ธนพงศ์ พุทธิวนิช : เรื่อง
ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน หรือเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 (แข่งปี 2021) ปิดฉากลงด้วยแชมป์ของทีมชาติไทยสมหวังแฟนบอลอีกครั้ง เชื่อว่าคนที่ติดตามการแข่งจำนวนไม่น้อยน่าจะลุ้นระทึกและสนุกไปกับบรรยากาศชิงชัยในสนามที่ดุเดือดเป็นพิเศษเมื่อผ่านรอบแบ่งกลุ่มไป ซึ่งโดยรวมแล้วรายการนี้มีหลายประเด็นน่าสนใจ น่าคิด และสามารถถอดบทเรียนเพื่อมาใช้ประโยชน์ต่อได้
เส้นทางของทีมชาติไทยในรายการนี้มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย นอกเหนือจากเกมในสนาม ปฏิเสธได้ยากว่า เรื่องราวนอกสนามกลายเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่ปลุกเร้าบรรยากาศให้อุณหภูมิระอุส่งผลไปถึงความดุเดือดของเกมการแข่งไม่มากก็น้อย
เมื่อการแข่งปิดฉากลงแล้วก็มีควันหลงหลายหัวข้อตามมาติด ๆ ดีไลฟ์ ประชาชาติ พาไปประมวลบทสรุปและควันหลงในภาพรวมจากศึกลูกหนังชิงแชมป์อาเซียน ที่เชื่อว่ารายการปีนี้เป็นทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลระดับภูมิภาคซึ่งระอุที่สุดอีกครั้งในรอบหลายปี
เข้าโค้งแรก
ไม่ว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลว ในโลกยุคใหม่ องค์กรหลากหลายสายนิยมประมวลผลงาน นำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาย้อนดูเพื่อศึกษาปัจจัยและองค์ประกอบต่าง ๆ มาถอดบทเรียนเป็นแนวทาง สิ่งไหนดีก็พัฒนาต่อ สิ่งไหนที่เป็นอุปสรรคหรือเรื่องติดขัด อย่างน้อยน่าจะถูกนำมาพิจารณาเป็นบทเรียนให้รับรู้ และจะดียิ่งขึ้นเมื่อมันถูกนำไปปรับปรุงแก้ไข วางรากฐานให้เหมาะสมก่อนจะพัฒนาให้ก้าวหน้าต่อไป
สำหรับกิจกรรมประเภทกีฬาระดับชาติคิดว่ากระบวนการนี้ก็น่าจะเป็นประโยชน์เช่นกัน ถ้าจะย้อนไปที่จุดตั้งต้นของรายการ แฟนบอลไทยคาดหวังว่าจะได้แชมป์รายการนี้อีกครั้งหลังพลาดไปเมื่อปี 2018 แต่ตอนเริ่มต้นก็มีข้อกังวลเรื่องระยะเวลาเตรียมทีมและเก็บตัวค่อนข้างสั้น
แม้จะมีกระบวนการพูดคุยหารือเรื่องขยับโปรแกรมไทยลีกกันไปแล้ว แต่ท้ายที่สุด ทีมชาติไทยเข้าเก็บกันจริงโดยเริ่มจากฟื้นฟูร่างกายหลังลุยศึกไทยลีกเลกแรกจบในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนพฤศจิกายน เริ่มกันราวเย็นวันที่ 29 พ.ย.และวางแผนลงฝึกซ้อมในไทยวันที่ 30 พ.ย.
ก่อนออกเดินทางไปสิงคโปร์ วันที่ 1 ธันวาคม (นักเตะที่ค้าแข้งต่างแดนมีโปรแกรมของแต่ละลีกอยู่ หลายรายบินไปสมทบที่ปลายทางในวันที่ 5 ธ.ค. เป็นต้นไป) ส่วนนัดแรกลงเล่นวันที่ 5 ธ.ค.
