
“เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย” เผยแนวโน้มปี 2566 กลุ่มลวด เคเบิล ท่อ ท่อร้อยสาย อุตสาหกรรมหล่อโลหะ และโลหะการ ดีมานด์พุ่งหลังโครงการสาธารณูปโภค และอสังหาริมทรัพย์ฟื้นตัว 200 บริษัท 28 ประเทศทั่วโลก รวมตัวจัดมหกรรมครั้งใหญ่ ด้านโครงสร้างพื้นฐานใหญ่สุดในอาเซียน “Wire & Tube Southeast Asia 2022-GIFA & METEC Southeast Asia 2022” สนอง 30 กลุ่มอุตสาหกรรม
วันที่ 5 ตุลาคม 2565 นายเกอร์นอท ริงลิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย กล่าวว่า ภาพรวมการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของเอเชียและอาเซียนเริ่มเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดยเฉพาะภาคการผลิต กลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน และการก่อสร้างประเภทต่าง ๆ ซึ่งในไตรมาส 4/2565 และปี 2566 คาดว่าจะเริ่มเห็นการขยับตัวที่ดีเมื่อเทียบกับในช่วงไตรมาส 1-3 ปี 2565 ที่ผ่านมา
- เจาะลึกพฤติกรรม “Silver Age” สูงวัย ไม่เท่ากับ คนแก่
- เปิดพอร์ตห้างเซ็นทรัล-โรบินสัน 75 สาขา ในมือซีอีโอใหม่ “ณัฐธีรา บุญศรี”
- LINE ชี้แจงหลังทำข้อมูลผู้ใช้รั่วกว่า 4 แสนรายการ
การฟื้นตัวดังกล่าวยังนำมาซึ่งความต้องการในด้านงานประเภทชิ้นส่วน โลหะ อุปกรณ์เพื่อการก่อสร้าง รวมถึงเป็นอานิสงส์สำคัญที่ทำให้ผู้ดำเนินธุรกิจหลายรายพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อรองรับกับความต้องการและการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจ เช่น ด้านความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กลุ่มเทคโนโลยีอัจฉริยะ การจัดการข้อมูล และอื่น ๆ อีกหลายประเภท
ดังนั้น เมื่อมีความต้องการใช้ทรัพยากรเหล่านี้ในช่วงเปิดประเทศ จึงต้องกระตุ้นภาคการผลิตอุตสาหกรรมหนักระหว่างไทย อาเซียน เอเชีย และยุโรป ด้วยการจัด 4 มหกรรมใหญ่ในประเทศไทย ได้แก่ 1.งานแสดงสินค้านานาชาติด้านอุตสาหกรรมลวด เคเบิล ครั้งที่ 14 สำหรับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Wire Southeast ASIA 2022) 2.งานแสดงสินค้านานาชาติด้านอุตสาหกรรมท่อและท่อร้อยสาย ครั้งที่ 13 สำหรับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Tube Southeast ASIA 2022)
3.งานแสดงสินค้าและฟอรั่มนานาชาติด้านการหล่อโลหะเพื่อภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครั้งที่ 1 (GIFA Southeast Asia 2022) และ 4.งานแสดงสินค้าและฟอรั่มนานาชาติด้านโลหะวิทยาเพื่อภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครั้งที่ 1 (METEC Southeast Asia 2022)
ซึ่งงานแสดงสินค้า 4 มหกรรมใหญ่ด้านโครงสร้างพื้นฐานครั้งนี้ ได้รับความสนใจจากบริษัทในประเทศไทย และบริษัทต่างชาติถึง 90% เข้าร่วมโชว์นวัตกรรม โดยหลายบริษัทเป็นผู้แสดงสินค้าที่เคยร่วมออกบูทในงานของเมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย มาตั้งแต่ปี 2540 ซึ่งในปีนี้มีบริษัทที่เข้าร่วมกว่า 200 บริษัท จาก 28 ประเทศทั่วโลก และ 5 พาวิลเลี่ยนนานาชาติจากเยอรมัน อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ อังกฤษ และจากสมาคมหล่อโลหะไทย
