เปิดแล้ว! งานวันยางพาราและกาชาดจังหวัดบึงกาฬ 17-23 ม.ค. คนแห่ร่วมงานคึกคัก

วันที่ 17 มกราคม เวลา 17.00 น. มีพิธีเปิดงานวันยางพาราและกาชาดจังหวัดบึงกาฬ ประจำปี 2561 อย่างเป็นทางการ โดยมี นายสุธี มากบุญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นประธานในพิธี

นายสุธีกล่าวว่า ผมในนามของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย รู้สึกเป็นเกียรติและภาคภูมิใจที่มีโอกาสเป็นประธานเปิดงานในวันนี้ จากคำกล่าวรายงานของท่านผู้ว่าฯ ทำให้รับทราบถึงวัตถุประสงค์และเป้าหมายของการจัดงานอย่างชัดเจน

“ผมขอเรียนด้วยความเคารพว่า ขอชื่นชม ขอแสดงความชมเชยในการจัดงานครั้งนี้หลายประการคือ 1.การเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในหลวง ร.10 ซึ่งผู้จัดงานได้จัดนิทรรศการและแสดงให้เห็นว่าพี่น้องชาวบึงกาฬมีความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติสถาบันพระมหากษัตริย์ได้อย่างสมบูรณ์ 2.ถึงแม้ว่าจะได้สถาปนาเป็นจังหวัดที่ 20 ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ 76 ของภูมิภาคของประเทศไทย ไม่นับรวมกรุงเทพฯ ได้มีการจัดงานวันยางพาราฯของบึงกาฬเป็นครั้งที่ 6 ได้อย่างสมบูรณ์แบบ 3.คณะกรรมการจัดงาน มีความรักสามัคคี ทำงานเชิงประชารัฐขอทุกภาคส่วน ช่วยดำเนินการ และฯพณฯ ท่านช่วยส่งเสริม ถือว่าอนาคตข้างหน้า จ.บึงกาฬ จะเป็นจังหวัดที่มีความอุดมสมบูรณ์ ก้าวหน้าเชิงของการทำยางพารา และพืชเศรษฐกิจตัวอื่นได้อย่างมั่นคง”

“4.สิ่งที่เห็นมากขึ้น คือ แม้บึงกาฬเป็นจังหวัดใหม่ มีแหล่งท่องเที่ยวหลายด้านที่น่าสนใจ และการจัดงานอย่างนี้ ในอนาคต จ.บึงกาฬ จะเป็นการเปิดแหล่งท่องเที่ยว และกลุ่มภาคอีสานตอนบนอันประกอบด้วย 5 จังหวัด จะเป็นจังหวัดที่มีเสถียรภาพหลายด้าน และเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีความโดดเด่น 5.วันนี้บึงกาฬมีการดำเนินงานเชิงประชารัฐ ไม่ว่าจะเรื่องโอท็อป การแก้ปัญหาเศรษฐกิจฐานราก เห็นได้ว่ารายได้ต่อหัวต่อคนสูงขึ้นมากในระดับที่น่าพอใจ ถ้าเรามีการดำเนินการในเชิงประชารัฐ ผมเชื่อมั่นว่าในอนาคตข้างหน้ารายได้ต่อหัวจะมากขึ้น ผมย้ำว่าทั้ง 8 อำเภอ หมายรวมถึงพี่น้องในจังหวัด”

นายสุธีกล่าวว่า ส่วนหนึ่งที่ขอชื่นชม เนื่องจากเรามีการจัดงานกาชาดร่วมด้วย ต้องขอบคุณเหล่าทีมงานกาชาด และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่สามารถดำเนินงานได้อย่างสมบูรณ์ ช่วยดูแลพี่น้องประชาชน ที่เข้ามาขอรับบริการของเหล่ากาชาด ผมเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์

“ผมเองนั้น ในฐานะที่เคยเป็นข้าราชการประจำ ขอกราบเรียนว่าในข้อเสนอแนะบางเรื่อง ประการแรก ทุกฝ่าย ทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น สนับสนุนการจัดทำแผนพัฒนากลุ่ม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ให้สอดคล้องกับการแก้ปัญหาในพื้นที่ ตรงนี้เป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ได้รับงบประมาณลงมา ถ้าเราสามารถทำยุทธศาสตร์ได้ชัดเจน งบประมาณจะลงมาตามนี้ ทำให้สามารถพัฒนาและแก้ปัญหาได้” นายสุธีกล่าวว่า

และว่า ส่วนที่สอง บึงกาฬเป็นจังหวัดใหม่ สิ่งที่ต้องช่วยดูแลต่อ คือการผังเมือง ถ้าดีแล้ว ในอนาคตจะเป็นประโยชน์กับพี่น้องชาวบึงกาฬในการพัฒนาประเทศจากภูมิทัศน์ที่สวยงาม เช่นในประเทศเพื่อนบ้านที่เข้ามาเป็นพันธมิตร ส่วนที่สามที่ขอแสดงความชื่นชมมาก คือ การทำการตลาดจริงอยู่ที่วันนี้ภาคเอกชนมีความเข้มแข็ง ในขณะเดียวกันเราต้องพัฒนาตัวเองด้วย เรื่องนวัตกรรมใหม่ๆ โดยเฉพาะยางพาราของเรานั้นมีมูลค่า

