เมื่อวันที่ 19 มกราคม กรณีกระแสข่าวการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำของ จ.ระยอง 330 บาท/วัน สูงกว่าจังหวัดอื่นนั้น เรื่องนี้ นายนพดล ตั้งทรงเจริญ ประธานหอการค้า จ.ระยอง กล่าวว่า หลังจากได้พบกับผู้ประกอบการหลายรายต่างบ่นอุบ โรงงานอุตสาหกรรมเอสเอ็มอี จ.ระยอง ส่วนใหญ่ยังต้องใช้แรงงานจำนวนมาก เช่น โรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ ต้องใช้แรงงานถึง 500-600 คน/วัน หากขึ้นค่าแรง เขาจะต้องมีรายจ่ายเพิ่มขึ้น 500,000-600,000 บาท/เดือน ปีหนึ่งนับล้านบาท ซึ่งจะส่งผลกระทบหนัก ค่าใช้จ่ายสูงขึ้น ต้นทุนก็สูงขึ้น ปัจจุบันผลกำไรจากการประกอบธุรกิจค่อนข้างต่ำ เมื่อมีการเพิ่มค่าแรงซึ่งเป็นค่าใช้จ่าย จะทำให้ธุรกิจที่ใช้แรงงานมากจะอยู่ยาก
“หากถามในส่วนของแรงงานว่าดีมั้ยเมื่อขึ้นค่าแรง 330 บาท ดีแน่เพราะเขามีรายได้เพิ่มขึ้น แต่เมื่อค่าแรงขึ้นมันจะส่งผลกระทบธุรกิจทุกอย่างรวมทั้งเกษตรกร วันนี้ราคาสับปะรด กก. ละไม่ถึง 10 บาท ขาดทุน หากยังขึ้นค่าแรงอีกเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดก็อยู่ไม่ได้ เพราะค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นผลกำไรก็ไม่มี เพราะภาคเกษตรยังไม่ได้มีการพัฒนาไปถึง 4.0 ซึ่งใช้หุ่นยนต์แทน เพราะฉะนั้นโรงงานเล็กมีผลกระทบแน่ แต่ถ้าโรงงานใหญ่ระดับบริษัทมหาชนใน จ.ระยอง มองว่าได้รับผลกระทบน้อย เนื่องจากผลกำไรตอบแทนสูงอยู่แล้วเขาพร้อมที่จะให้ ส่วนเรื่องท่องเที่ยวบริการ โรงแรม ขนาดเอสเอ็มอี วันนี้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ถามว่าจะขึ้นค่าที่พักได้ไหม เช่นเดียวกับร้านอาหารจะบวกราคาค่าอาหารได้ไหม”
- สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ซีอีโอ “เอไอเอส” สละโสดในวัย 62 ปี
- กองทุนประกันวินาศภัยถังแตก แจ้งชะลอจ่ายคืนหนี้ตั้งแต่ มี.ค. 2567
- เรือชนสะพานถล่มในสหรัฐ กระทบเศรษฐกิจ การขนส่งสินค้าเป็นอัมพาต
นายนพดล ตั้งทรงเจริญ ประธานหอการค้า จ.ระยอง กล่าวว่าวันนี้ จ.ระยอง ค่าแรง 330 บาท กรุงเทพฯค่าแรง 320 บาท สูงกว่ากรุงเทพฯ แสดงว่าค่าใช้จ่าย จ.ระยอง สูงกว่า กรุงเทพฯ ซึ่งต่อไปก็จะเกิดการหลั่งไหลแรงงานเพิ่มเข้ามาใน จ.ระยอง ทุกวันนี้ประชากรแฝง จ.ระยองก็มากอยู่แล้ว ก็จะเกิดปัญหาเรื่องสาธารณูปโภคที่ไม่เพียงพออยู่ทุกวันนี้ โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ที่กำลังจะเกิด เรื่องความชัดเจนในหลายอย่างก็ยังไม่มี อยากให้รัฐบาลลองทบทวนดูใหม่ว่าการขึ้นค่าแรงครั้งนี้มันจะมีผลดีผลเสียอันไหนมากกว่ากัน ในความคิดเห็นผม ผลเสียมีมากกว่า
นายนพดล ประธานหอการค้า จ.ระยอง กล่าวและว่า หากมีการประกาศขึ้นค่าแรงเมื่อไหร่ เราต้องมีการรวมตัวเพื่อที่จะขอผ่อนผันให้ลดลงน้อยกว่านี้ ค่าแรงลดลงมาเท่าไหร่ก็จะเป็นประโยชน์กับโรงงานเอสเอ็มอีบ้านเราเท่านั้น แต่ถ้าไม่ลด เอสเอ็มอีบ้านเราจะอยู่ยาก
“วันนี้เราบอกว่าเราไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ตอนนี้ท่านยังทิ้งคนชั้นกลางไว้ข้างหลังหมดเลย ผมว่าจะมีการปิดโรงงานเพิ่มขึ้นแน่นอน เพราะว่าวันนี้เรื่องไม้ยาง เฟอร์นิเจอร์ และเกษตรยังมีปัญหาเรื่องราคาตกต่ำ”
ที่มา : มติชนออนไลน์