ไทยจับมืออิตาลีมุ่งขยายความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนระหว่างกัน

 


 

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้พบหารือกับนายฟรันเชสโก ซาเวรีโอ นีซีโอ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิตาลีประจำประเทศไทย เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2561 ในโอกาสที่ได้เข้าเยี่ยมคารวะเพื่อแสดงความยินดีในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง โดยได้หารือถึงแนวทางการขยายความสัมพันธ์ด้านการค้าและการลงทุนระหว่างกัน

“ไทยและอิตาลีมีความสัมพันธ์ที่ดีและราบรื่นมาตลอด โดยในปี 2559 อิตาลีเป็นคู่ค้าอันดับ 25 ของไทย และเป็นคู่ค้าอันดับ 4 ของไทยในสหภาพยุโรป นอกจากนี้ ปีนี้ยังเป็นปีที่ทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ทางการทูตครบรอบ 150 ปี จึงเป็นโอกาสดีที่ไทยและอิตาลีจะขยายความสัมพันธ์ให้ดียิ่งขึ้นในทุกมิติผ่านกรอบต่างๆ เช่น พหุภาคี ภูมิภาค และทวิภาคี นอกเหนือจากการจัดกิจกรรมทั้งของภาครัฐและเอกชนเพื่อส่งเสริมการค้าและการลงทุน การขยายความร่วมมือในสาขาที่ต่างฝ่ายมีความเชี่ยวชาญ ตลอดจนการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ”นายสนธิรัตน์ กล่าว

นายสนธิรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า อิตาลีเป็นประเทศที่มีความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs และด้านการออกแบบสินค้าและแฟชั่น โดยยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ในด้านดังกล่าว เพื่อเพิ่มศักยภาพการประกอบธุรกิจของ SMEs ของไทย นอกจากนี้ ไทยและอิตาลีได้ตกลงที่จะผลักดันให้นักธุรกิจเข้าร่วมงานแสดงสินค้าที่จัดในประเทศ เพื่อเป็นโอกาสในการแสวงหาช่องทางการค้าและการลงทุน

โดยฝ่ายไทยได้เชิญชวนให้นักธุรกิจอิตาลีเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในไทย อาทิ งาน Bangkok Gems & Jewelry Fair 2018 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21 25 กุมภาพันธ์ 2561 และงาน THAIFEX-World of Food Asia 2018  ขณะเดียวกัน ฝ่ายอิตาลีก็เชิญชวนให้นักธุรกิจไทยเข้าร่วมงานแสดงสินค้าต่างๆ ที่อิตาลีด้วย

ในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ชื่นชมถึงผลสำเร็จของการจัดประชุม Thai-Italian Business Forum ซึ่งเป็นเวทีการหารือระหว่างผู้บริหารบริษัทชั้นนำของไทยและอิตาลี ที่เอื้อประโยชน์ต่อภาคธุรกิจและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยและอิตาลี ปัจจุบันมีสมาชิก 41 บริษัท ทั้งนี้ ภาครัฐของทั้งสองประเทศให้ความสนับสนุนมาตลอด และในปีนี้ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมครั้งที่ 4

ทั้งนี้ ในปี 2559 ไทยและอิตาลีมีมูลค่าการค้ารวม 3.44 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 5.67 โดยสินค้าส่งออกสำคัญของไทย เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ อาหารสัตว์เลี้ยง ผลิตภัณฑ์ยาง เป็นต้น สินค้านำเข้าสำคัญของไทย เช่น เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ เครื่องใช้เบ็ดเตล็ด ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เป็นต้น