นายพิสุทธิ์ บุษยพรรณพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดงานวันยางพาราฯ ว่างานวันยางพาราปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 6 มีส่วนสำคัญอย่างมากต่อจังหวัด เพราะจะเป็นการยกระดับศักยภาพในการพัฒนา เนื่องจากยางพาราเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัด การจัดงานครั้งนี้นับเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับชาวบึงกาฬที่ปลูกยางพารา แม้ว่าขณะนี้เกษตรกรผู้ผลิตยาง กำลังประสบปัญหาในเรื่องราคาผันผวน

“สำหรับการจัดงานครั้งนี้มียุทธศาสตร์สำคัญ 3 ด้าน คือ 1.ยกระดับการจัดงานเป็นมหกรรมที่มีความสำคัญในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 2.พัฒนาศักยภาพด้านการท่องเที่ยว การศึกษา และการประกอบอาชีพ ด้วยกิจกรรมที่หลากหลาย 3.ตอกย้ำว่าจังหวัดบึงกาฬเป็นศูนย์กลางยางพาราของภาคอีสานที่มีความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของจังหวัด และจุดยืนทางยุทธศาสตร์ มุ่งสู่ศูนย์กลางการแปรรูปสินค้าเกษตรเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ด้วยนวัตกรรม”

นายพิสุทธิ์กล่าวว่า จังหวัดบึงกาฬมีศักยภาพหลายด้าน ด้านเศรษฐกิจคือเรื่องการพัฒนายางพารา มุ่งเน้นการแปรรูป เช่น การตั้งโรงงานผลิตหมอนยางพารา และกำลังจะพัฒนาสู่ที่นอนยางพารา สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล นอกจากนี้ในเรื่องเมืองการค้าชายแดนในปี 62 จะมีการสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 ซึ่งเป็นมิติใหม่ของการเชื่อมโยงการค้าการลงทุน ระหว่างไทย ลาว เวียดนาม และจีนตอนใต้ ซึ่งจะเอื้อต่อการลงทุนด้านอุตสาหกรรมยางพาราในอนาคต

“นอกจากนี้จังหวัดยังมีศักยภาพด้านการท่องเที่ยว และพร้อมจะผลักดันเป็นพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ รวมถึงการสร้างสนามบินประจำจังหวัดในอนาคตด้วย” นายพิสุทธิ์กล่าว

นายนิพนธ์ คนขยัน นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ กล่าวว่า ก่อนอื่นขอกราบขอบพระคุณท่านประธานและท่านผู้มีเกียรติที่มาร่วมงานทุกท่าน และอยากขอกราบขอบพระคุณทั้ง 3 ท่าน คือ เรามีงานวันนี้และได้เปิดโรงงานหมอนได้เพราะ 1.ท่านพินิจ จารุสมบัติ 2.ท่านจาง เหยิน 3.ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ และหัวหน้าส่วนราชการ และหากไม่มีท่านที่ 4 คือ “มติชน” กราบเรียนว่า ถ้าไม่มีมติชน ก็ไม่มีงานบึงกาฬ ไม่มีผู้สื่อข่าวที่จะนำเรียนให้รัฐบาลรับทราบ และสิ่งสำคัญคือชาวบึงกาฬทุกท่าน

“วันนี้ท่านรัฐมนตรีมารับทราบ มาเปิดงาน ให้เกียรติคนบึงกาฬ และจะมารับทราบในการแก้ปัญหา โดยบึงกาฬมียางอยู่ประมาน 1.2 ล้านไร่ ประมาณ 1 ล้านไร่ เกษตรกรเป็นคนยากจน ชาวไร่ ชาวนาอยู่กว่า 20 ไร่ ซึ่งท่านพินิจพาผมไปชิงเต่า ประเทศจีน และจาง เหยิน ประธาน บริษัท รับเบอร์ วัลเล่ย์ กรุ๊ป จำกัด ประเทศจีน บอกว่าต้องแปรรูป ผมก็ถามท่านว่าถ้ายางบึงกาฬเยอะขนาดนี้ท่านยินดีจะช่วยหรือไม่ วันนี้ขอบคุณครับ พี่น้องสหกรณ์ที่ร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจ ขอบคุณธนาคารออมสินที่ให้กู้เงิน และขอบคุณรัฐบาลและจะขอบคุณอีกต่อไป” นายนิพนธ์กล่าว

