5 เมกะเทรนด์โลก จุดเปลี่ยน CPF อัพเกรด “นวัตกรรมอาหาร”

5 เมกะเทรนด์โลก จุดเปลี่ยน CPF อัพเกรด

CPF ยก “เทคโนโลยี” หัวใจสำคัญพลิกโฉมอุตฯ อาหารไทย ตอบรับ 5 เมกะเทรนด์โลก

วันที่ 27 สิงหาคม 2565 ในงาน Thailand Focus 2022 จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ร่วมแบ่งปันมุมมองเทรนด์และอนาคตอุตสาหกรรมอาหาร บนเวทีเสวนาเรื่อง “The Dynamic Growth in the Global Food Tech Industry”

โดย ชี้ว่า “เทคโนโลยี” เป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอาหารของไทยมีขีดความสามารถเพิ่มขึ้น ตอบรับการเปลี่ยนแปลงและเทรนด์โลกได้

โดยเทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันและความสำเร็จของธุรกิจอาหาร

ทางซีพีเอฟ มุ่งเน้น ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ระบบดิจิทัล IoT การทำงานอัตโนมัติเต็มรูปแบบ เช่น Smart Farm 4.0 ช่วยให้การทำฟาร์มมีประสิทธิภาพสูงมากขึ้น เช่น การใช้ smart silo ที่ช่วยตรวจจับปริมาณอาหารสัตว์ในไซโลและสั่งอาหารมาใส่เพิ่มได้โดยอัตโนมัติ การนำความรู้ด้านวิทยาศาสตร์มาใช้ปรับปรุงพันธุ์สัตว์ให้ดีขึ้น เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการผลิต สัตว์มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีสุขภาพดีขึ้น ช่วยลดจำนวนคนงานที่ทำงานในฟาร์ม ซึ่งจะนำไปสู่ความมั่นคงทางอาหารได้

ทั้งนี้ แนวโน้มของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปหลังการระบาดโควิด-19 มองว่า 5 เทรนด์ของผู้บริโภคที่สำคัญ ที่ช่วยสร้างโอกาสเติบโตให้กับอุตสาหกรรมอาหารของไทยในอนาคต ได้แก่

1.Health and Wellbeing ผู้บริโภคหันมาใส่ใจกับการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ และมีคุณค่าโภชนาการมากขึ้น อาหารเป็นยา อาหารที่ช่วยให้ผู้บริโภคมีสุขภาพที่ดีขึ้น

2.Convenient and Fresh จากการระบาดของโควิด-19 ผู้บริโภคสนใจความสะดวกและความสดใหม่ของอาหาร และ ต้องหาซื้อได้ง่ายและสะดวก ยา

3.Product and Channel Innovation ผู้บริโภครุ่นใหม่ให้ความสนใจการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมถึงบรรจุภัณฑ์ ซึ่งเทคโนโลยีที่ทันสมัยช่วยให้บริษัทสามารถพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็วทันต่อการเปลี่ยนแปลงอีกด้วย

4.Premium and Value for Money ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์อาหารคุณภาพสูง มีความเป็นพรีเมียม และมีความคุ้มค่าต่อเงินที่จ่ายไป

5.Environmental sustainability นอกจากคุณภาพและความปลอดภัย ผู้บริโภคยังเน้นถึงอาหารที่มาจากกระบวนการผลิตที่ดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคม

CPF ให้ความสำคัญในการพัฒนานวัตกรรมอาหารต่างๆ ต่อเนื่องเพื่อตอบรับการเปลี่ยนแปลงและเทรนด์ผู้บริโภคมาอย่างต่อเนื่อง เริ่มจาก ไก่เบญจา (Benja Chicken) ที่เลี้ยงด้วยข้าวกล้องเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็น Superfood 100% เป็นธรรมชาติ ปราศฮอร์โมนเร่งโต ได้รับรองจาก NFS ว่าปลอดยาปฏิชีวนะ ล่าสุด ไก่เบญจา ประสบความสำเร็จเป็นเนื้อไก่สดแบรนด์แรกของไทยสามารถคว้ารางวัล สุดยอดรสชาติอาหารระดับโลกประจำปี 2022 ( Superior Taste Award 2022 ) จากเบลเยี่ยม ได้

นอกจากนี้ หมูพันธุ์ ซีพี คูโรบูตะแล้ว CPF ยังพัฒนาผลิตภัณฑ์หมูชีวา (Cheeva Pork) เป็นเนื้อหมูมีปริมาณโอเมก้า-3 สูงกว่าเนื้อหมูทั่วไป ด้วยการเลี้ยงอาหาร Superfood ได้แก่ Flaxseed น้ำมันปลา สาหร่ายทะเลลึก ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หมูสดที่ได้รับรางวัลชนะเลิศสุดยอดนวัตกรรมอาหาร ในงาน ThaiFex-Anuga Asia 2020

ล่าสุด CPF ยังได้พัฒนานวัตกรรม เนื้อจากพืช ภายใต้แบรนด์ Meat Zero ตอบรับการเติบโตของกลุ่มผู้บริโภคกลุ่มมังสวิรัติทั่วโลก ได้พัฒนาและวิจัยร่วมกับผู้เชี่ยวชาญระดับโลกเป็น PLANT-TEC เทคนิคช่วยให้ผลิตภัณฑ์เนื้อจากพืชมีเนื้อสัมผัส และรสสัมผัสเหมือนเนื้อสัตว์จริง โดยนักเก็ตและไส้เบอร์เกอร์รสกระเทียม Meat Zero และได้รับรางวัล สุดยอดรสชาติอาหารระดับโลก ประจำปี 2022 ( Superior Taste Award 2022 ) ที่เบลเยี่ยม และรางวัล THAIFEX-ANUGA Taste Innovation Show 2022 ในงาน Thaifex-Anuga Asia 2022 ในปีเดียวกัน

“ ปัจจุบัน CPF ส่งออก Meat Zero ไปยังสิงคโปร์ ฮ่องกง และมีแผนจะขยายตลาดต่อไปยังภูมิภาคอื่น”

นายประสิทธิ์ เสริมว่า นอกจากผลิตภัณฑ์เนื้อจากพืชแล้ว CPF ยังให้ความสนใจโปรตีนทางเลือกจากการเพาะเลี้ยงเซลล์เนื้อเยื่อ (Cell-based meat) มองว่าเป็นนวัตกรรมที่จะมาพลิกโฉมอุตสาหกรรมอาหารโลก CPF มองเห็นโอกาสและจัดตั้งทีมงานศึกษาเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด พร้อมกับร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำจากสหรัฐอเมริกา และอิสราเอล นำไปสู่การพัฒนาสินค้าและตลาดในอนาคต

“ประเทศไทยมีภาพลักษณ์ที่ดี เป็นแหล่งผลิตอาหารที่ดีมากของโลก รวมไปถึงอยู่ในโลเคชันที่ดีในการดำเนินการด้านโลจิสติกส์ โดย CPF ได้ใช้ประเทศไทยเป็นฐานเพื่อวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ผลิตเพื่อส่งออก ประเทศไทยมีศักยภาพสูงด้านเกษตรกรรม หากประเทศไทยสามารถพัฒนาวัตถุดิบการผลิตอาหารได้อย่างเพียงพอ จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของประเทศ และนำไปสู่การสร้างมั่นคงด้านอาหารให้กับทั่วโลกได้”