ราคาผักแนวโน้มลดลง แหล่งผลิตเริ่มปลูกใหม่หลังน้ำลด

ราคาผัก

กรมการค้าภายในเผยผลสำรวจสถานการณ์ผักสดล่าสุด พบแหล่งเพาะปลูกสำคัญ เริ่มทำการปลูกใหม่แล้ว หลังน้ำลด คาดปริมาณเข้าสู่ภาวะปกติในไม่ช้า

วันที่ 21 ตุลาคม 2565 นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมได้ติดตามสถานการณ์ผักสดที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม ทำให้ผักหลายชนิดได้รับความเสียหาย ส่งผลให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น ประกอบกับค่าขนส่งที่เป็นผลมาจากราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้น ทำให้ราคามีการปรับเพิ่มสูงขึ้น แต่ล่าสุด พบว่าในพื้นที่เพาะปลูกสำคัญ ระดับน้ำได้ลดลงแล้ว และชาวสวนได้เริ่มทำการเพาะปลูกผักใหม่ในหลายพื้นที่แล้ว จึงคาดว่าปริมาณผลผลิตจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในอีกไม่ช้า

วัฒนศักย์ เสือเอี่ยม
วัฒนศักย์ เสือเอี่ยม

ทั้งนี้ กรมยังได้ประสานตลาดกลางในความส่งเสริม อาทิ ตลาดศรีเมือง ตลาดไท ตลาดสี่มุมเมือง จัดส่งผักเข้าไปเสริมในจังหวัดที่มีปริมาณสินค้าน้อย รวมทั้งให้เพิ่มผักสดจำหน่ายผ่านรถ Mobile พาณิชย์ด้วย เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน และเพิ่มทางเลือกในการบริโภคผัก ตามนโยบายที่ได้รับจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้สั่งการให้กรมติดตามสถานการณ์ผัก และสินค้าอุปโภคบริโภคอื่น ๆ อย่างใกล้ชิด และเร่งแก้ไขปัญหาทันที หากพบมีปัญหาขาดแคลน หรือปัญหาด้านราคา

สำหรับสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ณ วันที่ 20 ตุลาคม 2565 หลังจากที่กรมได้ทำการสำรวจและติดตามการจำหน่าย พบว่าภาพรวมราคาเนื้อสัตว์ปรับลดลง โดยหมูเนื้อแดงเฉลี่ยอยู่ที่ 179 บาท/กิโลกรัม (กก.) ลดลง 5-8% ราคาไก่น่องติดสะโพกอยู่ที่ 80.56 บาท/กก. ลดลงประมาณ 5-19% ไก่เนื้อหน้าอกราคาอยู่ที่ 89.50 บาท/กก. ลดลงประมาณ 5-8% สำหรับไข่ไก่ เบอร์ 3 ราคาอยู่ที่ 3.84 บาท/ฟอง ลดลง 2%

ส่วนน้ำมันปาล์มบรรจุขวด 1 ลิตร ราคาปัจจุบันเฉลี่ยทั้งประเทศอยู่ที่ 51.25 บาท/ขวด โดยในห้างค้าปลีก-ส่งราคาจำหน่ายต่ำสุดอยู่ที่ 47-48 บาท/ขวด ลดลง 10% ขณะที่สินค้าในกลุ่มซอสปรุงรส ของใช้ประจำวัน ผลิตภัณฑ์ซักล้าง และเครื่องใช้ไฟฟ้า ในห้างค้าปลีก-ส่ง ยังคงมีการจัดโปรโมชั่นลดราคาอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นการฉวยโอกาสขึ้นราคา หรือค้ากำไรเกินควร หรือพบร้านค้าใด ไม่มีการปิดป้ายราคา ขอให้แจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบ และหากพบการกระทำความผิด จะดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด โดยหากมีการฉวยโอกาสขึ้นราคา ค้ากำไรเกินควร มีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และไม่ปิดป้ายแสดงราคา มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท