Mattress City เฟ้นหา “นักนอน” กลยุทธ์บอกต่อที่ไม่ใช่เเค่การรีวิว

สองเราเคียงคู่ : เรื่อง

Mattress City จับกลยุทธ์บอกต่อด้วยความจริงใจ เปิดตัว 9 คนเข้ารอบสู่อาชีพ “นักนอน” สุดครีเอต ถ่ายทอดประสบการณ์ “ใช้จริง นอนจริง” จากผู้บริโภคสู่ผู้บริโภค พร้อมชูจุดเด่นความหลากหลายของสินค้า ครบจบที่เดียว ตอบโจทย์ความต้องการทุกไลฟ์สไตล์ และเข้าถึงได้ในทุกช่องทาง เพื่อรองรับวิถีชีวิตลูกค้ายุคใหม่

จุดกระแสในโลกโซเชียล แคมเปญที่ไม่ธรรมดา

หากกล่าวถึงอาชีพ “นักนอน” คงไม่ใช่เรื่องที่เราคุ้นเคยกันเลย และอาจสงสัยกันว่า อาชีพนี้จะสร้างรายได้ได้จริงหรือ ? จนกระทั่งปี 2564 ที่ผ่านมา ได้มีการโหมแคมเปญใหม่ด้านการตลาดใหม่ ด้วยการประกาศ “เปิดรับสมัครนักนอน” ขึ้นมา จนกลายเป็นการจุดกระแส และเป็นไวรัลในโลกโซเชียล โดยมียอดสมัครพุ่งมากกว่า 3 แสนคน ในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์

ซึ่งดีไลฟ์ประชาชาติฯพบว่า ผู้อยู่เบื้องหลังเเคมเปญนี้คือ “Mattress City-แมทเทรส ซิตี้” ศูนย์รวมที่นอนและเครื่องนอนครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย ก่อตั้งเมื่อปี 2557 โดยใช้เวลา 4 ปีเพื่อสร้างการเติบโต และสามารถขยายสาขาได้ถึง 17 แห่งทั่วประเทศ นับว่าเติบโตเร็วมาก

กิตติ ตั้งพานทอง ผู้จัดการ ฝ่ายบริหาร บริษัท แมทเทรส ซิตี้ จำกัด เล่าถึงจุดเริ่มต้นของการเฟ้นหานักนอนมืออาชีพให้ฟังว่า ด้วยความที่ Mattress City มีสินค้ามากกว่า 10,000 SKU คัดสรรจากแบรนด์ดังทั่วทุกมุมโลก อาทิ ประเทศอังกฤษ อิตาลี สหรัฐอเมริกา และเยอรมนี แต่ละสินค้ามีความเฉพาะตัวแตกต่างกันไป เป็นเรื่องยากที่จะถ่ายทอดประสบการณ์ไปยังผู้บริโภคได้ครบถ้วนเเละทั่วถึง

จึงเป็นโจทย์ที่ท้าทายว่า “จะทำอย่างไรให้เข้าถึงผู้บริโภคได้มากที่สุด”

เหล่านี้นำมาสู่แนวคิด “ให้ผู้บริโภคบอกผู้บริโภคเอง” และได้เปิดรับสมัครนักนอนที่เป็นประชาชนทั่วไป เปิดกว้างให้กับทุกคนอย่างแท้จริง ด้วยความหลากหลายในเรื่องของอายุ เพศ ความต่างของสรีระ น้ำหนัก ลักษณะการนอน ซึ่งจะส่งผลดีต่อการทดลองการนอนเพื่อบันทึกข้อมูลที่ไม่เหมือนกัน ทั้งความนุ่มหรือแน่นของที่นอน ผิวสัมผัส แรงกดทับของร่างกาย เเละการระบายความร้อน ที่จะนำไปสู่การพัฒนานวัตกรรมให้ตอบโจทย์การนอนหลับเฉพาะตัวได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ในช่วงแรกของแคมเปญ เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2564 Mattress City เริ่มจุดประเด็นด้วยประโยคง่าย ๆ อย่าง “รับสมัครนักนอน รายได้ดี 35,000 บาท/เดือน” บนบิลบอร์ดทั่วกรุง เพื่อค้นหาผู้หลงใหลในการพักผ่อนที่พร้อมร่วมทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ แล้วถ่ายทอดประสบการณ์การใช้ที่นอนในแต่ละคอลเล็กชั่น เสมือนเป็นตัวแทนของผู้บริโภคที่ใช้งานสินค้าแบบจริง ๆ ปรากฏว่ากระแสตอบรับล้นหลาม แค่สัปดาห์เดียวคนแห่สมัครเกินความคาดหมาย

