท่าทีของเอ็นบีเอยังไม่มีแผนจะระงับการแข่งขัน

หากพิจารณาจากสถานการณ์ล่าสุด ตัวเลขผู้ติดเชื้อในสหรัฐ และอังกฤษกลับมาอยู่ในระยะกราฟจำนวนผู้ติดเชื้อไต่ระดับสูงขึ้นอีกครั้ง ฤดูกาล 2020-2021 โดยเฉพาะช่วงรอยต่อเปลี่ยนผ่านระหว่างปีซึ่งถือเป็นช่วงท้าทายและน่าจับตาอย่างยิ่งว่าแต่ละลีกจะปรับตัวกับสถานการณ์ที่ดูเหมือนจะเริ่มกลับมารุนแรงอีกระลอก ท่ามกลางทางแพร่งที่ต้องเลือกระหว่างตัวเลือกด้านเรตติ้งและความบันเทิงในทางธุรกิจช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ กับน้ำหนักของความสำคัญแง่ความปลอดภัยตามมาตรการทางสาธารณสุข