จุรินทร์ถก อย.ซาอุฯ ดันส่งออกไก่ไทย หลังผ่านแล้ว 11 โรงงาน

“จุรินทร์” หารือ อย.ซาอุดีอาระเบีย ขอให้เร่งตรวจและอนุญาตโรงงานชำแหละเนื้อไก่ไทยอีก 28 แห่ง หลังได้รับไฟเขียวแล้ว 11 โรงงาน พร้อมหาทางผลักดันการส่งออกเนื้อวัว เนื้อแพะ เพิ่มขึ้นด้วย

วันที่ 30 สิงหาคม 2565 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการพบปะหารือกับ ดร.ฮีชาม บิน ซาอัด อัล จาดฮี ประธานองค์การอาหารและยาซาอุดีอาระเบีย (SFDA) หรือ อย.ซาอุดีอาระเบีย ที่องค์การอาหารและยาซาอุดีอาระเบีย ว่า ขณะนี้ไทยสามารถส่งออกไก่มาซาอุดีอาระเบียได้แล้ว 11 โรงงาน

ซึ่ง อย.ซาอุดีอาระเบียให้การรับรองแล้ว แต่ยังติดขัดบางส่วน เรื่องการส่งออกชิ้นส่วนไก่ เดิมที่ส่งมาได้ คือ ไก่ทั้งตัว แต่ชิ้นส่วนของไก่ ยังมีข้อเข้าใจไม่ตรงกันกับทาง อย.ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งบอกว่าอนุญาตให้ส่งออกชิ้นส่วนไก่ได้ แต่โรงงานในประเทศไทยหรือผู้ส่งออกของไทยยังเข้าใจว่าไม่สามารถส่งออกมาได้ ตนจะประสานงานกับโรงงานทั้งหมด 11 โรงงาน ให้เข้าใจว่า อย.ซาอุดีอาระเบียอนุญาตให้ส่งออกมาได้และให้เจรจาได้โดยตรง

ทั้งนี้ ยังได้ใช้โอกาสนี้ ยื่นรายชื่อโรงงานชำแหละเนื้อไก่อีก 28 โรงงาน ให้เร่งรัดการตรวจโรงงาน ซึ่ง อย.ซาอุดีอาระเบียแจ้งว่ายินดี ตอนนี้รอเอกสารทั้งหมดจากกรมปศุสัตว์ ตนจะเร่งให้กรมปศุสัตว์ส่งข้อมูลทั้งหมดที่ อย.ซาอุดีอาระเบีย เพื่อเร่งดำเนินการตรวจให้โดยเร็วที่สุด ส่วนเรื่องเนื้อสัตว์ชนิดอื่น ๆ เช่น เนื้อวัว เนื้อแพะ เป็นต้น ซาอุดีอาระเบียยืนยันว่าต้องการเพิ่ม เพราะต้องการเนื้อที่มีคุณภาพดี ราคาถูก และมีความปลอดภัย ซึ่งพร้อมนำเข้าจากหลายประเทศ

โดยไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่พร้อมอำนวยความสะดวก ซึ่งจะต้องมีการประสานงานกันในรายละเอียด โดยกรมปศุสัตว์จะเป็นต้นเรื่อง และให้ทั้ง 2 ฝ่ายคุย และยังได้เชิญชวนให้นักลงทุนของซาอุดีอาระเบียไปร่วมลงทุนที่เมืองไทย ให้การผลิตเนื้อหลายชนิดส่งออกมาซาอุดีอาระเบียสะดวกคล่องตัวขึ้น เพราะเมื่อไปร่วมลงทุน จะทราบความต้องการ ตามหลักการของสินค้าฮาลาลที่ซาอุดีอาระเบียต้องการ

ขณะเดียวกัน อย.ซาอุดีอาระเบีย ต้องการพัฒนาความร่วมมือด้านวิชาการ การผลิตสินค้าฮาลาลที่ได้มาตรฐานกับประเทศไทย ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยมีศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาลที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตนจะประสานจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประสาน อย.ซาอุดีอาระเบียอีกครั้งหนึ่ง เพื่อร่วมมือด้านวิชาการ ส่งเสริมการผลิตอาหารสินค้าฮาลาลร่วมกันให้ได้มาตรฐานในระดับที่ต้องการต่อไป

“การเจรจาครั้งนี้ จะเป็นผลดีกับการส่งออกสินค้าไทยในหลากหลายรูปแบบ หลากหลายสินค้า มายังซาอุดีอาระเบีย จะช่วยให้ตัวเลขการค้าต่อไปสูงขึ้น เพราะตัวเลขการค้าไทยกับซาอุดีอาระเบียมีแนวโน้มที่ดี โดยเฉพาะ 7 เดือนของปีนี้ สามารถส่งออกสินค้ามาซาอุดีอาระเบียได้เป็นบวกถึง 26% จะมีส่วนช่วยทำให้ตัวเลขดีขึ้นต่อไป” นายจุรินทร์กล่าว

ข้อมูลจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ แจ้งว่า สำหรับการผลักดันการส่งออกสินค้าไก่และผลิตภัณฑ์ไปซาอุดีอาระเบีย ในปี 2562 SFDA ได้เดินทางมาตรวจสถานประกอบการทั้งโรงฆ่าสัตว์ปีกและโรงงานแปรรูปสัตว์ปีกของไทย 11 แห่ง เพื่อดำเนินการเปิดตลาดด้านสุขอนามัยสำหรับการดำเนินการนำเข้าสัตว์ปีกจากไทย


ซึ่งกรมปศุสัตว์ได้เรียกร้องให้ซาอุดีอาระเบียยกเลิกมาตรการระงับการนำเข้าสินค้าสัตว์ปีกจากไทยตั้งแต่ปี 2552 ต่อมาในปี 2563 ซาอุดีอาระเบียได้ให้การยอมรับสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย (สกอท.) เป็นหน่วยงานออกเครื่องหมายรับรองฮาลาลของประเทศไทย (Certification Body) ทำให้ไทยเป็นประเทศแรกที่ไม่ใช่มุสลิมมีหน่วยงานที่สามารถออกเครื่องหมายฮาลาลสำหรับการส่งออกสินค้าฮาลาลไปยังซาอุดีอาระเบียได้