นายนิพนธ์กล่าวต่อว่า เราเริ่มก่อตั้งสหกรณ์ยางพาราบึงกาฬ มีทั้งหมด 14 สหกรณ์เพื่อรวมเป็นหนึ่งสหกรณ์ เพื่อแปรรูป เพิ่มมูลค่ายางพารา เราสามารถผลิตหมอนโรงงานแรกที่ท่านรองนายกรัฐมนตรี วิษณุ เครืองาม บอกว่ายางพาราต้องบึงกาฬโมเดล วันนี้การแก้ปัญหายางพารา รัฐบาลแก้ปัญหาถูกทาง แต่ต้องเต็มที่กว่านี้ เช่น อ.นพรัตน์ วิชิตชลชัย นักวิจัยยางบอกว่าวันนี้เราสามารถเอายางมาราดยาง เอายางมาทำหมอน ทำรองเท้าได้ทั้งหมด ขอให้ท่านรัฐมนตรีนำเรียนรัฐบาล ขอเพื่อพี่น้องคนบึงกาฬและเพื่อประเทศไทย วันนี้ต้องระบายยางให้มาก ต้องแปรรูปอย่างเดียว เพิ่มมูลค่าอย่างเดียว ซึ่งวันนี้นายกสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทยก็มา หากรัฐบาลเอาจริงเรื่อยางพารานั่นคือระบายให้หมด ทั้งท้องถิ่น เทศบาล อบจ.จะคอยขับเคลื่อน

นายฐากูร บุนปาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะที่วงจรราคายางผันผวนขึ้นไปสูงสุดแล้วลงมาต่ำสุด แต่งานวันยางพาราและกาชาดบึงกาฬ ซึ่งผ่านมาเป็นปีที่ 6 แล้วมีการจัดงานที่ใหญ่ขึ้นทุกปี เหมือนการเติบโตของตัวจังหวัดบึงกาฬ จากที่เคยอยู่รั้งท้าย วันนี้รายได้ต่อครัวเรือนของคนในจังหวัดขึ้นมาอยู่อันดับที่ 3 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แล้วถ้าสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 5 สร้างเสร็จ รายได้จะเป็นอย่างไร

“ถามว่าทำไมงานวันยางพาราบึงกาฬ ซึ่งเป็นผลผลิตของพี่น้องบึงกาฬจึงเจริญเติบโตทุกปี ในฐานะคนนอก ผมมองเห็นความเปลี่ยนแปลงความเจริญก้าวหน้าของจังหวัดบึงกาฬ ผมสรุปในสายตาคนนอกว่า บึงกาฬเจริญได้ด้วยคุณสมบัติ 3 ประการ ประการที่ 1 ความไม่งอมืองอเท้าของคนในจังหวัด ซึ่งหลายจังหวัดผู้คนก็ไม่ได้งอมืองอเท้า แต่ผมไม่เห็นพี่น้องที่ปลูกยางพาราเอง แล้วบินไปขายเองถึงประเทศจีน ทั้งหมดนี้ชาวบ้าน องค์กรบริหารส่วนท้องถิ่นทำเองทั้งหมด พวกท่านไม่รอเทวดา ท่านแก้ปัญหาของท่านเอง ประการที่ 2 ท่านมีความพร้อมเพียง พร้อมใจเป็นอันหนึ่งอันเดียว ซึ่งงานใหญ่ขนาดนี้คงทำไม่ได้ถ้าพี่น้องทั้งหมดไม่เอาด้วย ประการที่ 3 บึงกาฬเป็นจังหวัดที่โชคดี ต้องขอบคุณรัฐบาลที่ส่งผู้ว่าและส่วนราชการที่ตั้งใจทำงานและสนับสนุนอย่างเต็มที่มาทำงาน

“ตามที่ ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวไว้เมื่อปีที่แล้วว่า บึงกาฬเป็นต้นแบบของประชารัฐ ซึ่งจุดนี้เองที่ทำให้บึงกาฬได้พลิกจากจังหวัดที่ยากจนให้กลายเป็นจังหวัดลำดับที่ 3 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และอาจขยับเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศในอนาคต” นายฐากูรกล่าว

Mr.Yuan Zhongxue ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยยางและพัฒนาเทคโนโลยี ยางรถยนต์แห่งประเทศจีน/ประธานกรรมการใหญ่ บริษัท Mesnac กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับเชิญมาร่วมงานวันยางพาราครั้งที่ 6 ซึ่งครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งเเรกย้อนกลับไปเมื่อปี 2555 ได้รับการเชิญมาร่วมงานวันยางเเละกาชาดบึงกาฬแล้ว

“ระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมาถ้าปีไหนผมไม่ได้มาเองก็จะส่งตัวเเทนจาก ศูนย์วิจัยยางและพัฒนาเทคโนโลยี ยางรถยนต์แห่งประเทศจีน เเละบริษัท รับเบอร์ วัลเล่ย์ กรุ๊ป จำกัดประเทศจีนมาร่วมงานทุกปี เเละด้วยการผลักดันจากสภาวัฒนธรรมไทย-จีน เเละส่งเสริมความสัมพัพันธ์ โดยนายพินิจ จารุสมบัติ เป็นประธานได้ส่งเสริมความร่วมมือไทยและจีน ซึ่งเปรียบเหมือนสะพานเชื่อมโยงประเทสไทยเเละประเทศจีนเรื่องยางพารา ในตลอดเวลาที่ผ่านมาจนประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยม สภาวัฒนธรรมเปรียบเหมือนสะพานเชื่อมไทยกับจีน”