มีเป้าหมายในการเผยแพร่ข้อมูลของธุรกิจให้เป็นที่รู้จักและยอมรับในวงกว้าง และชี้ให้เห็นถึงบทบาทของเทคโนโลยีลวด เคเบิล ท่อและท่อร้อยสาย การหล่อโลหะ และโลหะการที่มีต่อวงจรธุรกิจ อุตสาหกรรมมากกว่า 30 กลุ่ม เช่น ยานยนต์สมัยใหม่ อาคาร การก่อสร้าง อุตสาหกรรมอวกาศ เหมืองแร่ การขนส่ง
นอกจากการกระตุ้นการเติบโตกลุ่มลวด เคเบิล ท่อและท่อร้อยสาย การหล่อโลหะ และเหล็กแล้ว ยังคาดว่าทั้ง 4 มหกรรมจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ คือ กลุ่มลวดและเคเบิล คาดว่าจะมีการเติบโตตามความต้องการลงทุนกลุ่มเคเบิลใต้ดินและใต้น้ำ การยกระดับระบบส่งและจำหน่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (สมาร์ทกริด) การเปลี่ยนสายส่งเก่าไปเป็นสายไฟฟ้าแรงสูง
รวมถึงเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตที่ผู้พัฒนาต่าง ๆ กำลังแข่งขันกันด้วยความลดเร็วเพื่อเชื่อมไลฟ์สไตล์แบบใหม่ เช่น การแพทย์-การประชุมทางไกล และในช่วงปี 2565-2571 คาดว่าจะมีอัตราเติบโตเฉลี่ยปีละ 4.4% จากปัจจุบันที่มีมูลค่า 1.9 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ตลาดสำคัญของเอเชีย ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น อินเดีย ส่วนความต้องการใช้จะอยู่ในกลุ่มการบินและอวกาศ การก่อสร้างอาคาร น้ำมัน ก๊าซและพลังงาน ไอทีและโทรคมนาค
กลุ่มท่อและท่อร้อยสาย จะมีบทบาทอย่างมากต่อภาคอุตสาหกรรมน้ำมัน ก๊าซ การส่งต่อของเหลว และกลุ่มการลงทุนใต้ดิน ซึ่งโอกาสของผู้ประกอบการไทยและทั่วโลกอยู่ที่การพัฒนากลุ่มท่อไร้รอยต่อ ท่อที่สามารถทนต่อแรงดันได้สูง ทั้งนี้ เอเชีย-แปซิฟิก เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถือเป็นตลาดการใช้กลุ่มท่อและท่อร้อยสายที่สำคัญเนื่องจากมีภาคการผลิตขนาดใหญ่ เช่น ปิโตรเลียม และปิโตรเคมี
โดยครองสัดส่วนทั่วโลกกว่า 44% ในด้านปริมาณการใช้กว่า 1,700 ล้านตัน นอกจากนี้ยังคาดการณ์ว่าภายใน 5 ปี อุตสาหกรรมดังกล่าวจะมีการเติบโตในด้านมูลค่าเฉลี่ย 6.2% จากเดิมที่มีมูลค่า 1.29 แสนล้านดอลล่าร์สหรัฐ สู่ 2.31 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2570
กลุ่มการใช้เหล็ก-การหล่อโลหะ ซึ่งแม้จะยังมีความผันผวนในด้านราคาแร่เหล็ก อัตราเงินเฟ้อ แต่คาดว่าจะค่อย ๆ เติบโตได้ตามอุปสงค์ของภาคการก่อสร้างแบบค่อยเป็นค่อยไป และกลุ่มที่คาดว่าจะเติบโตได้คือวัสดุก่อสร้างน้ำหนักเบาเพื่อส่งเสริมการประหยัดพลังงาน
รวมถึงการเปลี่ยนจากกระบวนการหล่อแบบธรรมดาไปสู่เทคโนโลยีใหม่โดยใช้โลหะรีไซเคิลเป็นปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญอีกประการหนึ่งสำหรับอุตสาหกรรมนี้ อย่างไรก็ตามในส่วนของประเภทการผลิตและการใช้คาดว่ากลุ่มเหล็กแผ่นรีดร้อน เหล็กแผ่นรีดเย็น เหล็กแผ่นรีดตรง จะมีการใช้มากที่สุดในภาคโครงสร้างอุตสาหกรรม การปรับปรุงงานสาธารณูปโภค และอสังหาริมทรัพย์