กรมชลฯ ปรับลดระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา 1,567 ลบ.ม./วินาที

กรมชลฯ ปรับลดระบายน้ำ

ปรับลดระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา 1,567 ลบ.ม./วินาที หลังน้ำลดลงต่อเนื่อง ปริมาณน้ำเริ่มทยอยกลับเข้าสู่ระดับตลิ่ง กรมชลประทานเร่งระดมเครื่องจักร เครื่องมือฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัยเต็มกำลัง

วันที่ 3 พฤศจิกายน 2565 นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า สถานการณ์ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ปัจจุบัน (3 พ.ย.) ที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,750 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/วินาที แนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท เริ่มทยอยลดลง

มีปริมาณน้ำไหลผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา 1,567 ลบ.ม./วินาที แนวโน้มลดลงเช่นกัน ทำให้พื้นที่ริมตลิ่งท้ายเขื่อนเจ้าพระยา อาทิ อ.พรหมบุรี อ.อินทร์บุรี อ.เมือง จ.สิงห์บุรี เริ่มทยอยกลับเข้าสู่ระดับตลิ่ง ส่วนที่สถานีวัดน้ำ C.29A อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา มีปริมาณน้ำไหลผ่านเฉลี่ย 2,348 ลบ.ม./วินาที

ด้านแม่น้ำป่าสัก ปัจจุบันเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ได้ปรับลดการระบายน้ำเช่นกัน ที่สถานี S.28 ท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี ปริมาณน้ำไหลผ่านอยู่ที่อัตรา 41 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้ที่ท้ายเขื่อนพระรามหก อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ปรับลดลงตามไปด้วย อยู่ที่ 207 ลบ.ม./วินาที แนวโน้มลดลงต่อเนื่องเช่นกัน

ส่วนระดับน้ำในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีแนวโน้มลดลง และเริ่มทยอยกลับเข้าสู่ระดับตลิ่งเช่นเดียวกัน ได้แก่

สถานีวัดน้ำ C.35 บ้านป้อม ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำ 4.00 เมตร (ร.ท.ก.) ลดลงจากวานนี้ 21 เซนติเมตร ปัจจุบันต่ำกว่าระดับตลิ่ง 0.35 เมตร

สถานีวัดน้ำ C.36 คลองบางหลวง บ้านบางหลวงโดด ต.บางหลวงโดด อ.บางบาล ระดับน้ำ 5.40 เมตร (ร.ท.ก.) ลดลงจากวานนี้ 22 เซนติเมตร ปัจจุบันสูงกว่าระดับตลิ่ง 1.04 เมตร

สถานีวัดน้ำ C.37 คลองบางบาล บ้านบางบาล ต.บางบาล อ.บางบาล ระดับน้ำ 4.41 เมตร (ร.ท.ก.) ลดลงจากวานนี้ 18 เซนติเมตร ปัจจุบันสูงกว่าระดับตลิ่ง 0.27 เมตร

สถานีวัดน้ำ C.67 แม่น้ำน้อย สะพานหัวเวียง ต.หัวเวียง อ.เสนา ระดับน้ำ 4.76 เมตร (ร.ท.ก.) ลดลงจากวานนี้ 16 เซนติเมตร ปัจจุบันสูงกว่าระดับพื้นที่ลุ่มต่ำ 2.01 เมตร

สถานีวัดน้ำ C.68 ตลาดเสนา อ.เสนา ระดับน้ำ 3.88 เมตร (ร.ท.ก.) ลดลงจากวานนี้ 14 เซนติเมตร ปัจจุบันสูงกว่าระดับตลิ่ง 0.68 เมตร

อย่างไรก็ตาม กรมชลประทานจะเร่งดำเนินการช่วยเหลือฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัยทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง พร้อมเร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่ลุ่มต่ำและสำรวจตรวจสอบอาคารชลประทานต่าง ๆ ในพื้นที่ที่สถานการณ์น้ำท่วมเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน เพื่อเก็บกักน้ำและส่งน้ำใช้ในการอุปโภค บริโภคและการเกษตรได้ในช่วงฤดูแล้ง

สำหรับปริมาณน้ำใช้การแหล่งน้ำทั่วประเทศทุกขนาด 44,162 ล้าน ลบ.ม. (76%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 36,398 ล้าน ลบ.ม. (76%)

ส่วนสถานการณ์น้ำ จ.อุบลราชธานี 3 พ.ย. 65 สถานีวัดน้ำท่า M.7 บริเวณสะพานเสรีประชาธิปไตย อ.เมืองอุบลราชธานี จ.อุบลราชธานี มีปริมาณน้ำไหลผ่านในอัตรา 3,660 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้ระดับในลำน้ำมีแนวโน้มลดลง คาดว่าสถานการณ์น้ำในแม่น้ำมูลจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในช่วงกลางเดือน พ.ย. 65