เท่ากับว่าโดยรวมแล้วระยะเวลาเตรียมทีมแบบเต็มสูบจริงเกิดขึ้นเพียงไม่ถึงสัปดาห์เท่านั้นหัวข้อนี้ทำให้แฟนบอลค่อนข้างกังวลเรื่องความพร้อม โดยเฉพาะกับปัจจัยเรื่องกุนซือคนใหม่ของทีมชาติไทยอย่าง มาโน่ โพลกิ้ง ภาพความเป็นไปได้อย่างหนึ่งในจินตนาการแฟนบอลคือรูปแบบการเล่นที่ยังไม่ลงตัวและอาจกระทบต่อผลการแข่งในรายการที่แฟนบอลแทบทั้งประเทศคาดหวังกับเป้าหมายสูงสุดที่แชมป์
ในภาพรวมแล้ว เรื่องการจัดโปรแกรมแข่งในประเทศค่อนข้างซับซ้อน มีเงื่อนไขเชื่อมโยงพัวพันกันหลายด้านหลายตลบ คงต้องชำระหาสมดุลกันในระยะยาวต่อหลายยก
มาโน่ โพลกิ้ง และผู้เล่นตัวหลักของไทย
โค้งแรกในภาคการเตรียมความพร้อมอาจทำให้แฟนบอลไม่สบายใจนัก เมื่อมาถึงผลงานช่วงแรกของรายการในรอบแบ่งกลุ่ม มาโน่ โพลกิ้ง กุนซือที่ขึ้นชื่อเรื่องสไตล์การเล่นแบบเน้นเกมรุกขั้นแฟนบอลแซวกันว่า “บุกดุจพายุ” ประเดิมคุมทีมชาติไทยในรายการระดับภูมิภาคและพิสูจน์ฝีมือทำให้แฟนบอลเริ่มวางใจมากขึ้น
ทีมชาติไทยชุดล่าสุดภายใต้การคุมทีมของมาโน่ โพลกิ้ง เล่นกันแบบมี “มาตรฐาน” ทั้งเกมรุกและเกมรับ มีแบบแผนที่เห็นรูปร่างได้ระดับหนึ่ง ในช่วงเกมแรกที่ทีมยังไม่มีนักเตะตัวเก่งซึ่งไปค้าแข้งในต่างประเทศ เกมรุกอาจไม่ได้ถึงขั้นหวือหวาหรือเฉียบขาดแบบที่คาดหวังตามเพดานสูงสุด เมื่อเจอกับทีมที่ยังกำลังพัฒนา ระดับทีมขั้นต้นยังสามารถเก็บผลการแข่งขันที่ต้องการได้อยู่
ความท้าทายของทีมชาติไทยเริ่มเข้มข้นเมื่อมาพบกับทีมที่แข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อย ๆ กระทั่งเจอบทพิสูจน์สำคัญกับเวียดนาม คู่ปรับสำคัญของไทยในรอบหลายปีที่ผ่านมา ได้ดวลกันในรอบรองชนะเลิศ ในด้านหนึ่ง แฟนบอลอาเซียนยอมรับว่าเวียดนามพัฒนาทีมขึ้นมาได้อย่างน่าสนใจ เล่นด้วยความรวดเร็วดุดันเข้าบีบกดดันคู่ต่อสู้ตามรูปแบบฟุตบอลสมัยใหม่มีผู้เล่นทั้งพลังหนุ่มและผู้เล่นมากประสบการณ์ในต่างแดนด้วย
ทัวร์นาเมนต์นี้ทีมชาติไทยได้นักเตะสำคัญที่ค้าแข้งในต่างแดน อาทิ ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธีราทร บุญมาทัน, ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร และ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ มาด้วย ทั้งชนาธิป และธีราทร แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของตัวเองอีกหน
ครั้งนี้ชนาธิป ซึ่งรับบทบาทกัปตันทีม เป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเกมรุก เชื่อมเกม ไปจนถึงจบสกอร์ในจังหวะสุดท้าย ช่วยยกระดับคุณภาพของทีมโดยรวมได้มาก เช่นเดียวกับผลงานของ ธีราทร บุญมาทัน ผู้เสริมเกมรุกและรับฝั่งริมเส้นจนถึงแดนกลางได้ตามมาตรฐานของตัวเองที่เล่นในเจลีก
โดยรวมแล้วผลงานถือว่ายอดเยี่ยมในระดับภูมิภาค ไม่แพ้ตลอดทั้งรายการ ชนะ 6 เสมอ 2 นัด ยิงได้ 18 และเสีย 3 ประตู รายละเอียดอื่น ๆ มีประเด็นผลงานระดับบุคคลที่ดีแทบทั้งทีม และมีผลงานยอดเยี่ยมได้รางวัลส่วนบุคคลกันหลายรายเช่นกัน สมควรกับเม็ดเงินอัดฉีดรวมทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท มีรายงานคาดว่า ทุกคนในทีมชาติน่าจะได้ส่วนแบ่งกันประมาณคนละ 1 ล้านบาท
ด้วยองค์ประกอบที่ผสมกันค่อนข้างลงตัวในทีมของมาโน่ โพลกิ้ง ถึงจะมีเวลาเก็บตัวเตรียมทีมเชื่อมความเข้าใจกันระหว่างผู้เล่นในทีมไม่มากนัก ทีมชาติไทยชุดนี้ยังสามารถล้มอีกหนึ่งทีมแกร่งของอาเซียน ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศไปพบกับอินโดนีเซีย ท่ามกลางบรรยากาศควันหลงอันดุเดือดระหว่างการโต้ตอบกันของแฟนบอลไทย-เวียดนาม ไล่เรียงไปจนถึงการให้สัมภาษณ์ของบุคลากรฝั่งเวียดนาม
ดวลแข้ง (และฝีปาก) เวียดนามเดือดทั้งใน-นอกสนาม
ไฮไลต์สำคัญของทัวร์นาเมนต์นี้ส่วนหนึ่งคือห้วงปลายทางที่ความสำเร็จของไทย หากพูดถึงเรื่องระหว่างทาง ไฮไลต์ในรายการนี้ต้องยกให้แมตช์ไทยดวลเวียดนาม ที่เริ่มโหมโรงกันตั้งแต่เสียงนกหวีกเป่าเริ่มเกมแรกยังไม่ดังกันเลย
รอบ 2-3 ปีมานี้ เวียดนามสร้างทีมชุดใหม่ขึ้นมาได้น่าสนใจเป็นพิเศษ ทีมของ พัค ฮัง-ซอ กุนซือชาวเกาหลีใต้ มีสไตล์การเล่นแบบฟุตบอลสมัยใหม่ ต่อบอลเล่นกันรวดเร็ว ใช้พละกำลังบีบกดดันคู่แข่ง ที่ผ่านมาแฟนบอลเวียดนามเชื่อมั่นในทีมชุดนี้มากยิ่งโดยเฉพาะหลังจากพวกเขาก้าวขึ้นสู่แชมป์อาเซียนเมื่อปี 2018 ได้สำเร็จ
การก้าวขึ้นมาของเวียดนามในยุคนี้คือความท้าทายสำหรับทั้งฝั่งไทยและเวียดนามในการช่วงชิงความเป็นหนึ่งของภูมิภาค ที่จริงแล้วการพิสูจน์เรื่องนี้อย่างชัดเจนย่อมต้องไปตัดสินกันในสนาม สิ่งที่กลับเพิ่มอุณหภูมิของการช่วงชิงสถานะเบอร์หนึ่งอาเซียนกลับเป็นบรรยากาศนอกสนามจากทั้งแฟนบอล หรือท่าทีในการสื่อสารผ่านสื่อมวลชนของแต่ละฝ่าย
ระหว่างเส้นทางก่อนและหลังเกมรอบตัดเชือกทั้งสองนัดเกิดวิวาทะขึ้นมากมาย แม้แต่หลังจบเกมแล้วก็ตามก็ยังมีความเคลื่อนไหวที่สืบเนื่องกันต่อมา