คัดนักนอนมืออาชีพจาก 3 แสนให้เหลือแค่ 9 คน

จากนั้นได้ทำการคัดเลือกให้เหลือเพียง 9 คน ผ่านกระบวนการคัดสรรจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 4 ท่าน ที่คุ้นชื่อกันดี ได้แก่ ตือ-สมบัษร ถิระสาโรช, ได๋-ไดอาน่า จงจินตนาการ, บอย-พิษณุ นิ่มสกุล และผู้บริหารเจ้าของผลิตภัณฑ์ กิตติ ตั้งพานทอง แห่งแมทเทรส ซิตี้ ซึ่งมีมติเป็นเอกฉันท์ พร้อมเปิดตัวนักนอนตัวจริง ในฐานะตัวแทนคนไทยทั้งประเทศ

“นักนอนที่เรามองหานั้นได้คัดเลือกจากคุณสมบัติหลายมิติ ไม่ได้หานักรีวิว แต่มองหาคนที่จะมาถ่ายทอดประสบการณ์ และมีแพสชั่นในการนอนจริง ๆ คนทั่วไปอาจคิดว่า การนอนเป็นแค่เรื่องเล็ก ๆ ในชีวิตประจำวัน เเต่จริง ๆ เเล้ว การนอนคือครึ่งชีวิตของคนเรา ดังนั้นต้องทำให้รู้สึกได้ว่า จะนอนทั้งทีต้องนอนให้ดีที่สุด” ไดอาน่ากล่าว

นอกจากนี้ยังเน้นเรื่องการสร้างสรรค์เเละความสามารถในการสื่อสารที่ไปถึงผลิตภัณฑ์ ทั้งเป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพ ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจ พร้อมเปิดมุมมองต่ออาชีพใหม่ ๆ ให้คนไทยอีกด้วย

รับเงินเดือน 3.5 หมื่น นอนโรงแรมเอเชียฯ

สำหรับนักนอนทั้ง 9 คนที่ผ่านการคัดเลือกนั้น จะได้รับเงินเดือน 35,000 บาท/เดือน ระยะสัญญา 3 เดือน ซึ่งจะได้นอนหลับเพื่อปฏิบัติงานภายในโรงแรมเอเชีย กรุงเทพฯ โดยเข้าเช็กอินที่โรงแรมเพื่อปฏิบัติงาน เริ่ม ณ เวลา 21.00 น. และเช็กเอาต์ เวลา 07.00 น. ทุกวันจันทร์ถึงวันเสาร์ (หยุดเสาร์เว้นเสาร์) และนอนหลับมากกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน

พร้อมบันทึกความรู้สึกจากการนอน ความแตกต่างของการสัมผัสในแต่ละคอลเล็กชั่นผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียของตัวเอง และสื่ออื่น ๆ ทั้งของบริษัทและที่บริษัทจัดให้

ใครอยากดูกิจกรรมของ 9 นักนอน ตลอด 3 เดือนแบบ nonstop สามารถเข้าชมได้ที่ https://www.facebook.com/mattresscitythailand และ https://mattresscity.co.th/th

ส่วนลูกค้าที่ดูและสัมผัสสินค้าแล้วจะตัดสินใจเลือกซื้อเลือกใช้หรือไม่ คงต้องลุ้นและติดตาม

เพราะจริง ๆ แล้ว พฤติกรรมผู้บริโภคในการเลือกซื้อเครื่องนอนนั้นมีการเปลี่ยนแปลงมาก หลังเกิดโควิด-19 ซึ่งผู้บริหาร Mattress City ให้ข้อมูลว่า โรคระบาดทำให้เกิดข้อจำกัดในเรื่องการทดลองใช้สินค้า แม้ความต้องการในตัวสินค้าจะยังไม่หายไป แต่วิธีการเลือกซื้อก็ต้องเปลี่ยนไป

“จากเดิมคนเมื่อคิดจะซื้อแล้วก็จะออกไปหาของทันที ไปทดลองสัมผัสด้วยตนเอง แต่ยุคโควิด ลูกค้าต้องศึกษาข้อมูลละเอียด โดยพูดคุยกับแอดมินเชิงสอบถามเยอะขึ้น ทำให้การตัดสินใจซับซ้อนมากกว่าเดิม”

เมื่อผู้บริโภคเปลี่ยน แบรนด์ก็ต้องเปลี่ยนวิธีคิดและการนำเสนอ โดยมุ่งกลยุทธ์การตลาดแบบแปลกใหม่ ทั้งรูปแบบการนำเสนอ การดึงความสนใจ ทำให้เกิดการแข่งขันในด้านคอนเทนต์ โดยเฉพาะบนโลกออนไลน์

Mattress City จึงนำเสนอประสบการณ์ใหม่แบบใช้จริง เพื่อส่งต่อมายังผู้บริโภค ผ่านการบอกต่อ ที่ย้ำถึงจุดเด่นเรื่องของสินค้า คือจบในที่เดียวตามไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว และปลอดโควิด

เพื่อเป็นทางเลือกเเละช่องทางใหม่ ๆ สำหรับลูกค้าที่ไม่ได้มาทดลองสินค้าด้วยตัวเอง

เพราะการขายที่นอนแบบธรรมดา ๆ คงไม่ใช่คำตอบอีกต่อไป

#mattresscity #mattresscityth #นักนอน #9นักนอนตัวจริงของMattressCity