นายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2561 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดประเภท หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และการดำเนินการของสถานประกอบกิจการเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ของลูกจ้างซึ่งเป็นวัยรุ่น พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ เนื่องจาก มาตรา 4 และ มาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. 2559 ได้กำหนดหลักเกณฑ์ให้ผู้ประกอบกิจการมีหน้าที่ในการให้ความรู้แก่วัยรุ่นที่เข้าสู่การทำงานในสถานประกอบกิจการซึ่งมีอายุระหว่าง 15 – 20 ปี และให้กระทรวงแรงงานมีหน้าที่ออกกฎกระทรวงเพื่อให้มีการปฏิบัติตาม พ.ร.บ. นี้ สำหรับสาระสำคัญของร่างกฎกระทรวงดังกล่าวกำหนดให้สถานประกอบกิจการจะต้องจัดให้มีการให้ข้อมูลข่าวสารเรื่องการตั้งครรภ์ของวัยรุ่น โดยการจัดทำคู่มือ บอร์ดประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ความรู้แก่ลูกจ้างในเรื่องการป้องกันการตั้งครรภ์ การคุมกำเนิด การแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ การแท้ง ภาวะแทรกซ้อนอันเนื่องจากการแท้ง และโรคติดต่อ ทางเพศสัมพันธ์ การติดเชื้อเอชไอวี
อธิบดี กสร. กล่าวต่อไปว่า กรณีสถานประกอบกิจการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 200 คนขึ้นไป ซึ่งกฎกระทรวงว่าด้วยการจัดสวัสดิการในสถานประกอบกิจการ พ.ศ.2548 กำหนดให้ต้องจัดให้มีพยาบาลประจำในสถานประกอบกิจการ
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
ดังนั้น นายจ้างจึงต้องมอบหมายให้พยาบาลมีหน้าที่ให้คำปรึกษาแก่ลูกจ้างวัยรุ่นในสถานประกอบกิจการ นอกจากนี้ หากลูกจ้างต้องการขอคำปรึกษาหรือขอรับบริการอนามัยเจริญพันธุ์ให้ถือเป็นหน้าที่ของนายจ้างต้องสนับสนุนให้ลูกจ้างเข้าถึงบริการจากสถานพยาบาล รวมไปถึงมีระบบการส่งต่อโดยการประสานงานช่วยเหลือเพื่อให้ลูกจ้างได้รับการจัดสวัสดิการสังคมด้วย ซึ่งขั้นตอนต่อไปจะนำไปสู่การพิจารณาเพื่อปรับปรุงแก้ไขของคณะกรรมการกฤษฎีกา ก่อนจะประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป