ไทย-คิงส์เกตฯนั่งโต๊ะเจรจา อนุญาโตตุลาการ3ฝ่ายครบ

นายวิษณุ ทับเที่ยง อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงความคืบหน้ากรณีข้อพิพาทกับบริษัทคิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ บมจ.อัครา รีซอร์เซส ได้ยื่นฟ้องรัฐบาลไทยถึงการละเมิดข้อตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย (TAFTA) หลังจากไทยใช้มาตรา 44 ภายใต้รัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) สั่งให้ระงับกิจการเหมืองทองคำในไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2560

ล่าสุดได้มีการแต่งตั้งให้นักกฎหมายผู้เชี่ยวชาญด้านอนุญาโตตุลาการระดับสูง จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นประธานคนกลาง ตามกระบวนการอนุญาโตตุลาการอย่างเป็นทางการแล้ว จากก่อนหน้านี้รัฐบาลไทยแต่งตั้ง นายคริสโตเฟอร์ โธมัส (Christopher Thomas) เป็นทนายความทางด้านอนุญาโตตุลาการฝั่งไทย และคิงส์เกตฯ แต่งตั้งนายนีล แคปแลนด์ (Neil Kaplan) เป็นทนายความด้านอนุญาโตตุลาการฝั่งออสเตรเลีย

วิษณุ ทับเที่ยง

หลังจากนี้ทั้ง 3 ฝ่าย คือ รัฐบาลไทย อนุญาโตตุลาการ คิงส์เกตฯ จะเริ่มประชุมแผนเพื่อเตรียมการกรอบการเจรจา และทำข้อตกลงร่วมกัน กำหนดประเทศเจรจาเพื่อขอใช้กฎหมายประเทศนั้น และเสนอเข้า ครม.ให้อำนาจฝ่ายอนุญาโตตุลาการทำหน้าที่แทนรัฐบาลไทย คาดว่าจะสรุปได้ภายในเดือน มี.ค.

นายสมชาย หาญหิรัญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า นายลอเรนต์ เลวี่ (Laurent Levy) ได้ถูกเลือกให้เป็นประธานอนุญาโตตุลาการคนกลาง โดยไทยเสนอเจรจาที่ฮ่องกง

ขณะเดียวกันกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหม่ที่ได้เสนอเข้าซื้อหุ้นของบริษัทคิงส์เกตฯ ซึ่งแพ้โหวตในที่ประชุมผู้ถือหุ้นก่อนหน้านี้ ยังสนใจที่เสนอซื้อหุ้นใหม่อีกครั้ง หากสามารถซื้อหุ้นได้จริงจะมีผลต่อนโยบายของบริษัทอัคราฯแน่นอน

อย่างไรก็ตาม กระทรวงอุตสาหกรรม ยังดำเนินตามนโยบายภายใต้ พ.ร.บ.แร่ พ.ศ. 2560 (ฉบับใหม่) ในการจะพิจารณาเปิดเหมืองใหม่หรือเหมืองเก่าที่ขอต่อใบอนุญาต จะต้องปลอดภัยไม่สร้างผลกระทบต่อชุมชน ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม และสุขภาพ ซึ่งจำเป็นต้องศึกษาข้อมูลพื้นฐาน เพื่อเก็บตัวอย่างดิน น้ำ อากาศ แวดล้อมรอบข้างอย่างรอบคอบ

 

ติดตามข่าวสาร ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ค ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
www.facebook.com/PrachachatOnline
ทวิตเตอร์ @prachachat

สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น Prachachat ได้แล้วทั้งระบบ iOS และแอนดรอยด์