ส่วนใหญ่แล้วเป็นบรรยากาศของแฟนบอลและปรากฏในพื้นที่สื่อสังคมออนไลน์ที่ต่างโต้ตอบกันไปมา ในแง่หนึ่งก็ต้องยอมรับว่าบทสนทนาเหล่านี้หากเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ มันคือเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของฟุตบอล กีฬาที่มีเรื่องราวในรายละเอียดได้ทุกแง่มุม
ต้องยอมรับว่าส่วนหนึ่งของบทสนทนาและควันหลงหลังเกมไทย-เวียดนาม ปรากฏแนวมุ่งเป้าที่ตัวบุคคลหรือวิจารณ์ขยายความใส่ความคิดเห็นต่อพฤติกรรมและบทบาทของนักเตะแต่ละฝ่าย มีบางชิ้นเกินเลยไปบ้าง โดยธรรมชาติแล้ว คงไม่มีใครสามารถไปหักห้ามทัดทานการตัดสินใจของปัจเจกได้ในระยะสั้น
หากมองในฟากยุโรปที่ฮิตกีฬาฟุตบอลมายาวนานยังพบพฤติกรรมเหล่านี้ในยุคดิจิทัล แต่ใช่ว่าคนอื่นทำแล้วหมายความว่าจะมองเป็นสิ่งปกติได้ เรื่องเหล่านี้คงต้องเรียนรู้กันไปและพัฒนาไปควบคู่กับเรื่องในสนามในระยะยาว
ถอดบทเรียน
ควันหลงเหล่านี้น่าจะจางไปตามธรรมชาติของกระแสเช่นเดียวกับเรื่องอื่น จนกว่าจะพบกันใหม่ ศึกครั้งนี้จบลงด้วยผลในสนามอันน่าพอใจสำหรับฝั่งไทย สิ่งที่ยังไม่จบคือสงครามช่วงชิงเบอร์หนึ่งจะยังดำเนินต่อไปอีกยาวนาน ตัวชี้วัดก็คือผลงานในสนามนั่นเอง โดยมีผลการแข่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่สุด
หากมองในภาพรวม ศึกครั้งนี้ทีมชาติไทยยกทัพใหญ่ผสมผสานขุมกำลังหลักยุคปัจจุบันไปเต็มที่ และแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของทีมชาติไทยอีกครั้งหลังห่างหายจากเวทีระดับชาติไปนาน เป็นสัญญาณที่ดีในสภาพปัจจุบัน โดยเฉพาะกรณีของกุนซือของทีมที่ดูแล้ว มาโน่น่าจะได้ต่อสัญญาออกไป ขณะที่ประเมินระดับความสามารถของทีมเพื่อนบ้านเอง หลายทีมถือว่าขยับปรับตัวเองกันขึ้นมาได้เช่นกัน
มุมกลับกัน มีรายละเอียดในด้านการบริหารจัดการไปจนถึงเรื่องผลงานระดับปัจเจกเป็นจุดเล็ก ๆ น้อย ๆ (แต่อาจส่งผลกระทบระดับใหญ่ได้) ที่สามารถปรับกัน หรือเป็นการบ้านให้ฝ่ายหลังบ้านมาดูแลกันเพิ่มเติม
บทเรียนที่น่าจะสำคัญอันดับต้น ๆ คือ ในเวทีระดับภูมิภาคแทบทุกประเทศล้วนพยายามพัฒนาตัวเองขึ้นมา สถานะเบอร์หนึ่งของอาเซียนแบบตายตัวเป็นเรื่องยากจะการันตี นั่นเป็นสัญญาณบอกว่า หากใครหยุดอยู่กับที่ โอกาสที่จะถูกคนอื่นแซงย่อมมีอัตราเสี่ยงสูงที่มันจะเกิดขึ้น